xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** รวยแบบ "ครูอ้อย" โกยเงินค่าคอร์ส-ขายหนังสือไม่พอ ยังเป็น "นักปั้นหุ้น" พอร์ตร่วมพันล้าน คนหลงคารมสูญไปนับสิบล้าน

“ครูเป็นตัวอย่างของคนมั่งคั่งร่ำรวย ที่มีปัญญามาก”คือคอมเมนต์ของศิษย์คนหนึ่งที่ไปโพสต์เยินยอ“ครูอ้อย”ฐิตินาถ ณ พัทลุง ไว้ในเว็บไซต์“เข็มทิศชีวิต”.. เป็นคอมเมนต์ที่สะท้อน “ตัวตน”ของ "เจ้าลัทธิเข็มทิศ" ได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ความมั่งคั่ง ร่ำรวย จากพื้นฐานครอบครัวที่เป็นทายาทของ ไสว ณ พัทลุง อดีตนายกสมาคมธุรกิจจังหวัดสงขลา เจ้าของโรงแรมพิงค์ เลดี้ หาดใหญ่ และผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย ภาคใต้ ผู้เคยประกาศกวาดเก้าอี้ ส.ส.ภาคใต้ตอนล่าง เป็นโอกาสสุดท้ายนำ“พ่อแม้ว”กลับประเทศ เมื่อการเลือกตั้งปี 2554 .. หรือจะเป็นฐานะในปัจจุบันของ“ครูอ้อย”ที่อู้ฟู่ ใช้ชีวิตดี๊..ดี บนเพนต์เฮาส์หรูกลางกรุง จน“ไฮโซ–ไฮซ้อ”ต้องอิจฉา .. ฐานะที่งอกเงยขึ้นมาไม่ได้มาจากกำรี้กำไรจากการขายหนังสือชุดเข็มทิศชีวิต จนยกตัวเป็น“ไลฟ์โค้ช”เปิดคอร์สราคาแพงหูฉี่ หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของโครงการคอนโดฯหรู ย่านสาธร-โครงการหมู่บ้านเข็มทิศ วิลเลจ เท่านั้น .. “ครูอ้อยคนดัง”ยังมีชื่อเสียงโด่งดังใน“วงการหุ้น”อีกด้วย
กับพอร์ตหุ้นส่วนตัวที่ว่ากันว่า มีไม่ต่ำกว่าหลัก“พันล้าน”เอาแค่“หุ้น ABC”หรือ บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) ที่ “ครูอ้อย”ติดโผผู้ถือหุ้นใหญ่ตัวเดียว ก็ทำกำไรไปๆ กลับๆ เฉียดพันล้านเข้าให้แล้ว .. เป็น“หุ้น ABC”ที่ “แมงแม่า”รู้จักกันดี กับสถิติที่เคยสร้างประวัติการณ์ไว้เมื่อปี 2557 ผลตอบแทนพุ่งพรวดไปถึง 2,653.90% เคยไต่ราคาแบบก้าวกระโดดไปปิดที่ 60 กว่าบาทมาแล้ว ขณะที่ปัจจุบันหุ้นที่ว่าเหลือแค่ 0.21-0.22 สตางค์เท่านั้น .. เป็นหุ้นตัวเดียวกับที่ “เจ้าของเพจให้คำปรึกษาเรื่องหุ้น”รายหนึ่ง เคยหลงเล่ห์เพทุบาย เจอกล่อมจนขึ้นไปติดดอย เสียสถาบัน“เซียนหุ้น”มาแล้ว ..
เซียนหุ้นที่ใช้ชื่อว่า“บอส”เล่าว่าได้รู้จัก“ครูอ้อย”ช่วงปี 2557 ที่หุ้น ABC กำลังพีค แต่กว่าจะเข้าไปถือ ก็ข้ามมาปี 2558 มูลค่าเหลือ 4.50 บาท แต่แค่ 3 เดือน ก็เหลือแค่ 2 บาทกว่า ขึ้นไปอยู่บนดอยแบบเหงาๆ กับเงินทุน 20 ล้านบาท โดยมีคำปลอบประโลมจาก“ครูอ้อย”หว่านล้อมให้ถือต่ออยู่ตลอด .. เดชะบุญ!! “เซียนบอส”ได้สติขึ้นมาก่อน จึงตัดสินใจกลืนเลือด ปล่อยหุ้น ABC ออกจนหมดมือ ได้คือกลับมาราว 6-7 ล้านบาท แค่ 3 เดือน ทำเงินหล่นไป 13 ล้านบาท .. นี่เป็นเพียงเคสเดียวที่ออกมาให้ข้อมูลอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ยังมีอีกเพียบ ที่ไม่เป็นข่าว จุดนี้ก็ถือว่า“ครูอ้อย”ใช้ศิลปะความมี“ปัญญามาก”ในการกล่อมจน “คนเคยเซียน”กลายเป็น“เหยื่ออันโอชะ”ไปซะนี่ .. และในขณะที่ “เซียนบอส”ยังใช้หนี้อยู่งกๆ “เซียนอ้อย”ที่ถือ ABC มากกว่าหลายเท่าตัว ไม่เห็นสะท้านสะเทือนกับราคาหุ้นที่ร่วงแบบดิ่งเหวอะไรเลย

