xs
xsm
sm
md
lg

"บอส” ทิ้งเจตชิ่งไร้ร่องรอย กระแสบอยคอตRED Bullกระหึ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - ตร.สากลเผย "บอส วรยุทธ" จอดเครื่องบินส่วนตัวทิ้งที่ “สิงคโปร์” ก่อนเดินทางออก 27 เม.ย.ไม่รู้ที่หมาย กระแสกดดันแบรนด์ RED Bull ลาม “อดีตซีลมะกัน” ผุดแคมเปญบอยคอตสินค้ากลุ่มกระทิงแดง โลกโซเชียลขานรับติดแฮชแทก #SayNoToRedBull เช่นเดียวกับวงการ F1 ที่ “เฟอร์รารี - เบนซ์” ไม่ขายเครื่องยนต์ให้ทีมรถแข่ง RED Bull มา 2 ฤดูกาลแล้ว

วานนี้ (4 พ.ค.) พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าตำรวจสากลประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัว นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ว่า จากการตรวจสอบข่าวกับตำรวจสากลประเทศสิงคโปร์ พบว่าเครื่องบินส่วนตัวของนายวรยุทธ ยังจอดอยู่ที่สิงคโปร์ จึงขอให้ตำรวจสากลประเทศสิงคโปร์ ตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะอาจเป็นการจอดเครื่องบินทิ้งไว้ แล้วโดยสารเครื่องบินพาณิชย์ไปประเทศอื่น โดยล่าสุดได้รับแจ้งว่านายวรยุทธ ออกจากสิงคโปร์ วันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ยังไม่ทราบจุดหมายว่าเดินทางไปประเทศใดพล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดตำรวจสากลอังกฤษ แจ้งเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้รับเอกสารให้ตรวจสอบแหล่งพำนักนายวรยุทธในประเทศอังกฤษ ปรากฏว่า ตำรวจสากลอังกฤษไม่พบข้อมูลการเข้าประเทศของ นายวรยุทธ และไม่พบตัวว่าอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษแต่อย่างใด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ประสานองค์การตำรวจสากลให้ออกหมายน้ำเงินแทนหมายแดง เพื่อตรวจสอบที่อยู่นายวรยุทธ ซึ่งการออกหมายดังกล่าว ก็จะออกที่ศูนย์นวัตกรรรมองค์การตำรวจสากล ตั้งอยู่ประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ การร้องขอหมายน้ำเงิน แทนหมายแดง เพราะต้องการปักหมุดที่อยู่นายวรยุทธ ที่ชัดเจนเพื่อส่งให้อัยการพิจารณาขอส่งตัวเป็นผู้รายข้ามแดนกับประเทศ ที่นายวรยุทธไปพำนัก สำหรับหมายน้ำเงิน หรือหมายฟ้า เป็นหมายที่แจ้งให้ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศสมาชิก รวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหว, ถิ่นพำนัก, บุคลิกลักษณะของบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กองการต่างประเทศจะต้องประสานตำรวจสากล เพื่อยืนยันถิ่นพำนักของนายวรยุทธ หลังจากล่าสุดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเปิดเผยว่า นายวรยุทธ เดินทางออกจากประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะดำเนินการประสานงานขอตัวผู้ร้ายข้ามแดน ไปยังประเทศนั้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งประเทศไทยมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับ 16 ประเทศ ดังนี้ 1. สหรัฐอเมริกา 2. สหราชอาณาจักรและไอแลนด์เหนือ 3. แคนาดา 4. เบลเยี่ยม 5. จีน 6. เกาหลีใต้ 7. อินโดนีเซีย 8. ออสเตรเลีย 9. ฟิลิปปินส์ 10. กัมพูชา 11. ฮ่องกง 12. ลาว 13. บังคลาเทศ 14. ฟิจิ 15. มาเลเซีย และ16.อินเดีย

** ผุดกระแสบอยคอต “เรดบูลล์”

กระแสความไม่พอใจกรณีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ลูกชายนายเฉลิม อยู่วิทยา มหาเศรษฐีเจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง หลบหนีคดีขับรถหรูชนตำรวจเสียชีวิต สร้างความไม่พอใจแก่โลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง ถึงขนาดเกิดแฮชแท็ก #SayNoToRedBull โดยการไม่ซื้อสินค้าเครื่องดื่มกระทิงแดงและบริษัทในเครือ เพื่อตอบโต้การกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบของนายบอสดังกล่าว

โดยมีรายงานข่าวว่า นายเวย์น เฮสส์ อดีตนาวิกโยธิน (หน่วยซีล) แห่งกองทัพสหรัฐฯ เรียกร้องให้ผู้คนบนโลกออนไลน์ทั่วโลก ยุติการซื้อสินค้าในเครือกระทิงแดง หรือ Red Bull ภายใต้แคมเปญ Say No To Red Bull ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนข้ามชาติระหว่างนักธุรกิจตระกูลอยู่วิทยาของไทยและนักธุรกิจจากออสเตรีย เพื่อกดดันและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตอบโต้นายบอส ที่ยังคงใช้ชีวิตอย่าง “หรูหราไร้จิตสำนึก” อยู่ในต่างแดนมานานถึง 5 ปี หลบหนีความผิดในคดีขับรถสปอร์ตหรูพุ่งชนตำรวจตายในไทยตั้งแต่ปี 2553

