ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ผบ.ตร.นำทัพ “ทีมบิ๊กแป๊ะ” โชว์ฟอร์มปิดคดี 8 ศพอ่าวลึก กู้ศรัทธาตำรวจไทย
คดีดัง ฆาตกรรม 8 ศพ ผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ สังหลัง ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ที่สังคมเฝ้าจับตามองว่า อะไรคือต้นสายปลายเหตุของการสังหารโหดครั้งนี้แล้ว .. ซึ่งบทสรุปที่เฉลยออกมาก็ยิ่งอึ้ง เมื่อการฆ่าแกงอย่างไร้ความเป็นมนุษย์ ไม่เว้นแม้แต่ลูกเด็ก เล็กแดง ปัญหามาจากแค่การทวงหนี้ หรือเบี้ยวหนี้สินเพียงไม่กี่ล้านบาท .. แน่นอน ต้องเริ่มที่คนก่อเหตุ “บังฟัต”ซูริก์ฟัต ที่ทางตำรวจระบุว่าเป็น “นายทุนเงินกู้”กับพวกรวม 8 ราย ที่ต้องถูกประณามอย่างไม่น่าให้อภัย .. ส่วนตัว“ผู้ใหญ่บัติ” วรยุทธ เองก็สร้างเรื่อง ไปใช้อิทธิพลขู่ฆ่ากันไปมา แบบไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้างนึง แต่เป็นทาง "บังฟัต" คู่กรณี ที่เป็นเดือดเป็นแค้นมากกว่า งานนี้ลูกเมียก็เลยพลอยซวยไปด้วย
อีกความน่าสนใจที่วางตาไม่ได้ ก็คงเป็น“ทัพตำรวจ”ที่ลงไปคลี่คลายคดี โดยการนำของ“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ลงไปเกาะติดในพื้นที่ จ.กระบี่ ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ พร้อมระดมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี“ชั้นอ๋อง”จากส่วนกลาง-นครบาล ที่ทำงานกันอย่างหนัก จนปิดคดีได้อย่างไร้ที่ติ .. งานนี้นอกจาก “แม่ทัพสีกากี”จะให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษ จากความโหดเหี้ยมทารุณของคดีแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่า“พื้นที่เกิดเหตุ”อยู่ในการกำกับดูแลของ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 ที่ตัว "ผู้บัญชาการ" เพิ่งโดนเด้งจากพิษซื้อขายตำแหน่ง .. ว่ากันว่า อีกสาเหตุที่ "จักรทิพย์" ต้องลงไปจัดการด้วยตัวเอง ก็คงเพราะรู้กันดีว่าเป็น “พื้นที่อิทธิพล”ที่หากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ "ตำรวจพื้นที่" โดยลำพัง รูปการณ์อาจจะไม่ออกมาจบบริบูรณ์แบบนี้
กลายเป็นคำรบที่ 2 ติดต่อกันที่ “ทีมเดอะแป๊ะ”เข้ามาจนปิดคดีดัง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทีมงานเดียวกันนี้ก็แกะรอยจับ "วัฒนา ภุมเรศ" มือระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า จนได้รับเสียงชมไปเป็นกระบุง .. กับคดีฆ่าโหดที่ จ.กระบี่ นอกเหนือจากตัว “ผบ.แป๊ะ”ลงพื้นที่เองเป็นว่าเล่น ก็ยังหนีบทีมงานที่กางชื่อออกมา มีทั้ง “บิ๊กอวบ”พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. “บิ๊กช้าง”พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. “บิ๊กใหม่”พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) ที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าชุดสืบสวน "บิ๊กปั๊ด" พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้การสันติบาล "บิ๊กหยม" พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 “บิ๊กบัว”พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 ที่คุมพื้นที่ใกล้ๆ มาร่วมด้วยช่วยกัน ที่ขาดไม่ได้ก็ “เดอะแมน”พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้การสืบใหญ่นครบาล คีย์แมนไขคดี รพ.