คณะกรรมการ PPP อนุมัติร่างยุทธศาสตร์ปี 60-64 จำนวน 22 โครงการ มูลค่า 1.62 ล้านล้านบาท พร้อมรับทราบความคืบหน้าโครงการตามมาตรการ PPP Fast Track รวม 11 โครงการ มูลค่า 9.34 แสนล้านบาท ขณะที่ "บิ๊กตู่" ลั่นถึงเวลาเดินหน้าประเทศ รับปากยังไม่ขึ้นภาษี ขอแรงช่วยกันทำให้ทุจริตเป็นศูนย์
วานนี้ (30 ส.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP)โดยที่ประชุมได้เห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (แผนยุทธศาสตร์ PPP) พ.ศ. 2560 - 2564 ซึ่งได้นำหลักการสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาใช้เป็นกรอบแนวคิดในการจัดแผนยุทธศาสตร์ PPP โดยมีมูลค่าโครงการลงทุนรวม 1.62 ล้านล้านบาท
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการ PPP เปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์ PPP ประกอบด้วยกิจการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ จำนวน 22 กิจการ แบ่งเป็น กิจการที่สมควรให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Opt - out) จำนวน 4 โครงการ และกิจการที่รัฐส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Opt - in) จำนวน 18 โครงการ
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการ PPP ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการภายใต้มาตรการ PPP Fast Track จำนวน 11 โครงการ มูลค่าวงเงินลงทุนรวม 934,200 ล้านบาท โดยโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าวงเงินลงทุนรวม 335,432 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการตาม PPP Fast Track อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 598,768 ล้านบาท
*** "นายกฯ" ลั่นถึงเวลาเดินหน้าประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2560 (Prime Minister's Export Awards 2017) ว่า การพัฒนาเศรษฐกิจ และสินค้าส่งออก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ตนไม่มีอะไรจะกล่าวไปมากกว่ายินดี และภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย และมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่ต้องเปลี่ยนผ่านประเทศของเรา ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
"ผู้ส่งออกมีคำสั่งซื้อมากขึ้น สืบเนื่องจากการจัดทำนโยบายของรัฐบาล การปรับปรุงกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ให้เป็นสากล เรามีคณะทำงานทั้งในส่วนของยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งต้องขอบคุณรองนายกฯสมคิด ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ที่ได้ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติ และทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ทั้งหมดเราต้องทำให้มากกว่าเดิม โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เตรียมพร้อมในการรับมือจากปัจจัยต่างๆ และปัญหาจากทั่วโลก ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องที่ต้องแก้ไขให้เป็นศูนย์ให้ได้ คือ เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ที่ได้สัญญาไว้กับคนทั้งประเทศ ต้องทำให้โปร่งใส ไม่มีทั้งผู้รับ และผู้ให้ ผลประโยชน์ เราต้องทำให้ได้ ขอให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น จะได้มีเงินจ่ายภาษีได้มากขึ้น แต่ยืนยันว่า ยังไม่ได้ขึ้นภาษี
วานนี้ (30 ส.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP)โดยที่ประชุมได้เห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (แผนยุทธศาสตร์ PPP) พ.ศ. 2560 - 2564 ซึ่งได้นำหลักการสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาใช้เป็นกรอบแนวคิดในการจัดแผนยุทธศาสตร์ PPP โดยมีมูลค่าโครงการลงทุนรวม 1.62 ล้านล้านบาท
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการ PPP เปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์ PPP ประกอบด้วยกิจการโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ จำนวน 22 กิจการ แบ่งเป็น กิจการที่สมควรให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Opt - out) จำนวน 4 โครงการ และกิจการที่รัฐส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Opt - in) จำนวน 18 โครงการ
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการ PPP ได้รับทราบความคืบหน้าโครงการภายใต้มาตรการ PPP Fast Track จำนวน 11 โครงการ มูลค่าวงเงินลงทุนรวม 934,200 ล้านบาท โดยโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าวงเงินลงทุนรวม 335,432 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการตาม PPP Fast Track อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 598,768 ล้านบาท
*** "นายกฯ" ลั่นถึงเวลาเดินหน้าประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2560 (Prime Minister's Export Awards 2017) ว่า การพัฒนาเศรษฐกิจ และสินค้าส่งออก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ตนไม่มีอะไรจะกล่าวไปมากกว่ายินดี และภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย และมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่ต้องเปลี่ยนผ่านประเทศของเรา ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
"ผู้ส่งออกมีคำสั่งซื้อมากขึ้น สืบเนื่องจากการจัดทำนโยบายของรัฐบาล การปรับปรุงกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ให้เป็นสากล เรามีคณะทำงานทั้งในส่วนของยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งต้องขอบคุณรองนายกฯสมคิด ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ที่ได้ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติ และทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ทั้งหมดเราต้องทำให้มากกว่าเดิม โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เตรียมพร้อมในการรับมือจากปัจจัยต่างๆ และปัญหาจากทั่วโลก ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องที่ต้องแก้ไขให้เป็นศูนย์ให้ได้ คือ เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ที่ได้สัญญาไว้กับคนทั้งประเทศ ต้องทำให้โปร่งใส ไม่มีทั้งผู้รับ และผู้ให้ ผลประโยชน์ เราต้องทำให้ได้ ขอให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น จะได้มีเงินจ่ายภาษีได้มากขึ้น แต่ยืนยันว่า ยังไม่ได้ขึ้นภาษี