“บอส อยู่วิทยา สมควรต้องเผชิญกับคืนวันอันหนาวเหน็บในขุมนรก ผมจะยัดเศษสตางค์ของผม เข้ารูทวารหนักของไอ้พวกเศรษฐี ที่เห็นชีวิตของตำรวจนายหนึ่งเป็นแค่เศษขยะ ดังนั้น ครั้งหน้า หากคุณจะซื้อสินค้าใดๆของบริษัทเร้ดบูลล์ ขอให้พวกคุณลองคิดถึงชะตากรรมของตำรวจไทยนายหนึ่งที่ถูกลูกเศรษฐีที่ไร้จิตสำนึกขับรถราคาแพงพุ่งชน และมันยังขับรถลากร่างของเขาไปตามถนนอย่างน่าเวทนา จนตำรวจไทยนายนี้สิ้นใจ ผมขอให้พวกคุณหยุดคิดสักนิด ถึงครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของตำรวจไทยนายนี้ ก่อนที่คุณจะควักกระเป๋าซื้อสินค้าของเร้ดบูลล์ครั้งต่อไป” นายเฮสส์ ระบุ

** เผย “เฟอร์รารี - เบนซ์” บอยคอตมา 2 ปีแล้ว

ขณะเดียวกัน ก็ได้เกิดข่าวลือแพร่สะพัดในแวดวงแข่งรถสูตรหนึ่ง ฟอร์มูลา วัน ออกมาว่า ค่ายยานยนต์ชื่อดังของโลกอย่างน้อย 2 ค่าย คือ “เฟอร์รารี” จากอิตาลี และ “เมอร์เซเดส เบนซ์” จากเยอรมนี ประกาศปฏิเสธความร่วมมือทางเทคนิค ซึ่งรวมถึงการจัดส่งเครื่องยนต์ให้กับค่ายรถแข่ง “เร้ด บูลล์ เรซิง” ของบริษัท Red Bull ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังในการแข่งขันรถสูตรหนึ่งฟอร์มูลา วัน ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา จนทีม Red Bull ต้องหันไปใช้เครื่องยนต์ที่ผลิตโดย “แท็ก ฮอยเออร์” ค่ายนาฬิกาชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์แทน

รายงานข่าวระบุว่า ค่ายยานยนต์เฟอร์รารี และเมอร์เซเดส ตัดสินใจปฏิเสธความร่วมมือทางเทคนิค รวมถึงการจัดส่งเครื่องยนต์ของตนให้กับทีมแข่งรถฟอร์มูลาวันของเร้ด บูลล์ เรซิง เนื่องจากต้องการ “เพิ่มแรงกดดันในเชิงจริยธรรม” แก่บริษัท Red Bull กรณีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทผู้บริหาร Red Bull ขับรถยนต์หรูยี่ห้อเฟอร์รารีชนเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อปี 2012 แต่กลับปรากฏว่า นายบอส ยังคงใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขในต่างแดน รวมถึงการเดินทางมาชมการแข่งขันรถฟอร์มูลาวันของทีมตัวเอง คือ ทีม เร้ด บูลล์ เรซิง อยู่เป็นประจำ

ข้อมูลระบุว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2007 เป็นต้นมา ทีมแข่งรถเร้ด บูลล์ เรซิงนั้น ทำสัญญาเป็นพันธมิตรด้านเทคนิคกับค่ายรถยนต์เรโนลต์จากฝรั่งเศส แต่มีการยกเลิกสัญญากับค่ายเรโนลต์เมื่อปี 2015 ซึ่งทางทีมเร้ด บูลล์ เรซิงตกเป็นข่าวเปิดเจรจากับเฟอร์รารีและเมอร์เซเดส เบนซ์ เพื่อขอรับการสนับสนุนด้านเครื่องยนต์ และความช่วยเหลือทางเทคนิคอื่นๆ แลกกับการที่เร้ด บูลล์ เรซิง ต้องยอมจ่ายเงินจำนวนหลายสิบล้านดอลลาร์ให้ค่ายรถทั้งสองเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน

รายงานข่าวซึ่งอ้างแหล่งข่าวในแวดวงฟอร์มูลาวัน ระบุ ทั้งเฟอร์รารี และเมอร์เซเดส เบนซ์ ปฏิเสธไม่ขอร่วมมือกับทีมเร้ด บูลล์ เรซิง ในฤดูกาล 2016 และ 2017 เพราะต้องการกดดันให้ผู้บริหารของบริษัท Red Bull ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับนายบอส อยู่วิทยา ซึ่งหลบหนีคดีขับรถชนตำรวจตายในไทยมาตั้งแต่ปี 2012ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า บอร์ดบริหารของเฟอร์รารีที่นำโดย เซอร์จิโอ มาร์คิอ็อนเน และปิเอโร เฟอร์รารี เองก็รู้สึกไม่พอใจข่าวอื้อฉาวที่บอส อยู่วิทยา ขับรถยี่ห้อเฟอร์รารีชนตำรวจเสียชีวิตและหลบหนีในประเทศไทย จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เนื่องจากข่าวดังกล่าว “ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์” แบรนด์รถหรูของเฟอร์รารีด้วยเช่นกัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น