xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิรูปตำรวจต้องจบยุค “ประยุทธ์”

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา


คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ทำงานกันมาเดือนเศษแล้ว แถลงแนวทางการปฏิรูปมาก็หลายครั้ง แต่ยังไม่มีอะไร “โดนใจ” ประชาชน ไม่มีแนวทางใดที่ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า การปฏิรูปตำรวจตามเจตนารมณ์ของคนทั้งประเทศจะเกิดขึ้นจริง

การปฏิรูปตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ทำท่าจะถูกทำให้เรื่องยากไปเสียแล้ว

ถ้าตั้งใจจะปฏิรูปตำรวจกันจริง คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจทั้ง 36 คน แทบไม่ต้องเสียเวลามานั่งถกกันว่า จะปฏิรูปตำรวจในแนวทางไหน และไม่มีโจทย์ใดที่ต้องแก้ไข เพราะประชาชนสะท้อนสิ่งที่ต้องการมาแล้ว

ประชาชนแสดงเจตนารมณ์มาตลอดว่า ต้องการเห็นการปฏิรูปตำรวจไปในแนวทางใด

หลักใหญ่ของการปฏิรูปคือ การแยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการกระจายอำนาจตำรวจ โดยเป็นตำรวจจังหวัด อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้ว่าราชการจังหวัด

สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนเมื่อไหร่ โพลแทบทุกสำนักระบุเหมือนกันว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้แยกงานสอบสวนจากตำรวจ และกระจายอำนาจตำรวจ

คัดค้านการรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพียงคนเดียว ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีอำนาจล้นฟ้า ชี้เป็นชี้ตายตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนกว่า 2 แสนราย

และมีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่จะกำกับดูแลผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้

แต่ทุกรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือรัฐบาลทหาร มักจะเกรงใจตำรวจ กลัวตำรวจ ไม่อยากมีปัญหากับตำรวจ หรืออาจใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือในการจัดการกับฝ่ายตรงข้าม จึงไม่มีใครคิดแก้ไขปัญหาตำรวจ

ตำรวจลอยนวลมาตลอด จะเกิดกรณีข่มเหงรังแกชาวบ้าน จะรับส่วย จะรีดไถ จะเลือกหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะลุแก่อำนาจ จะทำให้กระบวนการยุติธรรมต้องมัวหมอง ไม่ต้องกลัวใครจะเล่นงาน เพราะจะได้รับการปกป้องจากผู้บังคับบัญชา

ช่วยแก้ต่าง ช่วยแก้ตัว ช่วยฟอกตัว ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมผิดให้เป็นถูก จนมีข่าวฉาวโฉ่ตำรวจ “กร่าง” เป็นประจำ

จะมีข่าวรีดไถ จะมีข่าวการซื้อขายตำแหน่ง จนสำนักงานตำรวจแห่งชาติกลายเป็นแหล่งบ่มเพาะการทุจริตขนาดใหญ่ ซึ่งสวนทางนโยบายการปราบทุจริต รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับไม่เคยแสดงอาการโกรธกริ้วอย่างไรกับพฤติกรรมตำรวจ

ฝ่ายปกครองกับทหาร ประสานกำลังกันทลายบ่อนไม่รู้กี่สิบบ่อน ตรวจจับสถานบันเทิงผิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา เป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชนไม่รู้เท่าไหร่ แต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่ค่อยกระตือรือร้นกับการปฏิรูปตำรวจแต่อย่างใด

การตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ อาจเกิดขึ้นโดยเสียไม่ได้ เกิดขึ้นเพราะกระแสเรียกร้องของประชาชนไม่ไหว แต่รัฐบาลยังเอาใจตำรวจอยู่ดี เพราะตั้งตำรวจร่วมเป็นกรรมการถึง 15 คน ทั้งที่ควรจะมีตำรวจในคณะกรรมการปฏิรูปฯ ให้น้อยที่สุด

แต่เปิดโอกาสให้ตัวแทนประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของตำรวจเข้าร่วมในคณะกรรมการปฏิรูปฯ ให้มากสุด แต่ปรากฏว่า กลุ่มคนที่รู้ปัญหาตำรวจดี กลับได้รับการแต่งตั้งเข้ามาน้อยมาก

ปฏิรูปตำรวจเรื่องง่ายๆ แทบไม่มีโจทย์ให้ต้องคิดมากเลย และแทบไม่ต้องเปิดรับความคิดเห็นประชาชนให้เสียเวลา เสียงบประมาณ

เพราะประชาชนประกาศเจตนารมณ์ตลอดว่า ต้องการให้แยกงานสอบสวนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการให้กระจายอำนาจตำรวจ ไม่ต้องการเห็นระบบรวมศูนย์ ผูกขาดอำนาจล้นฟ้าที่ผบ.ตร.เพียงคนเดียว

ถ้ายอมรับความจริงว่า ตำรวจฟอนเฟะจนเกินเยียวยา จำเป็นต้องผ่าตัดครั้งใหญ่ ต้องปฏิรูปอย่างจริงจัง เพื่อนำสังคมสู่ความสงบสุข และปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่

และถ้าไม่เกรงใจ ไม่เกรงกลัวตำรวจ ไม่มีเหตุผลใดที่พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิรูปตำรวจไม่สำเร็จ ไม่มีเหตุผลใดที่การปฏิรูปตำรวจจะไม่เสร็จสิ้นในรัฐบาลทหาร

เว้นเสียแต่การปฏิรูปตำรวจ จะเป็นเพียงปฏิบัติการ “ปฏิลวง” กลายเป็นรายการ “ปาหี่” ปลิ้นตาใส่คนดูเท่านั้น โดยพล.อ.ประยุทธ์ไม่คิดจะ “แตะ” ตำรวจตั้งแต่วันแรกที่ยึดอำนาจเท่านั้น

ปฏิรูปตำรวจเรื่องง่ายนิดเดียว จึงกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ประชาชนต้องเศร้าใจมาตลอด 3 ปี และมีแนวโน้มที่จะต้องเศร้าต่อไปตลอดชาติ

เพราะรัฐบาลทหารอยู่บนเงื่อนไขพร้อมที่สุดแล้วที่จะปฏิรูปตำรวจ ถ้าไม่ทำ จะโยนให้ใครหน้าไหนต้องแบกรับภาระแทนพล.อ.ประยุทธ์ล่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น