ข่าวระเบิดบอมบ์โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ที่หายเงียบไปในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เหตุสำคัญก็เป็นเพราะโดนข่าวฆ่าหั่นศพของแก๊งอีเปรี้ยว กับข่าวลำไย ไหทองคำ เข้ามายึดพื้นที่ของสื่อทุกแขนงไปหมด จนไม่มีที่ว่างให้กับความสนใจข่าวอื่นๆ รวมทั้งข่าวระเบิดรพ. พระมงกุฎฯด้วย ถูกกลบหายเข้ากลีบเมฆไปเลย
แต่ในความจริงการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดหาตัวมือบึ้มกับคนบงการอยู่เบื้องหลังเหตุอำมหิตครั้งนี้ยังดำเนินต่อไป และเป็นไปอย่างเร้าใจเสียด้วย เพียงแต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารค่อนข้างปิดลับ แต่ทำงานในเชิงรุกแบบลุยทุกบ้านค้นทุกซุ้มที่ต้องสงสัย ไม่ไว้หน้าใครทีเดียว ใครขวางโดนคดีทันที
***พล.ต. อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล*** หัวหน้าทีมคุมคดีระเบิดป่วนเมืองทั้งสามที่ คือที่หน้ากองสลากเก่า ครั้งที่สองที่หน้าโรงละครแห่งชาติ สนามหลวง และที่รุนแรงและท้าทายที่สุดที่รพ. พระมงกุฎ บอกเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า การสืบหาตัวมือระเบิดเขากัดไม่ปล่อยแน่ ก็ต้องเชื่อเพราะคนนี้เคยทำผลงานให้เห็นมาหลายคดีแล้ว
รองผบ. ตร. ด้านความมั่นคงเปิดเผยรายละเอียดว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ติดปัญหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะต้องพิสูจน์ทราบหลายเรื่อง เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีในตอนนี้ตอบข้อสงสัยยังไม่ได้เท่าที่ควร ต้องดำเนินการให้ชัดเจนกว่านี้ ขณะที่การสืบสวนยอมรับว่ามีเบาะแสเพิ่มขึ้นมาจากของเดิมมาก แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
***ขณะนี้ยืนยันได้เพียงว่าคืบหน้า แต่ยังมีประเด็นสงสัยในความคืบหน้า ให้คะแนนความพอใจเป็น 21 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์แค่นี้ก็ถือว่าคืบแล้ว*** เพราะก่อนหน้านั้นพล. ต. อ. ศรีวราห์บอกไว้ว่าการทำคดีระเบิดรพ. พระมงกุฎมีความคืบหน้าไปได้ 20 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ในวันเดียวกัน ***พล.ต. อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา *** ผบ. ตร. ก็แถลงข่าวคดีเดียวกันว่า ตำรวจเตรียมออกหมายจับคนร้ายแล้ว อันเป็นที่มาของความขัดแย้งออกสื่อของสองพลตำรวจเอก แต่วันถัดมาก็กลับมาจับมือกันได้ และสุดท้ายคดีก็ไม่คืบถึงขั้นจะจับคนร้ายมือบึ้มจริงๆอย่างศรีวราห์ว่าไว้
ในท่ามกลางความเงียบของการล่ามือระเบิดป่วนกรุง ช่วงเดียวกันก็มีการเปิดฉากค้นบ้านนักการเมืองคนดังทั่วประเทศอย่างจริงจัง แต่ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ ทหารผู้นำทัพการตรวจค้นไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวทำข่าว และห้ามไม่ให้ถ่ายภาพโดยเด็ดขาดในทุกที่ที่เข้าค้น เสร็จการตรวจค้นก็ไม่มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวด้วย