พระมงกุฎเกล้า ที่ไปเป็นหัวแรงติดตามไล่ล่าคนร้ายเช่นเคย .. ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดง ที่กู้ชื่อให้กับ "ตำรวจไทย" ที่กำลังโดนเรียกร้องให้ปฏิรูป-สังคายนา อย่างหนัก
** “อัยการ-ดีเอสไอ”ดี๊ด๊า ใกล้ได้ตัว “ไอ้คำ”ผู้ร้ายข้ามแดน อย่าลืมตามหา“ธัมมี่ - บอส กระทิงแดง”ให้ด้วย
เกือบลืมกันไปแล้วนะเนี่ย .. เมื่อทีมงานอัยการไทย ทราบผลคำสั่งของศาลแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สั่งให้ส่งตัว วิรพล สุขผล หรือ อดีตพระดัง พระวิรพล ฉัตติโก หรือ “เณรคำ”อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็น“ผู้ร้ายข้ามแดน”ให้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย .. ย้อนความกันอีกที คดียาวเป็นหางว่าว อาญาล้วนๆ ทั้งพรากผู้เยาว์, กระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี, ฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน .. ทางอัยการ กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ไล่ล่าตัวอยู่ ก็ดี๊ด๊ากันใหญ่ แพ็กกระเป๋าเดินทางไปรับตัว “เณรคำ”หรือ “ไอ้คำ”ที่เมืองมะกันแล้ว .. แต่ก็ยังต้องลุ้นกันอีกทีว่า“ไอ้คำ”จะใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแคลิฟอร์เนียไหม แล้วศาลมะกันจะฟังรึป่าว .. พอมีข่าวมารผ้าเหลืองอย่าง“ไอ้คำ”แล้วก็พาลให้นึกถึงพระเดชพระคุณหลงพ่อ “ธัมมชโย”ที่ป่านนี้ไม่รู้ไปซุกหัวอยู่แถวไหน ไร้ข่าวคราวไปแลย เอ้า“ดีเอสไอ”ทำงานหน่อย .. ส่วนท่านอัยการ ก็น่าจะแวะประเทศอังกฤษ ไปถามหาตัว“บอส กระทิงแดง”วรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ด้วยนะว่า อยู่ดีมีสุขรึป่าว อย่าให้ต้องถึงสี่ซ้าห้าปีเลย คดีมันจะหมดอายุความเอานะ
** เจ้าบุญทุ่มรายใหม่ “สำนักนายกฯ”เทงบโฆษณาเดือนละร้อยล้าน แถม“บริษัทพีอาร์”ของ“ผู้พัน ต.-ผู้พัน บ.”รับงานภาครัฐเป็นล่ำเป็นสัน
โอ้โฮเฮะ!! ไม่กี่วันก่อนเห็นทางบริษัทวิจัยการตลาด นีลเส็น (Nielsen)เปิด “ทอปเทน”รายงาน 10 อันดับองค์กรที่ใช้งบโฆษณาสูงสุด ประจำเดือน มิ.ย.60 ที่ขาดหายไปก็“โคเรียคิง”ที่ครองบัลลังก์มานาน เกิดสะดุด“ดราม่ากระทะ”จนต้องตัดงบประมาณโฆษณา และหลุดโผไปโดยปริยาย .. ที่น่าสนใจคงเป็นรายของ สำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐเพียงรายเดียว ในหมู่มวลบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่อีก 9 ราย กับตัวเลข 129,377,000 บาท ที่เป็นยอดการลงโฆษณาตามสื่อต่างๆ แค่เดือนมิ.ย.เดือนเดียว .. ไม่เท่านั้น เมื่อพลิกบัญชีย้อนหลังในรอบปีนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี โผล่เข้ามาติดอันดับ “เจ้าบุญทุ่ม”เป็นครั้งแรกของปีนี้ เมื่อเดือนเม.ย. กับอันดับ 5 ที่ตัวเลข 123,765,000 บาท เดือนพ.