xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม หยาดน้ำตา-มวลชนคงไม่ช่วยอะไร ชะตากรรม “ยิ่งลักษณ์” บนเส้นด้าย 25 ส.ค.ได้รู้กัน

ผ่านไปได้ด้วยดีกับหมายแรกของ“ปฏิทินร้อน”ในเดือน ส.ค.นี้ .. สำหรับการแถลงปิดคดีในคดีโครงการรับจำนำข้าวด้วยวาจาของ“หนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษ กับการอ่านโพยเกือบ 20 หน้า ใน 6 ประเด็น ต่อสู้ของฝ่ายอดีตนายกฯหญิง .. ที่ต้องบอกว่าไม่มีอะไรใหม่ หนักไปในแนว “ออดอ้อน-ขอความเห็นใจ”ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือตลอดการแถลง ตามรายงานข่าวในห้องพิจารณาคดี ที่ดูจะได้รับความสนใจมากกว่าสาระของถ้อยคำแถลง .. ที่สะดุดไปบ้างก็ช่วงที่ “หนูปู”บอกว่า นโยบายจำนำข้าวมุ่งช่วยเหลือชาวนา ไม่ใช่ “พาณิชย์นโยบาย” ที่คิดกำไร ขาดทุนกับ“ชาวนาผู้ยากไร้” แต่เป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน .. ก็นอกจากจะทำให้รัฐขาดทุนมหาศาลเป็นแสนล้าน ชาวนาได้ประโยชน์ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็มีข่าวว่า “เจ๊บางคน”โกยสะตุ้งสะตังค์ส่วนต่างไปอื้อซ่า ..อีกทั้งยังมีชาวนาอีกพอสมควร ที่ต้องตัดสินใจปลิดชีพตัวเองจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลหรือไม่ .. แต่ก็ยังไม่วายแขวะไปถึง“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยว่า ชอบพูดชี้นำเกี่ยวกับคดีจำนำข้าว
ที่ได้รับการจับตามากกว่า“ดราม่าน้ำตาแตก”ในห้องพิจารณาคดี ก็คงเป็นบรรยากาศด้านนอก ที่เป็นตามคาดว่ามี“แฟนคลับสาวปู”แห่แหนมาให้กำลังใจ ส่งเสียง “ยิ่งลักษณ์สู้ๆ”จนกระหึ่ม .. บอกไปแล้วเมื่อวันก่อน ว่าเป็นแค่การ“หยั่งเชิง”ก่อนที่จะมีการระดมพลครั้งใหญ่ ในวันพิพากษา 25 ส.ค.นี้ ที่จะเป็นวันชี้ชะตาทั้ง “ยิ่งลักษณ์” รวมไปถึง“แก๊งจีทูเจ๊”ที่นำโดย บุญทรง เตริยาภิรมย์ –ภูมิ สาระผล อดีต รมว.พาณิชย์-รมช.พาณิชย์ ในคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในวัน และเวลาเดียวกัน .. มาถึงนาทีนี้แล้ว ชะตากรรมของ “สาวปู”ยิ่งกว่าไต่เส้นด้าย ไม่ว่าจะเป็น“หยาดน้ำตา”หรือการกดดันโดยมวลชน คงไม่ได้ช่วยอะไรในส่วนของ คดีความ-คำพิพากษา ที่ต้องให้น้ำหนักไปถึงผลเสียหายและพฤติการณ์ของ “ผู้นำรัฐบาล”ในตอนนั้นมากกว่า .. ต้องบอกว่า ผลกรรมการกระทำในอดีต กำลังย้อนกลับมาเอาคืนแล้ว

** ชี้ชะตา“แก๊งออฟโฟร์”ขาโหดสลายชุมนุม 7 ตุลาฯ “เจ๊แดง”ลุ้นตัวโก่ง หวังสามีพ้นมลทิน วาดฝันปูทางชิงเก้าอี้นายกฯ อีกคำรบ ลบรอยด่าง นายกฯผู้ไม่เคยเหยียบทำเนียบฯ

วันนี้แล้วสินะ ที่ “แก๊งออฟโฟร์”ตั้งแต่ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์ - พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ - พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ - พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว” จะต้องขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อฟังคำพิพากษา คดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 .. บรรยากาศอาจจะกร่อยๆไปบ้าง ไม่มีกระแสการเตรียมขนมวลชนให้กำลังใจ จนอาจพูดได้ว่า “สองมาตรฐาน”กับคดีของ“น้องปู” .. ส่วนหนึ่งก็เพราะ “แก๊งออฟโฟร์”ไม่ได้มีแฟนคลับอุ่นหนาฝาคั่งเหมือน “สาวปู”แม้จำเลยสำคัญอย่าง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะมีสถานะเป็นถึงอดีตนายกฯ และเป็น "พี่เขย" ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นน้องเขย ทักษิณ ชินวัตร ก็ตาม .. แต่หากให้น้ำหนักในการเป็นประเด็นเคลื่อนไหวแล้วก็แตกต่างกันจากคดีจำนำข้าวอยู่หลายช่วงตัว ..
ที่น่าจะเป็นประเด็นกว่า คงเป็นรายของ “บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ในขณะนั้น ที่สถานะวันนี้เป็นน้องชายร่วมสายโลหิตของ “พี่ใหญ่ คสช.”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ความมั่นคง มากกว่า .. รวมไปถึงผลที่จะตามมาของคดีนี้ ที่หากตัดสินว่าจำเลยมีความผิด ก็จบข่าว แต่หากออกมาอีกทาง ก็ต้องดูทีท่าของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใต้การนำของ“บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธาน ว่าจะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญใหม่ อุทธรณ์คดีให้สิ้นสงสัย หรือจะยอมเลิกแล้วต่อกันไปง่ายๆ ให้เป็นขี้ปากชาวบ้านว่า “ล้มมวย - ชกไม่สมศักดิ์ศรี”..ที่ลุ้นหนักหน่อยเห็นจะเป็น "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยาสุดเลิฟ ของอดีตนายกฯสมชาย ที่หมายมั่นปั้นมือว่าหากสามีพ้นบ่วงกรรมครั้งนี้ ก็จะอุ้มชูให้กลับมาเป็นผู้ชูธงนำพรรคเพื่อไทย ลุ้นตำแหน่งนายกฯ คำรบ 2 เพื่อลบรอยด่างของ“สามีสุดที่รัก”ในฐานะนายกฯ 75 วัน ที่ไม่เคยได้เหยียบทำเนียบรัฐบาล