** จิตวิทยาขั้นสูงอีกแล้วครับท่าน “ศานิตย์ ซารางเฮโย”กับท่าทางอี๋อ๋อ “มือบึ้มพระมงกุฎฯ”ราวคู่รัก

อันยอง ซารางเฮโย .. เปิดหัวแบบนี้ ไม่ได้จะพูดถึง“โอปป้า”ที่ไหน แต่ได้ติดตามงานแถลงข่าวรับมอบตัว "วัฒนา ภุมเรศ" ผู้ต้องหาวางระเบิดห้องวงษ์สุวรรณ รพ.พระมงกุฎเกล้า ของทาง "บิ๊กตำรวจ" แล้วก็อดนึกถึงประโยคฮิตนี้ไม่ได้ .. ไม่ต้องไปลงลึกเรื่องรายละเอียดคดี ที่มีการคุ้ยแคะมาหลายวันแล้ว และผู้ต้องหาก็สารภาพ ตามคำกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเป๊ะๆ .. ที่น่าสนใจกว่าคำสารภาพ คงเป็นบรรยากาศการแถลงข่าวมากกว่า แม้ช่วงต้นจะดูจริงจังจนสัมผัสได้ ท่าทาง “บิ๊กแป๊ะใหญ่”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. “บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กับเหล่าบิ๊กๆ สีกากีที่อยู่บนฟลอร์ ก็ดูเข้มขรึมดีอยู่ .. แต่พอแถลงข่าวเสร็จ บรรยากาศก็ผ่อนคลาย“เป็นพิเศษ”เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคน ทักทายพูดคุยกับ“มือบึ้มวัฒนา”ที่ไม่ได้ใส่กุญแจมือ อย่างเป็นกันเอง
โดยเฉพาะรายของ“บิ๊กแป๊ะน้อย”พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ที่ “ก้อร่อก้อติก”กับผู้ต้องหา บางจังหวะมีโอบกอดกันราวกับคู่รัก ข้าวใหม่ปลามัน เลยทีเดียว .. น่าจะเป็น“จิตวิทยาขั้นสูง”ที่ทำให้ผู้ต้องหารู้สึกผ่อนคลาย ไม่ต่างกับเมื่อครั้งดูแล“อีเปรี้ยวแอนด์เดอะแก๊ง”มือฆ่าหั่นศพอย่างดี ในระดับ“วีไอพี”จนถูกตั้งคำถามว่า นี่ฆาตกร หรือ“ซุปตาร์”มาแล้ว .. ที่ทักขึ้นมาก็ไม่ได้ยุยงให้ปฏิบัติรุนแรงกับผู้ต้องหา แต่โตๆ กันแล้ว ก็น่าจะรู้ว่า“พอดี”เป็นยังไง แล้วแนวทางปฏิบัติในอนาคต จะเสมอภาค-มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ ถ้าผู้ต้องหาในคดีอื่นๆ ขอแบบ“อีเปรี้ยว–วัฒนามือบึ้ม”บ้าง จะได้ไหม ??

