จับตา ไอ้โม่งทอท. ออกอาการ ยื้อเลิกยกเลิกสัญญาเคาน์เตอร์ถ่ายรูปวีซ่า ฉาว แม้มติบอร์ด ทอท.จะสั่งชัดเจนแล้ว "ผอ.ดอนเมือง" เผยยังเซ็นเลิกสัญญาไม่ได้ เหตุต้องรอ กก.รายได้ฯ ที่มี"นิตินัย" เป็นประธานประชุมวันนี้(28 ส.ค.)ก่อน ขณะที่"หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า" ดิ้นสู้ ยื่นร้องคสช.แฉก่อนหน้านี้ ผอ.ดอนเมือง เคยเสนอเลิกสัญญาแล้ว แต่กก.รายได้ตีกลับถึง 2 ครั้ง วิจารณ์แซ่ด เคาน์เตอร์เล็กๆ แต่ผลประโยชน์มหาศาล อาจล่อใจจนกล้าทำลายชื่อเสียงประเทศ
นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การแก้ปัญหาการให้บริการถ่ายรูปติดหนังสือเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร (VISA ON ARRIVAL)ณ สนามบินดอนเมืองว่า หลังจากมีการร้องเรียนบริการของห้างหุ้นส่วน จำกัด พี.เอ็น.เก้าเก้า มาร์เก็ตติ้ง
และที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ที่มี นายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ได้มีมติให้ยกเลิกสัญญาแล้วนั้น เนื่องจากมติบอร์ดให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการต่อ ซึ่งคณะกรรมการพิจารณารายได้ทอท. ที่มี นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ทอท.เป็นประธาน จะมีการประชุมในวันที่ 28 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณายกเลิกสัญญาดังกล่าว ดังนั้นตนในฐานะ ผอ.สนามบินดอนเมือง แม้จะทำหนังสือเสนอไปแล้ว แต่ยังลงนามยกเลิกไม่ได้ เพราะจะต้องรอมติคณะกรรมการพิจารณารายได้ฯก่อน
ทำให้ขณะนี้ หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า ยังคงให้บริการตามปกติ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ ทอท. คอยลาดตระเวน เพื่อกำกับดูแลพฤติกรรมไม่ให้ทำผิดอีก สำหรับบริษัท คิงคอบบร้า มอร์ต้า จำกัด ผู้ให้บริการเคาน์เตอร์ถ่ายรูปติดหนังสือเดินทางอีกรายนั้น หลังจากได้รับอนุมัติแบบแล้ว ได้กลับเข้ามาให้บริการแล้ว
ผอ.ดอนเมืองกล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางหจก.พี.เอ็น.เก้าเก้าได้แจ้งว่า ขอให้ทอท.อย่านำเรื่องยกเลิกสัญญาเข้าประชุมกก.รายได้ฯ 28 ส.ค.นี้ โดยระบุว่า หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้าได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว ซึ่งตนเห็นว่า บริษัทได้ทำผิดสัญญา และมีหลักฐาน และทอท.ได้เตือนแล้ว 3 ครั้ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ยังทำผิดกับผู้โดยสารชาวอินเดียซ้ำอีก รวมถึงเมื่อวันที่ 16 ส.ค. คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มาหารือ พร้อมกับหลักฐานมาให้ทอท. ซี่งเชื่อได้ว่า กมธ.คมนาคม ไม่กลั่นแกล้งผู้ประกอบการแน่นอน จึงต้องเดินตามขั้นตอนยกเลิก
"ทางเอ็มดี ทอท. ให้นำเรื่องเข้ากก.รายได้ฯ เพราะสัญญานี้ ได้มาโดยผ่าน กก.รายได้ฯ เพื่อความรอบคอบ ครบถ้วน และไม่ให้ถูกเอกชนฟ้องว่า ทอท.กลั่นแกล้ง ตอนนี้ ผมพร้อมยกเลิกสัญญารอเพียงขั้นตอน ยกเว้น กก.รายได้ฯ มีมติเป็นอย่างอื่น" ผอ.ดอนเมือง กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า บริการถ่ายรูปวีซ่า ที่สนามบินดอนเมือง ครั้งละ 100 บาท เป็นเคาน์เตอร์เล็กๆไม่กี่ตรม. แต่เหตุใดจึงกลายเป็นปัญหากระทบภาพลักษณ์ และสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งๆ ที่ทอท.ได้กำหนดเงื่อนไขไว้อย่างเคร่งครัดว่า ให้บริการถ่ายรูป ครั้งละ 100 บาทเท่านั้น ไม่สามารถให้บริการอื่นๆได้