** คดีการเมืองช่วยเบี่ยงกระแส นาทีทอง “พี่ป้อม” เคาะทหารนั่งเลขาฯสมช. จัดหนัก 3.2 พันล้านอัพเกรดเครื่องบินรบ

ใครจะเป็นจะตาย น้องชายจะติดคุกรอมร่อ แต่ “พี่ป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ความมั่นคง และรมว.กลาโหม ใช้จังหวะชุลมุนเป็นนาทีทอง ยัดเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. เคาะปังๆผ่านฉลุย ไปเรียบร้อย“โรงเรียนป๋าป้อม”.. ทั้งเก้าอี้เขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ไม่พลิกโผ ส่ง “บิ๊กลภ”พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กระทรวงกลาโหม เหาะมาเหยียบหัว“ลูกหม้อ สมช.”ไปเชยชมตามคาด .. พร้อมออกมายกยอ“บิ๊กลภ”ว่ามีความรู้ ความสามารถ เก่งภาษานู่น นี่ ให้เข้ามาดูแลเรื่องด้านความมั่นคง .. ที่น่าเห็นใจก็ “รองฯเกลี้ยง”สมเกียรติ ศรีประเสริฐ รองเลขาฯ สมช. ความหวังเดียวของชาวตึกแดง ที่เห็นว่าจะมีการเปิดตำแหน่งใหม่ให้ พอไปถาม“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็โบ้ยมาให้ “ท่านป้อม”พิจารณา หันมาถาม “ท่านป้อม”ก็บอกแล้วแต่นายกฯ เอากับเขาสิ .. สุดท้ายต้องมาใช้อำนาจพิเศษ มาตรา 44 เปิดตำแหน่งใหม่ให้ "รองฯเกลี้ยง" ซ้ำรอย กนกทิพย์ รชตะนันท์ ที่โดย "บิ๊กแอ๊ว" พล.อ.ทวีป เนตรนิยม ปาดหน้าไปเมื่อ 2 ปีก่อน .. ตำแหน่งที่ว่าเนี่ยก็คือ รองเลขาฯ สมช.เหมือนเดิม แต่เพิ่มซี จาก ซี 10 เป็น ซี11 ก็คงเยียวยากันได้แค่เรื่องรายได้-บำเหน็จบำนาญ เท่านั้น แต่เกียรติประวัติ-ศักดิ์ศรี ที่ถูกย่ำยีนั้น คงไม่สามารถเยียวยาได้
ที่เด็ดดวงไปกว่านั้น ก็วาระเสริมแสนยานุภาพกองทัพไทย ที่ช่วงหลังมีเข้าครม.ไม่เว้นแต่ละสัปดาห์ .. เมื่อวานเป็นคิว โครงการอัพเกรด เครื่องบินขับไล่ F-5 mod ระยะที่ 2 จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 3.2 พันล้านบาท ก็ไฟเขียวผ่านฉลุยไปอีก .. “รองฯป้อม”แจกแจงว่าเป็นโครงการผูกพันจากโครงการเก่า ที่ครม.อนุมัติ “เฟสแรก”ไปแล้วเมื่อ 2557 และ “เฟสสอง”นี่ก็ได้รับอนุมัติไปเรียบร้อยแล้วด้วย แค่นำมาแจ้งให้ที่ประชุม ครม.รับทราบเท่านั้น โดยเป็นการใช้งบประมาณของกองทัพอากาศ ที่ตั้งไว้อยู่แล้ว ไม่ได้นำงบกลางไปใช้แต่อย่างใด ..
จะโครงการเก่าใหม่ ใช้งบประมาณก้อนไหน ก็คงไม่มีใครสนใจใคร่รู้หรอก แต่สงสัยกันว่า เรื่องซื้ออาวุธ อัพเกรดเครื่องบิน ในยามที่ไม่พร้อม ก็น่าจะชะลอโครงการไปก่อนก็ได้กระมัง .. นี่อะไร เบิกงบ 3.2 พันล้าน ไปอัพเกรดเครื่องบินรบกันแบบไม่ยี่หระ แต่รัฐบาลต้องมาตั้งโต๊ะรับบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมซะงั้น.

ช.ชฎา
กำลังโหลดความคิดเห็น