** เวรกรรมคนไทยปลายด้ามขวาน "ไฟใต้" ไร้วี่แววสงบ เลี้ยงไข้ จก"เงินทอน" สนุกสนาน ซื้อของแพงคุณภาพแย่ ทั้ง"ซีซีทีวี-เสาโซล่าเซลล์" สุดห่วย

เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง .. ล่าสุดช่วง 7 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอน "โจรใต้" ก็ใช้วิธีการลอบกัด วางระเบิดรถลาดตะเวนของทหารหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) ปัตตานี ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ใน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี จนเจ้าหน้าที่ทหารต้องสละชีพไปถึง 6 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย .. น่าสนใจว่า อ.ทุ่งยางแดง เป็นหนึ่งในพื้นที่ "เซฟตี้โซน" และยังเป็น "เมืองต้นแบบ" ที่อยู่ในแผนการพูดคุยสันติสุข จึงถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า สถานการณ์ไม่มีแนวโน้มในทางบวกเลย ..
ขณะเกิดเหตุ "แม่ทัพอาร์ท" พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 (มทภ.4) เข้ามาปฏิบัติภารกิจในกทม. พอดี เลยให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวานนี้ ตอนหนึ่งได้กล่าวถึงปัญหาที่ "ผบ.เจี๊ยบ" พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. สั่งการให้ดูแล "กล้องวงจรปิด" ในพื้นที่ ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ แสดงว่าที่ผ่านมา วงจรปิดในพื้นที่ชายแดนใต้คงห่วยไม่แพ้ใน กทม. .. เห็น "แม่ทัพอาร์ท" บอกว่า สาเหตุมาจากในพื้นที่ภาคใต้มีฝนตกชุก ไฟดับ-ไฟกระชากทีทำกล้องเจ๊งเป็นร้อยเป็นพันตัว กำลังประสานทางการไฟฟ้าภูมิภาคให้แก้ไขอยู่ ฟังแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมคุณภาพกล้องมันห่วยแตกได้ขนาดนี้ พาลทำให้นึกย้อนไปว่า "ซีซีทีวี-วงจรปิด" ชุดล่าสุด ที่ติดตั้งในพื้นที่ชายแดนใต้ ก็เป็นความรับผิดชอบของ "บิ๊กอาร์ท" นี่แหละ .. สมัยยังติดยศ พล.ต. มีตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองทางทหาร สนับสนุนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ชงโครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี ชนกับโครงการที่เจ้าของพื้นที่ตั้งไว้อยู่แล้ว ผลสุดท้ายเป็น "เจ้าถิ่น" ที่ไม่เพียงต้องพับโครงการ ยังต้องหลุดจากทีมงานดับไฟใต้เสียด้วย สุดท้ายของสุดท้ายก็เลยได้ "กล้องห่วยๆ" ที่ไฟกระชากทีก็พังแบบนี้ .. ไม่เท่านั้น ยังมีเรื่องงุบงิบ อิบเงินทอนใน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับเสาไฟโซล่าเซลล์ งบประมาณพันกว่าล้าน ที่กำลังถูกตรวจสอบยกใหญ่ ฐานราคาแพงกว่าท้องตลาดเป็นเท่าตัว แถมคุณภาพยังห่วยแบบเทียบรุ่นปกติไม่ได้ อีกต่างหาก ใช้มาไม่ถึงครึ่งปี เจ๊งไปแล้ว 80-90% เอากับเขาสิ .. คล้ายกับกล้องซีซีทีวี เด่ะๆ ก็คนอนุมัติชื่อ ภานุ อุทัยรัตน์ สมัยยังเป็น เลขาธิการ ศอ.บต. ปัจจุบันก็กลับมาเป็น 1 ใน 13 ครม. ส่วนหน้า หรือ "ดรีมทีมดับไฟใต้" เสียด้วย .. เวรกรรมของคนปลายด้ามขวาน เจอเลี้ยงไข้ สวาปามเงินทอนแบบนี้ ยากที่จะดับไฟใต้ได้จริงๆ

