พันธมิตรฯ เตรียมเอาผิดทางอาญา กรรมการป.ป.ช. กรณีไม่อุทธรณ์ "สมชาย-ชวลิต-พัชรวาท" สลายชุมนุม 7 ตลาฯ ตัดตอนแค่“สุชาติ เหมือนแก้ว”ชี้เข้าข่ายช่วยเหลือพวกพ้อง ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บาดเจ็บล้มตาย "บิ๊กป้อม"ฉุนถูกถามคดีสลายพันธมิตรฯ ลั่นไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทำแต่งาน ป.ป.ช. ยันทำตามหลักฐาน ปัดช่วยอุ้ม "บิ๊กป๊อด" ด้าน "นิพิฎฐ์" ชี้ป.ป.ช.ควรยื่น อุทธรณ์ทั้ง 4 คน หวั่นยื่น"สุชาติ"แค่คนเดียว ทำสังคมไม่ไว้ใจกระบวนการยุติธรรม
เมื่อเวลา 11.30 น.วานนี้ (30ส.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์ คณะทำงานพันธมิตรฯ ฉบับที่ 3/2560 ภายหลังจากการประชุมหารือ กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ ยื่นอุทธรณ์คดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ วันที่ 7 ต.ค.51 เฉพาะ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. แต่ไม่ยื่นอุทธรณ์นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.
โดยพันธมิตรฯ มีมติว่าจะดำเนินคดีอาญา ต่อคณะกรรมการป.ป.ช.ที่เกี่ยวข้องกับการลงมติดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการลงมติที่ไม่เป็นธรรม เป็นการฝืนมติป.ป.ช.ชุดเดิม ที่มีหลักฐานชี้มูลความผิดจำเลยทั้งสี่อย่างชัดเจน อีกทั้งมติของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ยกฟ้องคดีดังกล่าว ก็ไม่เป็นเอกฉันท์ มีผู้พิพากษาเสียงขางน้อย ที่ให้เอาผิดจำเลยทั้ง 3 คนด้วย และคำวินิจฉัยของผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยในคดีดังกล่าว ก็มีน้ำหนัก ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะไม่อุทธรณ์จำเลยทั้งสามคน
การไม่อุทธรณ์จำเลยทั้งสาม น่าจะเป็นการช่วยเหลือให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ไม่ต้องมีการพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาอีกครั้งอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังเห็นว่า กรรมการป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน ได้มาจากคสช. และบางส่วนสืบเนื่องจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่พล.ต.อ.พัชรวาท จำเลยในคดีนี้ก็เป็นน้องชายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม นอกจากนั้นกรรมการ ป.ป.ช.บางคน ยังเคยพยายามที่จะถอนคดีนี้ออกจากศาลด้วย ทำให้สังคมอาจเชื่อว่า การลงมติของป.ป.ช.ครั้งนี้ เป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่อุทธรณ์จำเลย เพราะต้องการช่วยเหลือพรรคพวก ไม่สนใจการให้ความเป็นธรรมต่อผู้บาดเจ็บล้มตาย จากการสลายการชุมนุมครั้งนั้น
นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่า พล.ต.ท.สุชาติ จะอำมหิตขนาดนั้น จากการที่ตนเคยประสานงานกับพล.ต.ท.สุชาติ ถึง 3 ครั้ง ก็ยอมแต่โดยดี พล.ต.ท.สุชาติ น่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่ถูกจำคุก 42 ปี ในคดีระบายข้าวแบบจีทูจี คือ กูพูดไม่ได้ และมีความพยายามจงใจจะตัดตอนกัน และเป็นการเลือกปฏิบัติ มติป.ป.ช.ครั้งนี้ ขัดแย้งกับผลการไต่สวนของป.ป.ช.เอง จะอ้างว่าเป็นคณะกรรมการคนละชุด ก็ไม่ได้ หลักชี้มูลก็จะไม่มีหลัก เปลี่ยนไปตามทิศทางลม สุดท้ายเรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่ของป.ป.ช. ที่ต้องทำให้เกิดบรรทัดฐานในการชุมนุมที่ควรจะเป็น และการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่
"ถ้าไม่อุทธรณ์ 3 คน แสดงว่าฝ่ายการเมือง ซึ่งต่อไปในอนาคตมีการชุมนุมก็สั่งตำรวจให้สลายการชุมนุม แล้วสุดท้ายตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ ก็กลายเป็นจำเลยไปในที่สุด อันนี้ก็ไม่เป็นธรรมแก่ข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ด้วยซ้ำไป น่าเสียดายที่ป.ป.ช.ไม่ได้ตระหนักในหน้าที่ตัวเอง ที่จะทำให้เกิดคำวินิจฉัยที่จะเป็นบรรทัดฐานในอนาคตได้ เป็นหน้าที่ของพวกเรา ที่ต้องแสวงหาความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนที่บาดเจ็บ และเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว จากนี้ก็คงจะมีการประชุมเหยื่อ ประชุมทีมกฎหมาย ว่าจะใช้ช่องทางไหนอย่างไร แต่อยู่ในกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ" นายสุริยะใส กล่าว
