xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเล้าไปดูไก่ชนแต่ละสายพันธุ์

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

เพื่อไทยแถลงการณ์กฎหมายต้านนักการเมืองโกง
สุดสัปดาห์อีกที...วันนี้เลยคงต้องลองวกมาเปิด “เข่งไก่” กันดูซักนิด ว่าการไล่งับ ไล่จิก ระหว่างกันและกันมันไปถึงไหนแล้วบ้าง ซึ่งตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ไก่เผาไทย” นั้น ตีปีกพึ่บๆ พั่บๆ ดาหน้าออกมาอวดเดือย อวดจงอยปากกันเป็นแผงๆ อันเนื่องมาจากกรณีกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “กฎหมายต้านนักการเมืองโกง” อะไรประมาณนั้น ที่ผ่านความเห็นชอบของสมาชิก สนช.อย่างเป็นเอกฉันท์ เปิดโอกาสให้ไล่หวด ไล่ล่าบรรดานักการเมือง โดยเฉพาะประเภท “สัมภเวสี” ทั้งหลาย ชนิดตลอดชั่วนิจนิรันดร์กาล ไม่มีหมดโทษ หมดอายุความ หมดโอกาสแล้วๆ กันไปเลยอีกต่อไป...

ประเด็นที่น่าสนใจ...คงไม่ได้อยู่ที่เรื่องถูก-เรื่องผิด เรื่องเหมาะ-ไม่เหมาะ สำหรับกฎหมายฉบับนี้ ที่ใครต่อใครพูดๆ กันไปเยอะแล้ว แต่อยู่ที่มหกรรมการดาหน้าออกมาต้านกฎหมายฉบับนี้ของบรรดา “ไก่เผาไทย” นั่นแหละ ที่น่าคิด น่าสนใจ มิใช่น้อย คือไม่ได้มีแต่เพียงไก่ประเภทที่จิกไม่หยุด จิกแล้วจิกอีก ไม่ว่าหน้าไหนๆ ขอเป็นอันได้จิกเอาไว้ก่อน อย่าง “ไก่-วัฒนา” เจ้าเดิมเจ้าประจำเท่านั้น แต่ยังมีประเภท “เขียวหางไหม้” “เหลืองหางขาว” “ประดู่หางดำ” “นกหางแดง” “เขียวแมลงภู่” อย่าง “วิโรจน์ เปาอินทร์” “ชูศักดิ์ ศิรินิล” “นพดล ปัทมะ” “จาตุรนต์ ฉายแสง” หรือแม้แต่ “โภคิน พลกุล” ที่นานๆ ถึงออกงานที เรียกว่าโดยระดับชื่อ ชั้น ต่างจัดอยู่ในขั้น “พ่อพันธุ์” ไปด้วยกันทั้งสิ้น...

การดาหน้าออกมาของไก่พ่อพันธุ์เหล่านี้...จึงก่อให้เกิดคำถามตามมา ถึงบทบาทบารมีของไก่แม่พันธุ์ อย่างคุณหญิง “เจ๊สุดาหน่อย” ที่ยังลือๆ กันไม่เสร็จว่ากำลังขึ้นชั้นยกระดับขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเผาไทยคนใหม่ ว่าไปๆ-มาๆ แล้ว...จะ “เอาอยู่” หรือไม่ จะมีโอกาสได้ขึ้นมาเป็นผู้นำฝูงอย่างที่ลือๆ กันไป หรือคิดๆ กันไปหรือไม่ ประการใด อันนี้นี่แหละ...ที่น่าคิด น่าสนใจซะยิ่งกว่า เพราะไอ้เรื่องถูก-ไม่ถูก นิติธรรม-ไม่นิติธรรม อันนั้น...ต้องถือเป็นเรื่องของ “ศรีธนญชัย” ล้วนๆ แต่เรื่องหัวหน้าพรรคเผาไทยคนใหม่จะเป็นใคร หนีไม่พ้นต้องอาศัยอะไรที่ “คร่อกก์ก์ก์” ไปซะยิ่งกว่าศรีธนญชัยประมาณล้านเท่าเป็นอย่างน้อย คือต้องตัดสินชี้ขาดกันที่ว่า “นายใหญ่” จะเอายังไงกันต่อไปนั่นแล...
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
เรียกว่า...ถ้าหาก “นายใหญ่” คิดจะเปลี่ยนสไตล์จากที่เคยเล่นเจ็บ เล่นแรง หันมา “เล่นนิ่มๆ” เน้นในเรื่องการต่อเส้นต่อสายมากกว่าเน้นการปะทะ แตกหัก ด้วยเหตุเพราะต้องเผชิญกับ “กำแพงวุฒิสมาชิก” จำนวนถึง 250 พระหน่อยืนตระหง่าน ขวางหนทางที่จะ “ถอนทุน” จากการได้เป็นรัฐบาล อันนี้...หนีไม่พ้นคงต้องใช้บริการคุณหญิง “เจ๊สุดาหน่อย” ไปตามสภาพ แต่ถ้าหากเห็นว่าหนทางในการต่อเส้นต่อสาย มันชักต่อไม่ติด แม้คุณหญิง “เจ๊สุดาหน่อย” ท่านจะนิ่มแสนนิ่ม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูจะออกไปในทาง “ผู้ชายในฝัน” ของสุดยอดศิลปิน “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ คือ “เสียบหล่น...เสียบหล่น ตั้งห้าหกที” อะไรทำนองนั้น การพลิกกลับหันมาใช้สไตล์เล่นเจ็บเล่นแรงกันอีกครั้ง จึงอาจสะท้อนให้เห็นจาก “การจิกในเชิงสัญลักษณ์” หรือการดาหน้าออกมาปฏิเสธคัดค้านกฎหมายต้านโกงนักการเมืองแบบชนิดพึ่บๆ พั่บๆ กันไปทั้งเล้านั่นเอง