การตรวจค้นบ้านนักการเมืองทุกคน รวมทั้งซุ้มมาเฟียท้องถิ่นจึงเป็นความลับดำมืด ไม่มีใครฟันธงลงไปได้ว่าการตรวจค้นในแต่ละครั้งในแต่ละซุ้มของผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ทหารทำไปเพื่อเป้าหมายอันใด ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆนานา ค้นเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายอย่าง อาวุธสงคราม ยาเสพติด หรือจับกุมบ่อนการพนัน แต่ก็หาคำตอบที่ชัดไม่ได้
โดยเฉพาะในรายของ ***นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์*** อดีตสส. พรรคประชาธิปัตย์ จ. ตาก ที่โดนเข้าค้นที่บ้านพักที่จ. ตาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กั้นรั้วขึงเชือกไม่ให้คนนอกเข้าใกล้บริเวณบ้านเด็ดขาด การค้นไม่พบสิ่งกฎหมายอะไร ภายหลังค้นเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า เป็นไปตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล
ชัยวุฒิ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังงงที่ทหารเข้าค้นบ้าน เพราะไม่เคยทำสิ่งผิดกฎหมาย คนทั่วไปก็รู้ร่องรอยที่ผ่านมาของนักการเมืองคนนี้ดีว่าแม้เขาเป็นคนใหญ่คนดังในเมืองตากก็จริงแต่ไม่มีชื่อในยุทธจักรนักเลง แถมยังเป็นคนสนิทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แห่งกปปส. จึงต้องถือว่าชัยวุฒิเป็นคนกันเองกับกลุ่มอำนาจตอนนี้ด้วย ก็เลยทำให้งงไปกันใหญ่ว่าชัยวุฒิไปเหยียบตาปลาใครอย่างจังมาหรือเปล่า
เช่นเดียวกับในรายของ ***นายสุชาติ ลายน้ำเงิน *** อดีตสส. เพื่อไทย จ. ลพบุรี บอกตรงๆว่าแม้สุขาติจะอยู่ลพบุรีเมืองทหารเมืองนักเลงก็ตาม แต่เขาไม่ใช่เจ้าพ่อ ไม่ใช่เป็นบ้านใหญ่ที่จะชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้เหมือนนักการเมืองที่มีอดีตโชกโชนบนเส้นทางนักเลง ก่อนเข้าเล่นการเมือง
พองานเข้า สุชาติโดนทหารเข้าตรวจค้นบ้านเป็นรายแรกๆในช่วงต้นเดือนที่ผ่านก็เลยทำให้วงการนักการเมืองและสื่อให้ความสนใจ อยากรู้ว่าสุชาติ ลายน้ำเงิน ทำไมต้องโดนจับตาเป็นผู้มีอิทธิพล ไปติดแบล๊คลิสต์บัญชีดำตั้งแต่เมื่อไร เพราะเรื่องอะไร?
ปฏิบัติการตรวจค้นน่าจะซาลงแล้ว และตอนนี้เริ่มมีข่าววงในระแคะระคายว่า ภารกิจเป้าหมายในการค้นบ้านนักการเมืองและซุ้มผู้มีอิทธิพลในเขตภาคกลางและภาคเหนือนับสิบรายนั้น
เป้าหมายหลักคือเพื่อตรวจค้นขุมข่ายขบวนการระเบิดป่วนกรุง เพื่อหาพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงเหตุระเบิดที่รพ. พระมงกุฎฯ
เพราะมีรายงานว่า ตอนนี้พอจะคลำตัวคนร้ายมือระเบิดได้แล้ว และได้ประกบตัวอย่างไม่ให้คลาดสายตาทุกทาง ซึ่งคนร้ายที่ต้องสงสัยคนหนึ่งได้ติดต่อหานักการเมืองชื่อดังในภาคกลางคนหนึ่ง มีการคุยกันบ่อยครั้ง และเรื่องที่พูดกันก็เป็นเรื่องปัญหาทางการเมือง ก็เลยเป็นเหตุให้นักการเมืองภาคกลางคนหนึ่งโดนบุกเข้าค้นบ้านสังเวยการข่าวไปอย่างงงๆ แต่ก็โชคดีที่ไม่เจออะไร
