นายวีระ สมความคิด อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมด้วยกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ยื่นหนังสือเร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการอุทธรณ์ผลคำพิพากษาคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551 ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจำเลย
นายวีระ กล่าวว่า เนื่องจากใกล้ครบกำหนด 30 วันที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องยื่นอุทธรณ์ผลคำพิพากษาคดีดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 195 และเมื่อเร็วๆ นี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่คำพิพากษาคดีดังกล่าวฉบับเต็มแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ศึกษา และพบว่าในคำวินิจฉัยส่วนตนขององค์คณะผู้พิพากษารายหนึ่งที่เป็นเสียงข้างน้อยเห็นแย้งในคดีนี้ เขียนตามข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงไว้ชัดเจนว่า ทำไมจึงมีเหตุให้ต้องลงโทษจำเลยทั้ง 4 โดยกลุ่มพันธมิตรฯ มีความกังวลว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ เพราะเชื่อว่ายังมีรายละเอียดอีกเป็นจำนวนมากที่เป็นประโยชน์กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมดังกล่าว กลุ่มคนเหล่านี้อยากได้ความเป็นธรรมคืนมา หวังว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.คงไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ระยะเวลาอันจำกัดดังกล่าว ที่เหลือเวลาอีกประมาณ 4 วัน จึงครบกำหนดตามรัฐธรรมนูญ การยื่นอุทธรณ์อาจไม่สามารถทำได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ครบถ้วน จึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปอีก 1 เดือน
นายวีระ กล่าวว่า เนื่องจากใกล้ครบกำหนด 30 วันที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องยื่นอุทธรณ์ผลคำพิพากษาคดีดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 195 และเมื่อเร็วๆ นี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่คำพิพากษาคดีดังกล่าวฉบับเต็มแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ศึกษา และพบว่าในคำวินิจฉัยส่วนตนขององค์คณะผู้พิพากษารายหนึ่งที่เป็นเสียงข้างน้อยเห็นแย้งในคดีนี้ เขียนตามข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงไว้ชัดเจนว่า ทำไมจึงมีเหตุให้ต้องลงโทษจำเลยทั้ง 4 โดยกลุ่มพันธมิตรฯ มีความกังวลว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ เพราะเชื่อว่ายังมีรายละเอียดอีกเป็นจำนวนมากที่เป็นประโยชน์กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมดังกล่าว กลุ่มคนเหล่านี้อยากได้ความเป็นธรรมคืนมา หวังว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.คงไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ระยะเวลาอันจำกัดดังกล่าว ที่เหลือเวลาอีกประมาณ 4 วัน จึงครบกำหนดตามรัฐธรรมนูญ การยื่นอุทธรณ์อาจไม่สามารถทำได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ครบถ้วน จึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปอีก 1 เดือน