นายวีระ สมความคิด ตัวแทนพันธมิตรฯ ที่ยื่นร้องกรณีสลายการชุมนุม 7 ตุลาฯ ต่อ ป.ป.ช. กล่าวว่า มีหลายช่องทาง และวิธีที่ดำเนินคดีต่อป.ป.ช.ซึ่งสามารถทำได้ทันที ถ้าไม่ประสบผล ก็จะมีมาตรการอื่นตามมา ซึ่งคณะทำงานด้านกฎหมาย และแกนนำพันธมิตรฯ ขอใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานและประชุมกันอีกครั้ง ว่าจะเริ่มด้วยวิธีใดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
**"บิ๊กป้อม"ฉุนถูกถามคดีสลายพธม.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ยื่นอุทธรณ์ 3 จำเลย ซึ่งมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ในคดีสลายการชุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 51 กลับยกเว้น พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.ว่า ตนไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ เพราะไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวตั้งแต่แรกแล้ว สื่อเคยเห็นตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือไม่ ตนไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากทำแต่งาน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า อาจจะเป็นเพราะเกรงใจที่ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ก็วิจารณ์ไปเลย เพราะผมไม่ได้ทำอะไร เขาทำมาตั้งนานแล้ว คดีตั้งกี่ปีมาแล้ว ผมยังไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเลย จังหวะนี้ผมต้องมาเป็นรมว.กลาโหม ก็มาหาว่ายุ่งเกี่ยว ส่วนจะเป็นการให้ พล.ต.ท.สุชาติ มารับบาปแทนหรือไม่ ผมไม่รู้เรื่อง สื่อถามแบบนี้ไม่ได้" พล.อ.ประวิตร กล่าว
*** ป.ป.ช.ยันทำตามหลักฐาน-ปัดอุ้ม"ป๊อด"
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า มติดังกล่าว ป.ป.ช.พิจารณาจากพยานหลักฐาน และคำพิพากษากลาง คำวินิจฉัยส่วนตัวขององค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ อย่างละเอียด จึงอุทธรณ์เฉพาะ พล.ต.ท.สุชาติ คนเดียว หากอุทธรณ์จำเลยที่ 1-3 ด้วยนั้น ยังห่างไกล ประเด็นที่ ป.ป.ช.จะอุทธรณ์ เนื่องจากต้องคำนึงว่าจะอุทธรณ์จะสำเร็จหรือไม่ด้วย โดยวันที่ 31 ส.ค.นี้ จะไปยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมศาลฎีกาฯ เพื่อไม่ให้สุ่มเสี่ยงต่อกรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 195
ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตการอุทธรณ์เพียงพล.ต.ท.สุชาติ คนเดียว เพื่อช่วยเหลือจำเลยที่เหลือ โดยเฉพาะพล.ต.อ.พัชรวาท น้องชายรองนายกรับมนตรี นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ป.ป.ช.ดำเนินการทุกอย่างตามพยานหลักฐาน การจะมองว่าช่วยเหลือใครหรือไม่นั้น เป็นมุมมองแต่ละคน ส่วนที่ ป.ป.ช.ชุดที่แล้วเคยมีมติเอาผิดจำเลยทั้ง 4 ราย แต่ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันกลับเลือกอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 4 คนเดียวนั้น ถือเป็นคนละขั้นตอนกัน เปรียบเทียบกันไม่ได้
**ป.ป.ช.ควรยื่นอุทธรณ์ทั้ง 4 คน
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ป.ป.ช.ควรจะยื่นอุทธรณ์กับจำเลยทั้ง 4 คน เพื่อทำให้คดีถึงที่สุด ไม่ทำให้ผู้เสียหายเกิดความค้างคาใจ และยังติดใจเรื่องนี้อยู่ ตนเชื่อว่าเวลาศาลฎีกาฯ ตัดสินอย่างไรแล้ว ประชาชนคงจะรับได้ เพราะคดีมันถึงที่สุดแล้ว แต่ถ้าหากไปทำให้คดียังไม่ถึงที่สุด โดยป.ป.ช.ไม่ยอมสั่งฟ้องนั้น ก็จะทำให้เกิดข้อกังขาต่อสังคมได้ โดยเฉพาะในประเด็นครหาของสังคมว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจจา ประธาน ป.ป.ช.นั้น มีความใกล้ชิดกับตระกูลวงษ์สุวรรณ
"ขณะนี้บ้านเมืองที่มันมีปัญหามากก็เพราะว่าความไม่ไว้วางใจกัน จนนำไปสู่ความขัดแย้ง ความรุนแรง เพราะฉะนั้น เราต้องสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นในสังคม โดยการสร้างความไว้วางใจทางกระบวนการยุติธรรม อย่างหนึ่งก็คือการให้คดีไปถึงที่สุด โดยศาลสูงสุด ในทางกลับกัน ถ้าเลือกอุทธรณ์บางคน ไม่อุทธรณ์บางคน ความไม่ไว้วางใจก็จะยังอยู่" นายนิพิฏฐ์ กล่าว