***สำหรับพวกแก๊งมือวางระเบิด ข่าวว่าเป็นคนมีสี เป็นคนมีสีที่ไม่ใช่ชั้นประทวนเสียด้วย ความคืบหน้าก็ต้องรอกันต่อไป งานนี้บอกเลยว่าThe Show Must go on***
แต่ในความจริงการสืบสวนสอบสวนเหตุระเบิดหาตัวมือบึ้มกับคนบงการอยู่เบื้องหลังเหตุอำมหิตครั้งนี้ยังดำเนินต่อไป และเป็นไปอย่างเร้าใจเสียด้วย เพียงแต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารค่อนข้างปิดลับ แต่ทำงานในเชิงรุกแบบลุยทุกบ้านค้นทุกซุ้มที่ต้องสงสัย ไม่ไว้หน้าใครทีเดียว ใครขวางโดนคดีทันที
***พล.ต. อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล*** หัวหน้าทีมคุมคดีระเบิดป่วนเมืองทั้งสามที่ คือที่หน้ากองสลากเก่า ครั้งที่สองที่หน้าโรงละครแห่งชาติ สนามหลวง และที่รุนแรงและท้าทายที่สุดที่รพ. พระมงกุฎ บอกเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า การสืบหาตัวมือระเบิดเขากัดไม่ปล่อยแน่ ก็ต้องเชื่อเพราะคนนี้เคยทำผลงานให้เห็นมาหลายคดีแล้ว
รองผบ. ตร. ด้านความมั่นคงเปิดเผยรายละเอียดว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ติดปัญหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะต้องพิสูจน์ทราบหลายเรื่อง เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีในตอนนี้ตอบข้อสงสัยยังไม่ได้เท่าที่ควร ต้องดำเนินการให้ชัดเจนกว่านี้ ขณะที่การสืบสวนยอมรับว่ามีเบาะแสเพิ่มขึ้นมาจากของเดิมมาก แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
***ขณะนี้ยืนยันได้เพียงว่าคืบหน้า แต่ยังมีประเด็นสงสัยในความคืบหน้า ให้คะแนนความพอใจเป็น 21 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์แค่นี้ก็ถือว่าคืบแล้ว*** เพราะก่อนหน้านั้นพล. ต. อ. ศรีวราห์บอกไว้ว่าการทำคดีระเบิดรพ. พระมงกุฎมีความคืบหน้าไปได้ 20 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ในวันเดียวกัน ***พล.ต. อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา *** ผบ. ตร. ก็แถลงข่าวคดีเดียวกันว่า ตำรวจเตรียมออกหมายจับคนร้ายแล้ว อันเป็นที่มาของความขัดแย้งออกสื่อของสองพลตำรวจเอก แต่วันถัดมาก็กลับมาจับมือกันได้ และสุดท้ายคดีก็ไม่คืบถึงขั้นจะจับคนร้ายมือบึ้มจริงๆอย่างศรีวราห์ว่าไว้
ในท่ามกลางความเงียบของการล่ามือระเบิดป่วนกรุง ช่วงเดียวกันก็มีการเปิดฉากค้นบ้านนักการเมืองคนดังทั่วประเทศอย่างจริงจัง แต่ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ ทหารผู้นำทัพการตรวจค้นไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวทำข่าว และห้ามไม่ให้ถ่ายภาพโดยเด็ดขาดในทุกที่ที่เข้าค้น เสร็จการตรวจค้นก็ไม่มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวด้วย