อีกทั้งพนักงาน ห้ามออกมานอกเคาน์เตอร์ แต่จากการร้องเรียนของนักท่องเที่ยว พบทั้งการเก็บค่าบริการเกิน ขายซิมการ์ด รับแลกเงินตราต่างประเทศ คิดค่าบริการกรอกแบบฟอร์ม เป็นต้น ขณะที่ ทอท. ตรวจสอบพบมีพฤติกรรมผิดสัญญาจริง และทำหนังสือเตือนหลายครั้ง
โดยหากประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ดอนเมือง ปีละ 6-7 ล้านคน แบ่งเป็นขาเข้าครึ่งหนึ่ง ประมาณ 2-3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่จะทำวีซ่ามาแล้ว แต่อาจจะมีบางส่วนที่ไม่ได้ทำมาคิดเฉลี่ย 10% ของ 2-3 ล้านคน/ปี ที่ต้องใช้บริการถ่ายรูป เก็บค่าบริการ คนละ100 บาท ปีหนึ่งจะมีรายได้ 30-40 ล้านบาทแล้ว แต่ถ้าหากประเมินส่วนที่ทำเพิ่มเติม นอกสัญญาอีก เช่น รับแลกเงิน ขายซิมการ์ด หรือค่ากรอกเอกสาร เม็ดเงินยิ่งมหาศาล
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายเพ็ชร ชั้นเจริญ อดีตผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ได้เคยทำเรื่องเสนอยกเลิกสัญญากับ หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า 2 ครั้ง แต่ถูกกก.รายได้ฯ ที่มี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เป็นประธาน ตีกลับทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ภายในทอท. วิจารณ์กันว่า หลักฐานชัดเจนมาก แต่ไม่ยอมเลิกสัญญา และมีแนวโน้มการปกป้อง น่าจะต้องเป็นกระบวนการและมีไอ้โม่งระดับบิ๊ก ที่เกี่ยวข้องแน่นอน เนื่องจากประเมินจากผลประโชน์แล้วมหาศาลจริงๆ
นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การแก้ปัญหาการให้บริการถ่ายรูปติดหนังสือเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร (VISA ON ARRIVAL)ณ สนามบินดอนเมืองว่า หลังจากมีการร้องเรียนบริการของห้างหุ้นส่วน จำกัด พี.เอ็น.เก้าเก้า มาร์เก็ตติ้ง
และที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ที่มี นายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ได้มีมติให้ยกเลิกสัญญาแล้วนั้น เนื่องจากมติบอร์ดให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการต่อ ซึ่งคณะกรรมการพิจารณารายได้ทอท. ที่มี นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ทอท.เป็นประธาน จะมีการประชุมในวันที่ 28 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณายกเลิกสัญญาดังกล่าว ดังนั้นตนในฐานะ ผอ.สนามบินดอนเมือง แม้จะทำหนังสือเสนอไปแล้ว แต่ยังลงนามยกเลิกไม่ได้ เพราะจะต้องรอมติคณะกรรมการพิจารณารายได้ฯก่อน
ทำให้ขณะนี้ หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า ยังคงให้บริการตามปกติ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ ทอท. คอยลาดตระเวน เพื่อกำกับดูแลพฤติกรรมไม่ให้ทำผิดอีก สำหรับบริษัท คิงคอบบร้า มอร์ต้า จำกัด ผู้ให้บริการเคาน์เตอร์ถ่ายรูปติดหนังสือเดินทางอีกรายนั้น หลังจากได้รับอนุมัติแบบแล้ว ได้กลับเข้ามาให้บริการแล้ว