** "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" ไม่รับมุก "จารย์เสก" พาซื่อประกาศเลือกตั้งปี 61 -ไม่ขออยู่ 10 ปี แต่ระดับ"ซือแป๋มีชัย"ทั้งคน อย่าว่าแต่ 10 ปี จะ 20 ปีก็ชิลล์ๆ

ควันหลงปาฐกถา“การเมืองไทยกับสังคม 4.0”ของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล" อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และอดีตคนเดือนตุลา ที่ห่างหายไปนาน .. คงด้วยอายุอานามที่มากขึ้น ออกไปในทางระมัดระวังพอสมควร ความหวือหวา ก็เลยลดน้อยถอยลงไป .. หลักใหญ่ใจความเป็นการวิพากษ์องค์รวม ในลักษณะรู้เท่าทัน "รัฐบาลทหาร" ตลอดจนชี้ให้เห็นปัญหาของ"ฝ่ายต่อต้าน" .. หลายเรื่องเป็นเรื่องที่พอจะจับทิศทางได้จาก "โรดแมป คสช." อยู่แล้ว อย่าง ความยิ่งใหญ่ของ "รัฐข้าราชการ" ที่จะแปรเปลี่ยนไปเป็น "รัฐชนชั้นนำ" หลังจากนี้ หรือการสืบทอดอำนาจของ"รัฐบาลทหาร" ที่จะอาศัยภาพ"รัฐบาลคนดี" นำพาประเทศต่อไป ซึ่ง"จารย์เสก" ฟันธงว่า อยู่ต่ออย่างน้อยๆ10 ปี .. พอนักข่าวยกมาถาม "นายกฯลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ "ป๋าป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สองคีย์แมน คสช. ต่างก็โดดเหยงทันที ปัดเหมือนถูกแมลงวันตอม ว่าไม่อยู่ยาวถึง 10 ปี แล้วก็จะมีเลือกตั้งในปี 2561 นี่แหละ .. ไม่เท่านั้น "บิ๊กตู่" ถามกลับไปซื่อๆ ด้วยว่า จะอยู่ 10 ปีได้ยังไง แหม !! คำถามนี้ ท่านนายกฯ น่าจะถาม มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. มากกว่า เห็นว่ายังง่วนอยู่กับการวาง "ค่ายกล-กับดัก" ในกฎหมายลูกไม่เสร็จไม่สิ้นอยู่ตอนนี้ .. ระดับ "ซือแป๋มีชัย" แล้ว อย่าว่าแต่ 10 ปี แค่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่บวกกับอาณุภาพ "ท๊อปบูต-รถถัง" อีกหน่อยๆ อยากอยู่ถึง 20 ปี ก็ไม่ยาก .. แค่นับถึงตอนนี้ 3 ปีผ่าน เลือกตั้งปีหน้า กว่าจะตั้งรัฐบาลได้ก็อีกเกือบ 2 ปี รัฐบาลใหม่นี่ก็ไม่พ้นนายกฯ คนนอก จัดไปเต็มๆ 4 ปี แค่นี้ก็ 9 ปีกว่าแล้วนะท่าน .

ช.ชฎา

รูป--
ฐิตินาถ ณ พัทลุง
ไสว ณ พัทลุง
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร (ในเวบขอรูปกอดมือระเบิด)
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช
เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
มีชัย ฤชุพันธุ์
กำลังโหลดความคิดเห็น