xs
xsm
sm
md
lg

ยุ”กรธ.”ล้มไพรมารีอ้างซื้อเสียงง่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)แก้ไขระบบไพรมารีโหวต ให้เป็นเรื่องภายในของพรรคการเมือง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ไม่มีสิทธิ์แจกใบแดง ใบเหลืองว่า เป็นการทำตามหลักที่ถูกต้อง ส่วนรายละเอียดคงต้องให้กรธ.ยกร่างและประกาศให้ชัด ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร แค่ไหน แต่ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า การทำไพรมารีโหวตนี้ จะลงทุนสูงมาก แต่คนมามีส่วนร่วมน้อย ไม่ตรงกับเจตนารมย์ของคนร่างกฎหมายนี้ และใครจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เพราะในอดีตที่ผ่านมาที่เราเคยทำแบบทางอ้อม ใช้การประกาศผ่านรถโฆษณาหาเสียง และใช้การบอกต่อแบบปากต่อปาก ของกรรมการสาขาเขต ตนจึงกล้าฟังธงว่าจะเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน เพราะสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ ต้องทำมาหากิน และจะยิ่งมีปัญหาในทางปฏิบัติกับพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ หรือพรรคที่มีสมาชิกในเขตเลือกตั้ง หรือเขตจังหวัดนั้นน้อย ก็จะไม่ได้ผล เพราะคนจะมาโหวตน้อยลงไปด้วย
ที่สำคัญ เมื่อมีสมาชิกพรรคน้อย หรือคนมาโหวตน้อย ก็สามารถแทรกแซงหรือถูกครอบงำ หรือถูกซื้อได้ง่ายมากกว่าเดิม และเป็นการลงทุนซื้อเสียงที่ต่ำ โดยเป็นการซื้อเสียงทางอ้อม คือซื้อเสียงตั้งแต่คัดเลือกตัวผู้สมัครลงในนามพรรค โดยซื้อผ่านกรรมการสาขา หรือสมาชิกพรรคที่จัดตั้งไว้แล้ว และเป็นการซื้อโดยมีกฎหมายรับรองด้วย แม้เจตนารมย์ของผู้ร่างกฎหมายจะหวังดี แต่ผลที่ออกมาจะต่าง ไม่เป็นไปตามที่คิด และยังมีปัญหาในกรณีการส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ที่ กำหนดให้สมาชิกพรรค 1 คน เลือกผู้สมัครได้15 คน จากบัญชีรายชื่อของพรรค 150 คน เพราะที่สุดแล้ว คนดี คนมีความรู้ความสามารถเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่พรรคส่งลงเพื่อจะให้มาช่วยงาน จะไม่ได้รับเลือกตั้ง เพราะสมาชิกพรรคในแต่ละเขตเลือกตั้ง ไม่รู้จักคนเหล่านี้ จะเกิดปัญหา ผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อจะไม่กระจายตามรายภาค ไม่กระจายตามสัดส่วนของส.ส.ชาย และหญิง ที่รธน.กำหนด อาจขัดรธน.ตามมาอีก
"ยกตัวอย่าง เขตเลือกตั้งหนึ่ง มีสมาชิกพรรค ก. 300 คน แต่ในเขตเลือกตั้งนั้น มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง100,000 คน พรรคการเมืองนอกจากมองหาคนดีแล้ว ก็ต้องส่งคนที่มีโอกาสชนะเลือกตั้งด้วย ไม่ใช่คิดแค่ว่าคน 300 คน จะเลือกเท่านั้น แต่ต้องดูว่าคู่แข่งขันของพรรคเป็นใคร หากส่งอดีตมหาเปรียญ 6 ประโยค แข่งกันอดีตส.จ.แล้วจะชนะหรือไม่ หากส่งคนดีแต่ไม่มีโอกาสชนะเลือกตั้งทั้ง 350 เขต ส่งไปแพ้หมด ที่สุดพรรคก็อยู่ไม่ได้ พรรคเจ๊ง ก็ต้องยุบไป ฉะนั้นการส่งคนลงสมัครเลือกตั้งส.ส. นอกจากจะเป็นคนดีแล้ว ก็ต้องฟังกรรมการบริหารพรรคด้วย คือได้ทั้งคนดี และมีโอกาสชนะเลือกตั้งด้วย ไม่ใช่ฟังแต่เสียงของสมาชิก หรือกรรมการสาขาเขต หากเปรียบเทียบกับบริษัทที่มีสาขาทั่วโลก ไม่มีบริษัทใด ที่จะให้สาขามีอำนาจเหนือมากำหนดนโยบายให้สำนักงานใหญ่ทำตาม ไม่เช่นนั้นบริษัทสำนักงานใหญ่ จะมีไว้ทำไม และหากทำตามสาขาย่อย เสียหายบริษัทล้มละลายจนปิดกิจการ ใครรับผิดชอบ" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น