ผอ.ดอนเมืองกล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางหจก.พี.เอ็น.เก้าเก้าได้แจ้งว่า ขอให้ทอท.อย่านำเรื่องยกเลิกสัญญาเข้าประชุมกก.รายได้ฯ 28 ส.ค.นี้ โดยระบุว่า หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้าได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว ซึ่งตนเห็นว่า บริษัทได้ทำผิดสัญญา และมีหลักฐาน และทอท.ได้เตือนแล้ว 3 ครั้ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ยังทำผิดกับผู้โดยสารชาวอินเดียซ้ำอีก รวมถึงเมื่อวันที่ 16 ส.ค. คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มาหารือ พร้อมกับหลักฐานมาให้ทอท. ซี่งเชื่อได้ว่า กมธ.คมนาคม ไม่กลั่นแกล้งผู้ประกอบการแน่นอน จึงต้องเดินตามขั้นตอนยกเลิก
"ทางเอ็มดี ทอท. ให้นำเรื่องเข้ากก.รายได้ฯ เพราะสัญญานี้ ได้มาโดยผ่าน กก.รายได้ฯ เพื่อความรอบคอบ ครบถ้วน และไม่ให้ถูกเอกชนฟ้องว่า ทอท.กลั่นแกล้ง ตอนนี้ ผมพร้อมยกเลิกสัญญารอเพียงขั้นตอน ยกเว้น กก.รายได้ฯ มีมติเป็นอย่างอื่น" ผอ.ดอนเมือง กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า บริการถ่ายรูปวีซ่า ที่สนามบินดอนเมือง ครั้งละ 100 บาท เป็นเคาน์เตอร์เล็กๆไม่กี่ตรม. แต่เหตุใดจึงกลายเป็นปัญหากระทบภาพลักษณ์ และสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งๆ ที่ทอท.ได้กำหนดเงื่อนไขไว้อย่างเคร่งครัดว่า ให้บริการถ่ายรูป ครั้งละ 100 บาทเท่านั้น ไม่สามารถให้บริการอื่นๆได้
อีกทั้งพนักงาน ห้ามออกมานอกเคาน์เตอร์ แต่จากการร้องเรียนของนักท่องเที่ยว พบทั้งการเก็บค่าบริการเกิน ขายซิมการ์ด รับแลกเงินตราต่างประเทศ คิดค่าบริการกรอกแบบฟอร์ม เป็นต้น ขณะที่ ทอท. ตรวจสอบพบมีพฤติกรรมผิดสัญญาจริง และทำหนังสือเตือนหลายครั้ง
โดยหากประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ดอนเมือง ปีละ 6-7 ล้านคน แบ่งเป็นขาเข้าครึ่งหนึ่ง ประมาณ 2-3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่จะทำวีซ่ามาแล้ว แต่อาจจะมีบางส่วนที่ไม่ได้ทำมาคิดเฉลี่ย 10% ของ 2-3 ล้านคน/ปี ที่ต้องใช้บริการถ่ายรูป เก็บค่าบริการ คนละ100 บาท ปีหนึ่งจะมีรายได้ 30-40 ล้านบาทแล้ว แต่ถ้าหากประเมินส่วนที่ทำเพิ่มเติม นอกสัญญาอีก เช่น รับแลกเงิน ขายซิมการ์ด หรือค่ากรอกเอกสาร เม็ดเงินยิ่งมหาศาล
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายเพ็ชร ชั้นเจริญ อดีตผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ได้เคยทำเรื่องเสนอยกเลิกสัญญากับ หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า 2 ครั้ง แต่ถูกกก.รายได้ฯ ที่มี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เป็นประธาน ตีกลับทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ภายในทอท. วิจารณ์กันว่า หลักฐานชัดเจนมาก แต่ไม่ยอมเลิกสัญญา และมีแนวโน้มการปกป้อง น่าจะต้องเป็นกระบวนการและมีไอ้โม่งระดับบิ๊ก ที่เกี่ยวข้องแน่นอน เนื่องจากประเมินจากผลประโชน์แล้วมหาศาลจริงๆ