การตรวจค้นบ้านนักการเมืองทุกคน รวมทั้งซุ้มมาเฟียท้องถิ่นจึงเป็นความลับดำมืด ไม่มีใครฟันธงลงไปได้ว่าการตรวจค้นในแต่ละครั้งในแต่ละซุ้มของผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ทหารทำไปเพื่อเป้าหมายอันใด ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆนานา ค้นเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายอย่าง อาวุธสงคราม ยาเสพติด หรือจับกุมบ่อนการพนัน แต่ก็หาคำตอบที่ชัดไม่ได้
โดยเฉพาะในรายของ ***นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์*** อดีตสส. พรรคประชาธิปัตย์ จ. ตาก ที่โดนเข้าค้นที่บ้านพักที่จ. ตาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กั้นรั้วขึงเชือกไม่ให้คนนอกเข้าใกล้บริเวณบ้านเด็ดขาด การค้นไม่พบสิ่งกฎหมายอะไร ภายหลังค้นเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า เป็นไปตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล
ชัยวุฒิ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังงงที่ทหารเข้าค้นบ้าน เพราะไม่เคยทำสิ่งผิดกฎหมาย คนทั่วไปก็รู้ร่องรอยที่ผ่านมาของนักการเมืองคนนี้ดีว่าแม้เขาเป็นคนใหญ่คนดังในเมืองตากก็จริงแต่ไม่มีชื่อในยุทธจักรนักเลง แถมยังเป็นคนสนิทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แห่งกปปส. จึงต้องถือว่าชัยวุฒิเป็นคนกันเองกับกลุ่มอำนาจตอนนี้ด้วย ก็เลยทำให้งงไปกันใหญ่ว่าชัยวุฒิไปเหยียบตาปลาใครอย่างจังมาหรือเปล่า
เช่นเดียวกับในรายของ ***นายสุชาติ ลายน้ำเงิน *** อดีตสส. เพื่อไทย จ. ลพบุรี บอกตรงๆว่าแม้สุขาติจะอยู่ลพบุรีเมืองทหารเมืองนักเลงก็ตาม แต่เขาไม่ใช่เจ้าพ่อ ไม่ใช่เป็นบ้านใหญ่ที่จะชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้เหมือนนักการเมืองที่มีอดีตโชกโชนบนเส้นทางนักเลง ก่อนเข้าเล่นการเมือง
พองานเข้า สุชาติโดนทหารเข้าตรวจค้นบ้านเป็นรายแรกๆในช่วงต้นเดือนที่ผ่านก็เลยทำให้วงการนักการเมืองและสื่อให้ความสนใจ อยากรู้ว่าสุชาติ ลายน้ำเงิน ทำไมต้องโดนจับตาเป็นผู้มีอิทธิพล ไปติดแบล๊คลิสต์บัญชีดำตั้งแต่เมื่อไร เพราะเรื่องอะไร?
ปฏิบัติการตรวจค้นน่าจะซาลงแล้ว และตอนนี้เริ่มมีข่าววงในระแคะระคายว่า ภารกิจเป้าหมายในการค้นบ้านนักการเมืองและซุ้มผู้มีอิทธิพลในเขตภาคกลางและภาคเหนือนับสิบรายนั้น
เป้าหมายหลักคือเพื่อตรวจค้นขุมข่ายขบวนการระเบิดป่วนกรุง เพื่อหาพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงเหตุระเบิดที่รพ. พระมงกุฎฯ
เพราะมีรายงานว่า ตอนนี้พอจะคลำตัวคนร้ายมือระเบิดได้แล้ว และได้ประกบตัวอย่างไม่ให้คลาดสายตาทุกทาง ซึ่งคนร้ายที่ต้องสงสัยคนหนึ่งได้ติดต่อหานักการเมืองชื่อดังในภาคกลางคนหนึ่ง มีการคุยกันบ่อยครั้ง และเรื่องที่พูดกันก็เป็นเรื่องปัญหาทางการเมือง ก็เลยเป็นเหตุให้นักการเมืองภาคกลางคนหนึ่งโดนบุกเข้าค้นบ้านสังเวยการข่าวไปอย่างงงๆ แต่ก็โชคดีที่ไม่เจออะไร
***สำหรับพวกแก๊งมือวางระเบิด ข่าวว่าเป็นคนมีสี เป็นคนมีสีที่ไม่ใช่ชั้นประทวนเสียด้วย ความคืบหน้าก็ต้องรอกันต่อไป งานนี้บอกเลยว่าThe Show Must go on***