ค.หล่นไปอยู่อันดับ 10 ที่ตัวเลข 102,030,000 บาท ก่อนขึ้นมายึดอันดับ 4 ในเดือนที่ผ่านมา .. อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่สำนักนายกฯ ในยุค“รัฐบาล คสช.”หรอกที่ผลาญงบประมาณเดือนละเป็นร้อยล้าน ปีละเป็นพันล้าน “งบพรรค์นี้”ตั้งไว้ตั้งแต่ “รัฐบาลเลือกตั้ง”แล้ว ทั้ง “รัฐบาลปู-รัฐบาลมาร์ค”ผลาญเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ .. แต่รัฐบาลนี้เข้าทำงบประมาณแล้ว ก็อย่างน้อย 3 ปี ก็ยังตั้ง“งบพรรค์นี้”อยู่ในสำนักนายกฯ นี่ยังไม่รวมที่ซุกไว้ตามโครงการของหน่วยงานอื่นๆ อีกมหาศาล .. ก็ต้องถามไปถึงภารกิจแบบนี้ กรมประชาสัมพันธ์ ที่มีงบประมาณปีละเกือบ 3 พันล้านบาท ไปทำอะไรอยู่ อ้าวเรื่องแบบนี้จะถามใครได้ ก็ต้อง“ท่านไก่อู”พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่เป็นทั้งในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกฯ แล้วก็ยังควบ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ด้วยสินะ .. แล้วเรื่องที่ช่วง 3 ปีมานี้ “บริษัทพีอาร์”ของเหล่า “ทีมงานหน้าหยก”ทั้ง “ผู้พัน ต.-ผู้พัน บ.”รับงานภาครัฐเป็นล่ำเป็นสัน วานตรวจนิดนะท่าน .. ดีไม่ดี เดี๋ยวจะมีคนไปประเดิมร้องที่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ทั่ว ประเทศ ตู้ ปณ. 444 ของท่านนายกฯ เอานะ .. ก็มีอย่างที่ไหน งบพีอาร์ประชาสัมพันธ์ เอะอะๆ ดันเข้า “จัดจ้างพิเศษ”เสียหมด ราวกับภารกิจเร่งด่วน แบบนี้มันก็ตรวจสอบยากสิท่าน .
ช.ชฎา
** ผบ.ตร.นำทัพ “ทีมบิ๊กแป๊ะ” โชว์ฟอร์มปิดคดี 8 ศพอ่าวลึก กู้ศรัทธาตำรวจไทย
คดีดัง ฆาตกรรม 8 ศพ ผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ สังหลัง ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ที่สังคมเฝ้าจับตามองว่า อะไรคือต้นสายปลายเหตุของการสังหารโหดครั้งนี้แล้ว .. ซึ่งบทสรุปที่เฉลยออกมาก็ยิ่งอึ้ง เมื่อการฆ่าแกงอย่างไร้ความเป็นมนุษย์ ไม่เว้นแม้แต่ลูกเด็ก เล็กแดง ปัญหามาจากแค่การทวงหนี้ หรือเบี้ยวหนี้สินเพียงไม่กี่ล้านบาท .. แน่นอน ต้องเริ่มที่คนก่อเหตุ “บังฟัต”ซูริก์ฟัต ที่ทางตำรวจระบุว่าเป็น “นายทุนเงินกู้”กับพวกรวม 8 ราย ที่ต้องถูกประณามอย่างไม่น่าให้อภัย .. ส่วนตัว“ผู้ใหญ่บัติ” วรยุทธ เองก็สร้างเรื่อง ไปใช้อิทธิพลขู่ฆ่ากันไปมา แบบไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้างนึง แต่เป็นทาง "บังฟัต" คู่กรณี ที่เป็นเดือดเป็นแค้นมากกว่า งานนี้ลูกเมียก็เลยพลอยซวยไปด้วย
อีกความน่าสนใจที่วางตาไม่ได้ ก็คงเป็น“ทัพตำรวจ”ที่ลงไปคลี่คลายคดี โดยการนำของ“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ลงไปเกาะติดในพื้นที่ จ.