xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

นักกอบกู้ชาติ-ผันมาเป็น นักกอบโกยกินชาติ

เผยแพร่:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


นายโรเบิร์ต มูกาเบ ไม่ยอมล้างมือในอ่างทองคำ ด้วยลูกยุของภรรยาสาวสวยเกรซที่อายุอ่อนกว่าถึง 41 ปี และมีความทะเยอทะยานไขว่คว้าหาอำนาจและความมั่งคั่ง

จะเรียกว่า พังเพราะเมีย (สาว) ก็ไม่ผิดเลย เพราะภรรยาคนที่ 2 ที่แอบเป็นชู้กับนายกฯ โรเบิร์ต มูกาเบ ตั้งแต่ยังไม่ได้เปลี่ยนรัฐธรรมนูญจากนายกฯ มาเป็นประธานาธิบดี เมื่อหล่อนเป็นแค่เสมียนพิมพ์ดีดในทำเนียบ ได้จ้องหาโอกาสเข้าใกล้นายกฯ มูกาเบที่มีภรรยา (แซลลี-มิตรร่วมรบสมัยสงครามปลดแอกจากรัฐบาลผิวขาวส่วนข้างน้อยของนายเอียน สมิธ...เคยติดอาวุธและสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ และถูกจับกุมคุมขังเป็นเวลานาน) ที่เจ็บออดๆ แอดๆ ด้วยโรคไต

น.ส.เกรซมีสามีตั้งแต่หล่อนอายุแค่ 18 และมีลูกชาย 1 คน ต่อมาได้หย่ากับสามีคนแรกขณะกำลังมาเริงรักกับผู้กอบกู้ประเทศซิมบับเว และยังออกข่าวอยู่เนืองๆ ว่า หล่อนได้รับอนุญาตจากสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง...ท่านผู้หญิงแซลลีให้มาเป็นเพื่อนดูแลท่านประธานาธิบดีมูกาเบ...จนท่านผู้หญิงแซลลีถึงแก่อสัญกรรม (ไม่แน่ใจว่าตรอมใจตายเพราะฝีมือของทั้งมูกาเบและเกรซหรือไม่)

มูกาเบแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่กับเกรซที่ผันตัวมาเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ที่มีใบหน้าสะสวยและผิวสีอ่อนกว่าเพื่อนร่วมชาติ ต่อมามีลูก 3 คนกับปธน.มูกาเบ โดยหล่อนได้สร้างสถิติการชอปปิ้งที่ร้านหรูของปารีส บางวันถึง 3-4 ล้านปอนด์! ขณะที่มีข่าวลือเป็นคุณนายหลายเปอร์เซ็นต์ต่อโครงการต่างๆ ในซิมบับเวที่ใช้งบประมาณอย่างไม่โปร่งใส

เธอเริ่มวางแผนสร้างฐานการเมืองในพรรคใหญ่สุดที่ครองเสียงข้างมากในสภาตลอด 37 ปีนี้คือ พรรคซานู (ZANU-PF) โดยเข้ายึดปลีกสตรีของพรรค และโจมตีรองปธน.หญิงของปธน.มูกาเบ ว่า โกงกินรวมทั้งวางแผนโค่นอำนาจของสามี ส่วนสามีก็หูเบา (ก็เพราะมีเมียสาวสวย จะเชื่อคำกระซิบของเกรซอย่างโงหัวไม่ขึ้น) ออกคำสั่งปลดรองปธน.จ๊อยส์ มูจูรู (อยู่ในตำแหน่งช่วง 2004-2014) ซึ่งเคยร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับมูกาเบเพื่อเอกราชจากรัฐบาลผิวขาว และคุณหญิงเกรซ (มีสมญาว่า Gucci Grace) จากความฟุ้งเฟ้อกับเสื้อผ้าอาภรณ์และชีวิตที่หรูหรา หรือบางคนเรียกเธอว่า “คุณนายไร้ความสง่างาม-Disgrace”) ก็กระซิบให้ปธน.ตลอดกาลมูกาเบตั้งมิตรร่วมรบ (รุ่นน้อง) สมัยสงครามสู้เพื่อเอกราชคือ นายเอ็มเมอร์สัน มนากากวา อดีตรมต.กลาโหม และประธานฝ่ายความมั่นคง เข้ามารับตำแหน่งรองปธน. เขามีอายุอ่อนกว่ามูกาเบ 21 ปี เคยตั้งกลุ่ม “จระเข้” ช่วงต่อสู้เพื่อเอกราช สามารถระเบิดรถไฟของอังกฤษได้หลายครั้ง จนได้ฉายาว่า “ไอ้เข้” จอมยุทธ์ เคยอยู่ในคุกจากรัฐบาลผิวขาวถึง 10 ปีข้อหาบ่อนทำลายชาติ ตั้งแต่อายุแค่ 18 ปี (โทษถูกลดจากประหารชีวิต เพราะยังเด็กอยู่) ได้หนีไปอยู่ประเทศแซมเบียไปเรียนด้านกฎหมาย

