ปฏิรูปได้ -ไม่ได้...ขึ้นอยู่กับ “ประชารัฐ”

เรื่องของ “เปรตอมเงินวัด” นั้น...ไปๆ-มาๆ ท่าทางออกจะหนักหนาสาหัสเอาเรื่องมิใช่น้อย คือหนักไปทาง “เฟะ” ด้วยเหตุเพราะปล่อยทิ้งกันมานานแสนนาน ความพยายาม “แยกเปรตออกจากพระ” เพื่อเล่นงานกันให้ถนัดๆ มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เรียกว่า...แทนที่พระท่านจะปล่อยเปรต หรือปล่อยให้จับเปรตเอามาลงโทษตามกฎหมาย ท่านกลับหันมาเล่นงานผู้ที่คิดจับเปรต ผนึกกำลังกันต่อต้านหมอผีในแต่ละราย ชนิดแทบกลายเป็น “เขตวัดห้ามเข้า” หรือเป็น “พื้นที่อนุรักษ์เปรต” เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!

แถลงการณ์ของกลุ่มคน หรือกลุ่มพระ ที่เรียกตัวเองว่า “องค์กรพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย” ซึ่งได้ออกมาแสดงอาการ “คว่ำบาตร” ต่อ “ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา” “พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์” ผู้พยายามเข้าไปจับเปรตในเขตวัด จะประกอบด้วยคน หรือพระรายใดบ้างนั้น ก็ยังไม่เป็นที่แจ้งชัด แต่ออกจะคล้ายๆ การแสดงออกของกลุ่มคนที่เคยเรียกตัวเองว่า “เครือข่ายพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย” ที่เคยออกแถลงการณ์สนับสนุน “วัดพระธรรมกาย” ไปพร้อมๆ กับประกาศต่อต้านคว่ำบาตรผู้ที่หวังจะอาศัยกฎหมายเอาผิดกับวัดแห่งนี้ ในข้อหาอมเงินชาวบ้าน หรืออมเงินสหกรณ์มาก่อนนั่นแล...

กลุ่มคน กลุ่มพระ ที่อยู่ภายในองค์กรทั้ง 2 ที่ว่านี้...จะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ นั่นคงต้องไปแยกแยะกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ต่างมีส่วนทำให้ความพยายามขจัดกวาดล้างความสกปรกรกรุงรังในแต่ละวัด การฟื้นฟูความเชื่อมั่น ศรัทธาต่อพระศาสนา เป็นอะไรที่ยุ่งยาก ลำบาก และ “ตึงมือ” มิใช่น้อย และนั่นเองที่อาจทำให้ท่านนายกฯ “บิ๊กตู่” และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลในเรื่องพระศาสนา ต้องเรียกตัวผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา เข้าไปปรับ ไปจูนเครื่องกันใหม่ เพื่อไม่ให้แรงเสียดสี เสียดทาน แรงต่อต้าน มันลุกลามบานปลายมากมายเกินไปนัก...

เพราะแค่ขนาด “วัดพระธรรมกาย” รายเดียว...ก็เหนื่อยแล้ว!!! เรียกว่า...ระดับมาตราฉี่ฉิบฉี่ ยังเอาแทบไม่อยู่ ต้องอาศัยการ “ลับ-ลวง-ครางง์ง์ง์” กันไปเป็นขั้นๆ ยิ่งถ้าหากต้องเจอกับวัดโน้น วัดนี้ที่ออกจะ “ดังๆ” ไปด้วยกันทั้งนั้น โอกาสที่จะเสร็จพระเสร็จเปรต ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้...มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แบบประเภท “ละเลงขนมเบื้องด้วยปาก” ต้องอาศัยจังหวะ โอกาส เงื่อนไขและสภาพแวดล้อมอีกเป็นจำนวนมากมาย และที่สำคัญก็คือ...ต้อง “ดำรงความมุ่งมั่น” ต้องประคับประคองความหวัง ความต้องการที่จะบรรลุจุดมุ่งหมาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็น “วัดพระธรรมกาย” หรือวัดที่มีเปรตซุกซ่อนอยู่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...รัฐบาล คสช.ของ “บิ๊กตู่” ท่านก็ไม่เคยละทิ้งความพยายามที่จะ “เดินหน้าไปตามกฎหมาย” แม้ว่าจะมาช้า...แต่ก็ยังดีกว่าไม่มาเอาเสียเลย...