กระบี่ ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ พร้อมระดมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี“ชั้นอ๋อง”จากส่วนกลาง-นครบาล ที่ทำงานกันอย่างหนัก จนปิดคดีได้อย่างไร้ที่ติ .. งานนี้นอกจาก “แม่ทัพสีกากี”จะให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษ จากความโหดเหี้ยมทารุณของคดีแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่า“พื้นที่เกิดเหตุ”อยู่ในการกำกับดูแลของ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 ที่ตัว "ผู้บัญชาการ" เพิ่งโดนเด้งจากพิษซื้อขายตำแหน่ง .. ว่ากันว่า อีกสาเหตุที่ "จักรทิพย์" ต้องลงไปจัดการด้วยตัวเอง ก็คงเพราะรู้กันดีว่าเป็น “พื้นที่อิทธิพล”ที่หากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ "ตำรวจพื้นที่" โดยลำพัง รูปการณ์อาจจะไม่ออกมาจบบริบูรณ์แบบนี้
กลายเป็นคำรบที่ 2 ติดต่อกันที่ “ทีมเดอะแป๊ะ”เข้ามาจนปิดคดีดัง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทีมงานเดียวกันนี้ก็แกะรอยจับ "วัฒนา ภุมเรศ" มือระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า จนได้รับเสียงชมไปเป็นกระบุง .. กับคดีฆ่าโหดที่ จ.กระบี่ นอกเหนือจากตัว “ผบ.แป๊ะ”ลงพื้นที่เองเป็นว่าเล่น ก็ยังหนีบทีมงานที่กางชื่อออกมา มีทั้ง “บิ๊กอวบ”พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. “บิ๊กช้าง”พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. “บิ๊กใหม่”พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) ที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าชุดสืบสวน "บิ๊กปั๊ด" พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้การสันติบาล "บิ๊กหยม" พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 “บิ๊กบัว”พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 ที่คุมพื้นที่ใกล้ๆ มาร่วมด้วยช่วยกัน ที่ขาดไม่ได้ก็ “เดอะแมน”พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้การสืบใหญ่นครบาล คีย์แมนไขคดี รพ.พระมงกุฎเกล้า ที่ไปเป็นหัวแรงติดตามไล่ล่าคนร้ายเช่นเคย .. ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดง ที่กู้ชื่อให้กับ "ตำรวจไทย" ที่กำลังโดนเรียกร้องให้ปฏิรูป-สังคายนา อย่างหนัก
** “อัยการ-ดีเอสไอ”ดี๊ด๊า ใกล้ได้ตัว “ไอ้คำ”ผู้ร้ายข้ามแดน อย่าลืมตามหา“ธัมมี่ - บอส กระทิงแดง”ให้ด้วย
เกือบลืมกันไปแล้วนะเนี่ย .. เมื่อทีมงานอัยการไทย ทราบผลคำสั่งของศาลแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สั่งให้ส่งตัว วิรพล สุขผล หรือ อดีตพระดัง พระวิรพล ฉัตติโก หรือ “เณรคำ”อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ เป็น“ผู้ร้ายข้ามแดน”ให้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย .. ย้อนความกันอีกที คดียาวเป็นหางว่าว อาญาล้วนๆ ทั้งพรากผู้เยาว์, กระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี, ฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน .. ทางอัยการ กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ไล่ล่าตัวอยู่ ก็ดี๊ด๊ากันใหญ่ แพ็กกระเป๋าเดินทางไปรับตัว “เณรคำ”หรือ “ไอ้คำ”ที่เมืองมะกันแล้ว .. แต่ก็ยังต้องลุ้นกันอีกทีว่า“ไอ้คำ”จะใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแคลิฟอร์เนียไหม