นายมนากากวาเข้ามารับตำแหน่งได้แค่ 3 ปี ก็เกิดขัดคอขัดขวางกับคุณหญิงเกรซ ที่วางเป้าจะเป็นทายาททางการเมืองของปธน.มูกาเบ ผู้ชราอายุถึง 90 กว่าแล้ว...ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยอีก เมื่อคุณหญิงเกรซกระซิบข้างหูปธน.มูกาเบ ว่า รองปธน.มนากากวาคิดจะยึดอำนาจ ซ่องสุมผู้คนในกองทัพ ทั้งโกงกินมากมาย

ปธน.มูกาเบผู้ชราได้ปลดรองปธน.มนากากวา แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งๆ ที่กองทัพได้ออกมาเตือนผ่านหน้าจอทีวีว่า สถานการณ์การเมืองไม่ค่อยปกติ แต่การปลดรองปธน.ก็ยังเกิดขึ้นแล้วนายมนากากวาก็หนีไปกบดานที่ประเทศแอฟริกาใต้

นายมนากากวาเคยเป็นถึงรมต.กลาโหม เคยคุมงานด้านข่าวกรองและความมั่นคง มีสายสัมพันธ์ดีมากกับกองทัพ และเคยเป็นมิตรคู่ใจของมูกาเบตลอดช่วงที่มูกาเบปราบปรามฝ่ายค้านปี 2008 และโกงการเลือกตั้ง (นายมูกาเบเคยแพ้คะแนนผู้นำฝ่ายค้านในการเลือกตั้งรอบแรก โดยนายแซงกิไร-Tsvangirai-ที่มีฐานมาจากประธานสหภาพแรงงานได้หาญลุกขึ้นสู้กับมูกาเบในการเลือกตั้ง ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ประเทศซิมบับเวอยู่ในฐานะใกล้ล้มละลาย-เขาได้ชัยชนะในรอบแรก แต่ไม่ถึง 50% เพราะนายมนากากวาช่วยจัดการโกงเลือกตั้งแล้วพอถึงเลือกตั้งรอบ 2 นายมูกาเบก็ชนะ โดยมีการฆ่าผู้นำฝ่ายค้านตายจำนวนมากเป็นพันคน

ชะตากรรมของประเทศซิมบับเว คงหนีไม่พ้นความระทมทุกข์ของประชาชนส่วนข้างมาก (มีพลเมืองหนีตายจากเศรษฐกิจและการเมืองที่ล่มสลายไปแล้วถึง 3 ล้านคนจากประชากรแค่ 16.6 ล้านคน ที่หนีไปทำมาหากินอยู่ต่างประเทศ) เพราะมีผู้นำที่ครั้งหนึ่งเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้ประเทศชาติ แต่มีภรรยาผู้บ้าคลั่งอำนาจและฟุ้งเฟ้อ จนทำให้วีรบุรุษกลายเป็นผู้กอบโกยกินชาติ พลิกจากประเทศที่มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร และทรัพยากรแร่ธาตุสำคัญๆ (มีทั้งโครเมียม, ลิเธียม, ทองคำ, ทองแดง, ทองคำขาว, เหล็ก, ซีเมนต์, ปุ๋ย) เคยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของแอฟริกา และนี่เพิ่งเจอเหมืองเพชรใหญ่ (คงเสร็จคุณหญิงเกรซในบัดดล)

วันนี้ ซิมบับเวคือประเทศที่ประชากรยากจนที่สุดในโลก อยู่คู่คี่กับ DR Congo ประชากร 80% ของชาติ อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนของธนาคารโลก ประชาชนกำลังจะหนีเสือปะจระเข้ จระเข้ตัวจริงคือนายมนากากวา (ที่ฝ่ายทหารที่ทำการยึดอำนาจต้องการให้ขึ้นมาเป็นปธน.)

เขาไม่ใช่อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ หรือนายอานันท์ ปันยารชุน ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ช่วงเปลี่ยนถ่ายอำนาจหลอก!

ประชาชนออกมาบนถนนเรือนล้าน เพื่อให้มูกาเบลาออก แต่เขาดื้อแพ่ง และวันอังคาร(ที่ 21 พ.ย.) ก็จะมีการลงคะแนนในสภาถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง โดย ส.ส. 2/3 ที่เคยนิยมเขา ก็จะเปลี่ยนใจมาถอดเขาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

ผู้เคยกอบกู้ชาติอย่างนายมูกาเบ ไม่ยอมถอย แทนที่จะยอมตกลงลาออก และต่อรองไม่ให้ดำเนินคดี (โกงชาติ) หลังลงจากตำแหน่ง เขายังฟังเกรซอยู่ทุกคำ

จุดจบของอดีตผู้กอบกู้ชาติ คือการเป็นนักโทษคดีฉ้อโกงกอบโกยกินชาติ ด้วยมองผิดๆ ว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษ มีผู้คนที่ยังศรัทธาอยู่มาก ก็ต้องจบชีวิตอย่างหมดสิ้นทุกสิ่ง แม้จะเคยเป็นวีรบุรุษกู้ชาติก็ตาม

ความโลภมาออกฤทธิ์เอา เมื่อมีอำนาจล้นฟ้า และไม่ยอม “พอ” ก็ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวกับชื่อเสียงในอดีตที่เคยสร้างไว้ครั้งหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น