ด้วยเหตุนี้...คงต้องเห็นใจ คงต้องให้กำลังใจเอาไว้มั่ง อย่าถึงกับไปคาดคั้น เอาเป็น เอาตายให้เสร็จๆ ให้ออกัสซั่มกันในวันโน้น วันนี้ เพราะแต่ละเรื่องๆ ต้องยอมรับว่า...ออกจะ “ยากซ์ซ์ซ์ฉิบหาย” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าเรื่อง “พระ” หรือเรื่อง “ตำรวจ” ที่มีแต่ต้องหาทางลดแรงเสียดสี เสียดทาน แรงต่อต้านลงไปให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ถึงจะทำให้การแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือ “การปฏิรูป” มันเป็นจริง เป็นจังขึ้นมาได้บ้างในทางปฏิบัติ ไม่ใช่เฉพาะแค่ในทางคำพูด หรือทางทฤษฎีที่พูดกันมานาน เต็มไปด้วยทฤษฎีไม่รู้กี่ต่อกี่ทฤษฎี แต่สุดท้าย...ยังคงต้อง “เฟะ” ต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุเพราะปล่อยทิ้งกันมานานแสนนานนั่นแล...

ความเห็นใจ หรือกำลังใจที่ว่า...เอาเข้าจริงๆ แล้ว มันก็คือการแสดงออกถึง “ความร่วมมือ-ร่วมใจ” นั่นเอง คือสิ่งที่จะทำให้การบรรลุเป้าหมาย ความสำเร็จ ในแต่ละเรื่อง ย่อมไม่ใช่แค่ความสำเร็จของใครคนใดคนหนึ่ง รัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง แต่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่าง “รัฐ” กับ “พลเมือง” ที่ต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกัน อันจะกลายมาเป็น “ประชารัฐ” ไผทของไทยทุกส่วน อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล ด้วย “ทะนวนหมาย” หรือ “ไทยล้วนหมาย” ก็แล้วแต่จะว่ากันไป และที่แน่ๆ ก็คือ...ภายใต้ทิศทางที่ว่า ย่อมหนีไม่พ้นต้องอาศัย “ทางสายกลาง” นั่นแหละ เป็นมรรคาไปสู่การบรรลุเป้าหมายในแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องที่สุด เพราะถ้าหาก “สุดโต่ง” ไปในด้านหนึ่ง ด้านใด หนีไม่พ้นต้องล้างครก ล้างบาง กันไปเป็นด้านๆ หรือหนีไม่พ้นต้องเผชิญหน้ากับแรงเสียดสี เสียดทาน แรงต่อต้านที่อาจนำไปสู่ความฉิบหายวายป่วง ก่อนหน้าที่จะได้เริ่มลงมือปฏิรูปเอาเลยก็ไม่แน่!!!

ด้วยเหตุนี้...ก็เอาเถอะ ไม่ว่ามันจะเชยซ์ซ์ซ์-ไม่เชยซ์ซ์ซ์ หรือไม่ ประการใด สำหรับ “ร่างสัญญาประชาคม 10 ข้อ” จากเวทีสาธารณะภาคกลาง 26 จังหวัด โดยการประสานงานของกองทัพภาคที่ 1 แต่ถ้าหากโดยเนื้อหา ข้อความ มันไม่ถึงกับก่อให้เกิดความเปรี้ยว ความครั่นเนื้อครั่นตัวมากมายจนเกินไป การแสดงปฏิกิริยาตอบรับ แสดงออกถึง “ความร่วมมือ -ร่วมใจ” ในสิ่งดีๆ อย่างน้อย...ย่อมน่าจะมีส่วนช่วยให้ “การปฏิรูป” สิ่งต่างๆ ในบ้านนี้ เมืองนี้ ยังพอมีโอกาสเป็นไปได้อยู่บ้างแม้แต่เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี...