MGR online - เผยผลตรวจดีเอ็นเอแม่เปรียบเทียบโครงกระดูกที่พบใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ยืนยันเป็นของ “น้องพลอย” ที่ถูกอุ้มหายไปเมื่อ 3 ปีก่อนจริง ด้านทนายเตรียมแจ้งความเพิ่ม เพื่อเอาผิดพ่ออดีตแฟนน้องพลอย เชื่อมีส่วนรู้เห็น
วันนี้ (14 ส.ค.) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยผลการตรวจดีเอ็นเอของพ่อและแม่ของ นางสาวพลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย ที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2557 เปรียบเทียบกับดีเอ็นเอโครงกระดูกที่พบในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ว่าขณะนี้ผลการตรวจดีเอ็นเอของแม่ตรงกับโครงกระดูกที่พบจริง แต่ผลการตรวจของพ่อนั้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ และผลยังไม่ออกมาแต่อย่างใด ยังคงต้องรอผลการตรวจของทั้งสองคนมายืนยันก่อนจึงจะสามารถสรุปได้ว่าโครงกระดูกที่พบนั้นเป็นศพของน้องพลอยจริง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2560 เวลา 18.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปที่ สภ.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จากกรณีที่ นางพัชรี ปั้นทอง อายุ 51 ปี พร้อมทนายความ คือ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ร้องเรียนผ่านสื่อและเดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยติดตามลูกสาว ชื่อ นางสาวพลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย อายุ 28 ปี ได้หายตัวไปขณะเดินทางกลับจากที่ทำงาน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่า น.ส.พลอยนรินทร์ ถูกนายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก หรือเอส (แฟนเก่า) เป็นผู้ลักพาตัว ซึ่งผู้เป็นแม่ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ ขณะที่นายพลกฤตก็หายตัวไปเช่นกัน
ต่อมานางพัชรีได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการออกหมายจับอดีตทหารยศสิบเอก ผู้ต้องหาในคดี แต่ผ่านมา 3 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมตัวได้ ขณะที่ทางพ่อของนายพลกฤตที่เป็นนายทหารยศใหญ่ก็ไม่รู้ว่าลูกชายตนเองหายไปไหน โดยชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยานำหมายจับประสานตำรวจภูธรนครราชสีมา
จากนั้นต่อมาวันที่ 11-13 สิงหาคม 2560 สืบทราบว่านายพลกฤตได้ทำการหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในป่าอ้อยหลังวัดหนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่ระหว่างปิดล้อมผู้ต้องหาไหวตัวทันและวิ่งหลบหนีจึงไม่สามารถจับกุมตัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้นายพลกฤตได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ทหารแล้ว โดยได้ติดต่อผ่านบิดาที่เป็นทหารขอให้พาเข้ามอบตัวภายในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการควบคุมตัวนายพลกฤตไว้สอบสวนก่อน 7 วัน โดยชุดสืบสวนของตำรวจอยู่ระหว่างการเข้าร่วมสอบปากคำ โดยยังไม่เปิดเผยรายละเอียด
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมายัง สภ.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อเวลา 18.30 น.วานนี้ เพื่อรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ในการจะดำเนินคดีนายพลกฤต ซึ่งให้การรับสารภาพหลังโดนจับกุมว่าตนเองขอยอมรับว่าได้ลักพาตัวน้องพลอย และฆ่านั้นเป็นความจริง โดยขณะนั้นตนเองนั่งรถเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนน้องพลอยได้รับบาดเจ็บ จนน้องพลอยทนไม่ไว้กระโดดลงจากรถขณะรถยังขับเรื่อยๆ จากนั้นร่างน้องพลอยได้ตกจากรถทำให้สลบ นายพลกฤตอ้างว่าตนคิดว่าน้องพลอยเสียชีวิตจึงได้นำร่างมาเผาที่บริเวณริมถนนสายแก่งคอย-แสลงพัน ระหว่างหลัก กม.ที่ 15-16 ม.2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
จากการตรวจสอบพบว่ามีเหตุฆ่าเผาศพที่บริเวณดังกล่าวจริง โดยพบหลักฐานชิ้นสำคัญของผู้ตายคือเหล็กดัดฟัน และเข็มขัด ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งสระบุรี ได้ทำการเก็บหลักฐานในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557
จากนั้นนางพัชรีผู้เป็นแม่ของน้องพลอยได้เดินทางมากับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ มาที่ สภ.แก่งคอย และได้เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ห้องประชุม โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟัง ผ่านไป 30 นาทีก็ขึ้นไปให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสระบุรีทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับกระดูกและหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ โดยมีรายงานว่าขณะขึ้นไปนางพัชรีเป็นลมล้มพับคาโต๊ะ เจ้าหน้าที่ต่างช่วยกันปฐมพยาบาลกันอย่างรีบเร่ง
สำหรับคดีนี้ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวต่อนายพลกฤต เพราะว่านายพลกฤตยังอยู่ในการดูแลของทหาร แต่ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานต่างๆ รอไว้ก่อน
ต่อมาวันนี้ (14 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแก่งคอย จ.สระบุรี พร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสระบุรี เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ที่พบโครงกระดูกของน้องพลอยที่ถูกนายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก แฟนเก่าฆ่าแล้วนำศพมาเผา จากการตรวจสอบจุดที่พบโครงกระดูกบริเวณริมถนน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสระบุรีได้พาไปยังจุดที่พบโครงกระดูก เป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร และการขุดค้นหาชิ้นส่วนของมนุษย์ ก็ไม่พบชิ้นส่วนหรือร่องรอยอะไรอีกเลย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า จากกรณีที่พนักงานสอบสวนนำ DNA ของนางพัชรี ปั้นทอง ส่งพิสูจน์เปรียบเทียบ DNA ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางนั้น ปรากฏว่าเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานกลางได้ยืนยันว่าตรงกับ DNA ศพผู้ตาย และพิสูจน์ได้ว่าผู้ตาย คือ น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ที่มาช่วยแม่น้องพลอยว่าความจะแจ้งข้อหาต่อพ่อของนายพลกฤตเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการอุ้มฆ่าครั้งนี้