รองผบ.ตร. รับมอบตัว "พลกฤต" อดีตนายทหารอุ้มฆ่าเผานั่งยาง "น้องพลอย" เพื่อนำไปสอบสวนต่อ พร้อมแจ้ง 4 ข้อหาหนัก ระบุผู้ต้องหารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ด้านแม่หอบกรอบรูปดักเจอฆาตกรถึงกองปราบ พร้อมคำถามคาใจ "ทำไมถึงเลือดเย็นนัก" ลั่นไม่ให้กราบอโหสิกรรม "น้องพลอย" เด็ดขาด เขาต้องกราบเท้าแม่เท่านั้น
วานนี้ (16 ส.ค.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังการรับมอบตัว นายพลกฤต วิเศษ หรือเอส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร มณฑลทหารบก ที่ 18 ในคดีฆาตกรรมน.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย อดีตแฟนสาว เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ในเขตพื้นที่จ.สระบุรี ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายพลกฤตไปแล้ว 4 ข้อหา ฐานฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ กักขังหน่วงเหนี่ยว และอำพรางศพ โดยผู้ต้องหารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ส่วนจะมีบุคคลอื่นเข้าร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้น หากมีหลักฐานการกระทำความผิดจะจับกุมเพิ่ม เบื้องต้นผู้ต้องหาระบุว่าใช้เวลาในการก่อเหตุเพียง 1 วัน ส่วนสาเหตุที่เข้ามอบตัวเพราะโดนตำรวจกดดัน ส่วนกรณีที่พ่อของผู้ต้องหาเป็นข้าราชการระดับสูงจะเข้ามาให้การช่วยเหลือในคดีหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่น่าจะใช้อิทธิพลในการช่วยเหลือได้เนื่องจากอยู่ในยุคของการปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
"คดีที่มีการปล่อยให้ล่าช้ามาถึง 3 ปี ไม่ใช่ความล่าช้าของตำรวจ แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีการโยกย้ายแหล่งที่อยู่บ่อย ทำให้การติดตามตัวค่อนข้างยากลำบาก พร้อมกันนี้ยังกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีมีการรับแจ้งคนหายให้เร่งดำเนินการทันทีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม" พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
น.ส.พัชรี ปั้นทอง แม่น้องพลอย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกับถือภาพลูกสาวและกระธางธูปไว้ในมือ ว่า เดินทางมาเพื่อดูหน้า ส.อ.พลกฤต ซึ่งถ้าได้เจอหน้า ตนจะถามว่าทำไมถึงเลือดเย็นขนาดนี้ หลังฆ่าน้องพลอยยังโทรมาถามถึงลูกสาวได้อีก โดยในวันนี้แม่ได้เอาผ้าพันคอที่ลูกสาวถักเองกับมือที่ให้ไว้มาด้วย เพื่อให้เขาได้มาเจอคนที่ฆ่าเขาได้ลงคอ แม่เชื่อว่า ส.อ.พลกฤต บีบคอลูกจนตาย แต่ไม่ทราบว่ามีการทรมานลูกสาวขนาดไหน ซึ่งตนก็ยังเชื่อว่า เขาไม่ได้ฆาตกรรมน้องพลอยเพียงคนเดียว เนื่องจากหลังจากที่เรื่องราวของน้องพลอยกลายเป็นข่าว ได้มีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาว่า พบผู้ต้องหากับพวกอีก 3 ราย มารอน้องพลอยอยู่ที่หน้าที่ทำงาน
"หลังจากนี้แม่ไม่ให้เขาไปกราบอโหสิกรรมน้องพลอยเด็ดขาด เขาต้องกราบเท้าแม่เท่านั้น คนใจร้ายยังเป็นคนใจดีได้ แต่คนใจดำไม่มีทางที่จะเป็นคนดีได้" แม่น้องพลอย กล่าว
วานนี้ (16 ส.ค.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังการรับมอบตัว นายพลกฤต วิเศษ หรือเอส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร มณฑลทหารบก ที่ 18 ในคดีฆาตกรรมน.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย อดีตแฟนสาว เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ในเขตพื้นที่จ.สระบุรี ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายพลกฤตไปแล้ว 4 ข้อหา ฐานฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ กักขังหน่วงเหนี่ยว และอำพรางศพ โดยผู้ต้องหารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ส่วนจะมีบุคคลอื่นเข้าร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้น หากมีหลักฐานการกระทำความผิดจะจับกุมเพิ่ม เบื้องต้นผู้ต้องหาระบุว่าใช้เวลาในการก่อเหตุเพียง 1 วัน ส่วนสาเหตุที่เข้ามอบตัวเพราะโดนตำรวจกดดัน ส่วนกรณีที่พ่อของผู้ต้องหาเป็นข้าราชการระดับสูงจะเข้ามาให้การช่วยเหลือในคดีหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่น่าจะใช้อิทธิพลในการช่วยเหลือได้เนื่องจากอยู่ในยุคของการปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
"คดีที่มีการปล่อยให้ล่าช้ามาถึง 3 ปี ไม่ใช่ความล่าช้าของตำรวจ แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีการโยกย้ายแหล่งที่อยู่บ่อย ทำให้การติดตามตัวค่อนข้างยากลำบาก พร้อมกันนี้ยังกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีมีการรับแจ้งคนหายให้เร่งดำเนินการทันทีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม" พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
น.ส.พัชรี ปั้นทอง แม่น้องพลอย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกับถือภาพลูกสาวและกระธางธูปไว้ในมือ ว่า เดินทางมาเพื่อดูหน้า ส.อ.พลกฤต ซึ่งถ้าได้เจอหน้า ตนจะถามว่าทำไมถึงเลือดเย็นขนาดนี้ หลังฆ่าน้องพลอยยังโทรมาถามถึงลูกสาวได้อีก โดยในวันนี้แม่ได้เอาผ้าพันคอที่ลูกสาวถักเองกับมือที่ให้ไว้มาด้วย เพื่อให้เขาได้มาเจอคนที่ฆ่าเขาได้ลงคอ แม่เชื่อว่า ส.อ.พลกฤต บีบคอลูกจนตาย แต่ไม่ทราบว่ามีการทรมานลูกสาวขนาดไหน ซึ่งตนก็ยังเชื่อว่า เขาไม่ได้ฆาตกรรมน้องพลอยเพียงคนเดียว เนื่องจากหลังจากที่เรื่องราวของน้องพลอยกลายเป็นข่าว ได้มีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาว่า พบผู้ต้องหากับพวกอีก 3 ราย มารอน้องพลอยอยู่ที่หน้าที่ทำงาน
"หลังจากนี้แม่ไม่ให้เขาไปกราบอโหสิกรรมน้องพลอยเด็ดขาด เขาต้องกราบเท้าแม่เท่านั้น คนใจร้ายยังเป็นคนใจดีได้ แต่คนใจดำไม่มีทางที่จะเป็นคนดีได้" แม่น้องพลอย กล่าว