แล้วศาลมะกันจะฟังรึป่าว .. พอมีข่าวมารผ้าเหลืองอย่าง“ไอ้คำ”แล้วก็พาลให้นึกถึงพระเดชพระคุณหลงพ่อ “ธัมมชโย”ที่ป่านนี้ไม่รู้ไปซุกหัวอยู่แถวไหน ไร้ข่าวคราวไปแลย เอ้า“ดีเอสไอ”ทำงานหน่อย .. ส่วนท่านอัยการ ก็น่าจะแวะประเทศอังกฤษ ไปถามหาตัว“บอส กระทิงแดง”วรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ด้วยนะว่า อยู่ดีมีสุขรึป่าว อย่าให้ต้องถึงสี่ซ้าห้าปีเลย คดีมันจะหมดอายุความเอานะ
** เจ้าบุญทุ่มรายใหม่ “สำนักนายกฯ”เทงบโฆษณาเดือนละร้อยล้าน แถม“บริษัทพีอาร์”ของ“ผู้พัน ต.-ผู้พัน บ.”รับงานภาครัฐเป็นล่ำเป็นสัน
โอ้โฮเฮะ!! ไม่กี่วันก่อนเห็นทางบริษัทวิจัยการตลาด นีลเส็น (Nielsen)เปิด “ทอปเทน”รายงาน 10 อันดับองค์กรที่ใช้งบโฆษณาสูงสุด ประจำเดือน มิ.ย.60 ที่ขาดหายไปก็“โคเรียคิง”ที่ครองบัลลังก์มานาน เกิดสะดุด“ดราม่ากระทะ”จนต้องตัดงบประมาณโฆษณา และหลุดโผไปโดยปริยาย .. ที่น่าสนใจคงเป็นรายของ สำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐเพียงรายเดียว ในหมู่มวลบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่อีก 9 ราย กับตัวเลข 129,377,000 บาท ที่เป็นยอดการลงโฆษณาตามสื่อต่างๆ แค่เดือนมิ.ย.เดือนเดียว .. ไม่เท่านั้น เมื่อพลิกบัญชีย้อนหลังในรอบปีนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี โผล่เข้ามาติดอันดับ “เจ้าบุญทุ่ม”เป็นครั้งแรกของปีนี้ เมื่อเดือนเม.ย. กับอันดับ 5 ที่ตัวเลข 123,765,000 บาท เดือนพ.ค.หล่นไปอยู่อันดับ 10 ที่ตัวเลข 102,030,000 บาท ก่อนขึ้นมายึดอันดับ 4 ในเดือนที่ผ่านมา .. อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่สำนักนายกฯ ในยุค“รัฐบาล คสช.”หรอกที่ผลาญงบประมาณเดือนละเป็นร้อยล้าน ปีละเป็นพันล้าน “งบพรรค์นี้”ตั้งไว้ตั้งแต่ “รัฐบาลเลือกตั้ง”แล้ว ทั้ง “รัฐบาลปู-รัฐบาลมาร์ค”ผลาญเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำ .. แต่รัฐบาลนี้เข้าทำงบประมาณแล้ว ก็อย่างน้อย 3 ปี ก็ยังตั้ง“งบพรรค์นี้”อยู่ในสำนักนายกฯ นี่ยังไม่รวมที่ซุกไว้ตามโครงการของหน่วยงานอื่นๆ อีกมหาศาล .. ก็ต้องถามไปถึงภารกิจแบบนี้ กรมประชาสัมพันธ์ ที่มีงบประมาณปีละเกือบ 3 พันล้านบาท ไปทำอะไรอยู่ อ้าวเรื่องแบบนี้จะถามใครได้ ก็ต้อง“ท่านไก่อู”พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่เป็นทั้งในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกฯ แล้วก็ยังควบ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ด้วยสินะ .. แล้วเรื่องที่ช่วง 3 ปีมานี้ “บริษัทพีอาร์”ของเหล่า “ทีมงานหน้าหยก”ทั้ง “ผู้พัน ต.-ผู้พัน บ.”รับงานภาครัฐเป็นล่ำเป็นสัน วานตรวจนิดนะท่าน .. ดีไม่ดี เดี๋ยวจะมีคนไปประเดิมร้องที่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์ทั่ว ประเทศ ตู้ ปณ. 444 ของท่านนายกฯ เอานะ .. ก็มีอย่างที่ไหน งบพีอาร์ประชาสัมพันธ์ เอะอะๆ ดันเข้า “จัดจ้างพิเศษ”เสียหมด ราวกับภารกิจเร่งด่วน แบบนี้มันก็ตรวจสอบยากสิท่าน .
ช.ชฎา