xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

แฟชั่น Big Data และ Data Science จะทำได้ต้องพัฒนา Peopleware

เผยแพร่:   โดย: อาจารย์ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์

ภาพจาก www.most.go.th
อาจารย์ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชา Business Analytics and Intelligence
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์
ผู้อำนวยการศูนย์คลังปัญญาและสารสนเทศ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์


ความเห่อ Big Data และ Data Science แบบไร้ความรู้ จะทำให้ทั้ง Big Data และ Data Science พังพินาศ และประเทศชาติก็จะไม่ได้อะไรเลย นอกจากเสียเงินไปเปล่าๆ

ทุกวันนี้ทั้งราชการและเอกชน เน้นไปที่สองอย่างคือ ซื้อ hardware กับ software ซื้อมาแล้วก็ใช้ไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้อะไร

หน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งซื้อ Server มาอลังการมาก ซื้อ Software เยอะแยะมากมาย มี license ของ Software ทาง analytic ดีๆ มากกว่าที่นิด้ามีเสียอีก แต่ไม่มี user สักคนเดียว

พอรัฐบาลประกาศออกมาว่าจะให้มี Big data พวก อบต. ไปซื้อ software สำหรับเก็บรูปกิจกรรมของ อบต. ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ และไม่มีอะไรที่ควรซื้อเลย เพราะมีทั้ง freeware และ open source ให้ใช้มากมาย

หน่วยงานราชการระดับชาติจะซื้อ Software อีก 90 ล้าน แต่ทั้งหน่วยงานไม่มีคนรู้เรื่อง big data analytic ไม่ทราบว่าจะซื้อมาทำไม

Vendor และ Consultant เอา freeware มาขายให้ลูกค้าเอกชน แล้วบอกว่าจะซื้อ software ตัวไหน ลูกค้าเอกชนก็งง ไม่รู้วว่าจะเลือกตัวไหนดี มาถามผม ผมเลยถามว่าจะซื้อทำไมมัน freeware ทั้งหมด ตกลงจะซื้อ solution หรือ consultation หรือ software กันแน่

มีมากมายที่มาถามว่าควรซื้อตัวไหน แทนที่จะถามว่า โจทย์ทางธุรกิจที่ต้องการตอบคืออะไร ต้องใช้ข้อมูลอะไรบ้าง และต้อง analytics อย่างไรจึงจะได้ actionable knowledge และเมื่อได้ความรู้มาแล้วจะเอาไป draft และ implement ออกมาเป็น strategy อย่างไร เพื่อให้ได้ competitive advantage

ปัญหาเลยเกิดการถลุงใช้เงินซื้อ Software และ Hardware ตามกระแสแฟชั่นด้าน Big Data และ Data Science สุดท้ายจะไม่ได้ return on investment แต่อย่างใด

สิ่งที่ต้องพัฒนามากที่สุดคือ Peopleware คนต่างหากที่สำคัญที่สุด ทำอย่างไรให้คนมีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่มี IT skill ที่ obsolete แบบเก่าๆ ทำอย่างไรให้คนมีทักษะในการวิเคราะห์สังเคราะห์ประเมินและบูรณาการความรู้ไปสู่กลยุทธ์ได้อย่างแท้จริง

ลูกศิษย์ผมคนหนึ่ง พอ CEO ต้องการจะ implement งานในบริษัทมี vendor มาเสนอขาย software เพื่อทำ analytics ในราคา 20 ล้านบาท แกเดินไปบอก CEO ว่าทำเองได้ โดยไม่ต้องใช้เงินสักบาท มี freeware และ open source ที่ผมสอนไปให้ใช้ แล้วเขาก็อาสาทำงานนี้ให้บริษัททำให้ประหยัดเงินไปได้ 20 ล้านบาทและ CEO ตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งเขาขึ้นไปเป็นผู้จัดการ

การพัฒนาบุคลากรด้าน Business Analytics and Data Science จึงเป็นหัวใจหลักของ Digital transformation เข้าไปสู่ยุคของ Artificial intelligence, Machine learning, Cloud computing, และ Big data หาใช่การวิ่งไล่ซื้อ hardware และ software อย่างที่ประเทศไทยกำลังทำอยู่แม้แต่น้อย

ถ้ามี Peopleware เก่ง ไม่ต้องไปลงทุนใน software หรือ hardware มากมายเลย แต่คนต้องเก่งจริง ปัญหาคือทุกวันนี้ขาดแคลนคนที่มีความรู้จริงด้านนี้อย่างรุนแรงเหลือเกิน

ปัญหาขาดแคลนคนด้านนี้นั้นหนักมาก ทำให้หลายแห่งเริ่มคิดถึง automated machine learning ซึ่งทำได้ดีในระดับหนึ่งแต่ไม่สามารถทดแทน Peopleware ได้ทั้งหมดอยู่ดี

สิ่งที่ควรทำคือพัฒนาคนให้เก่งและมีความคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ สังเคราะห์ ประเมิน เพื่อสร้าง Actionable knowledge และนำไปใช้จริง จึงจะเป็นประโยชน์กับการพัฒนาประเทศ และไม่เป็นการทำลายงบประมาณไปอย่างสูญเปล่า อีกประการคือภาครัฐและภาคเอกชนต้องลงทุนกับการพัฒนาและรักษาบุคลากรด้านนี้ให้ดีซึ่งต้องใช้เวลาและความพยายามสูงมาก

Digital transformation สิ่งที่ยากที่สุดคือการพัฒนาคนให้มี digital literacy และ digital literacy ไม่ได้หมายความว่าแค่ใช้ computer เป็น แต่ต้องคิดเป็นและคิดได้เก่งกว่าคอมพิวเตอร์ว่าจะสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำอะไร แล้วจะได้อะไร เพื่อจะเอาไปทำอะไร แล้วจะได้ประโยชน์อะไร แล้วต้องเตรียมอะไรให้คอมพิวเตอร์มันบ้าง

ฝากให้ราชการไทยและบริษัทเอกชนช่วยกันคิดด้วยว่าอย่าเห่อ Data Science ตามกระแสแฟชั่น และอย่าคิดแค่จะซื้อ software และ hardware มาแทน people ware ได้ ซึ่งไม่มีทางทำแล้วจะประสบความสำเร็จ เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะ digital transformation ที่ต้องใช้สมอง ความพยายาม มากกว่าการใช้เงินแต่อย่างเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น