พร้อมๆ กันไปนั้น...บรรดา “แนวร่วม” ของไก่ อันได้แก่ประเภท “ปลากัด”ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคุณน้อง “จตุพร ตุ๊ดตู่” คุณน้อง “ณัฐวุฒิ สภาโจ๊ก” เจ้าของฉายา “เผามันเลยครับพี่น้อง...ผมรับผิดชอบเอง” ก็เริ่มออกมากัด ออกมางับ กระบวนการปรองดองตามพิธีกรรมของรัฐบาลกันบ้างแล้ว โอกาสที่รังสีอำมหิตจะแผ่ซ่าน กลิ่นคาวเลือดอาจเริ่มคละคลุ้งขึ้นมาอีก จะเป็นไปได้หรือไม่ ประการใด อันนี้นี่เอง...ที่น่าคิด น่าสนใจ เป็นอย่างมาก ยิ่งภายใต้สถานการณ์ที่ “กัปตันคุก” แล่นเรือสำรวจเข้ามาใกล้ทุกที ไม่ว่าคดีข้าว คดีบ้าน คดีรถ และอีกไม่รู้กี่คดีต่อกี่คดีที่สามารถรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้สัมภเวสีแปลงกายกลับมาเป็นมนุษย์ การต่อสู้ 2 แนวทางในเผาไทย คือแนวทางเล่นเจ็บ เล่นแรง กับแนวทางเล่นนิ่มๆ จึงเป็นอะไรที่ย่อมเกี่ยวพันกับความสงบสุข ความเรียบร้อยของบ้านเมืองอย่างมิอาจปฏิเสธได้...

ด้วยเหตุนี้...บรรดา “ชาวยุทธ” ทั้งหลาย คงต้องคอยจับตาอย่างมิอาจกะพริบตา แม้ว่าโดยท้ายที่สุดแล้ว ด้วยความเหนื่อยความเบื่อนั่นแหละ ที่ทำให้ “ความปรองดอง” มันชักเริ่มฟื้นคืนกลับมาด้วยตัวของมันเอง หรือด้วยธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ที่ไม่รู้จะโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาทกันไปถึงไหน แต่ถ้าหากต้องเจอกับแรงผลัก แรงกระตุ้น แรงอัดฉีด เพื่อที่จะอาศัยอารมณ์โกรธ อารมณ์โลภ อารมณ์หลง มาใช้เป็น “เครื่องมือ” กันอีกครั้ง บรรดาไก่ต่างๆ ที่อยู่ร่วมภายในเข่ง ภายในเล้าเดียวกัน จะเติบโตทาง “วุฒิภาวะ” เพียงพอที่จะอดทน อดกลั้น ที่จะอาศัย “ขันติธรรม” มารับมือกับการเดินหน้าประเทศไทย ให้ก้าวพ้นจากอุปสรรคของการวนไป-วนมา อยู่ภายในอ่าง ภายในเข่ง ได้มาก-น้อยแค่ไหน???
กำลังโหลดความคิดเห็น