ผู้จัดการรายวัน360-ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด เผยผลสอบ "เปรี้ยว" มือฆ่าหั่นศพ เป็นผู้เสพที่พัฒนาตัวเองเป็นผู้ค้า แต่ไม่ใช่รายใหญ่ เตรียมขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายไซซะนะ-ท้าวสีสุกหรือไม่ เชื่อไม่เกี่ยวกลุ่มว้า แต่น่าสนใจเทคนิคการหลบหนีโดยมีผู้ให้คำปรึกษา ด้านทนาย "แม่แอ๋ม" ยันฟ้องหมิ่นพี่สาวเปรี้ยวและแก๊ง รวม 20 ล้าน ด้านพี่สาว "เบนซ์" หอบหลักฐานช่วย ยันเจ้าตัวอยู่กรุงเทพฯ วันหั่นศพ โอดน้องสาวติดคุก เครียด ร้องไห้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พลูทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 , พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. , พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. และพล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 4 คดี ยึดของกลางยาบ้า จำนวน 1,210,000 เม็ด ไอซ์ 17 กก.
โดยคดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) และ สภ.สามร้อยยอด ได้ร่วมจับกุม นายกฐมพร พรเสงี่ยมนุกูล อายุ 26 ปี ชาว จ.ระยอง นายสุทัศน์ กระจายศรี อายุ 45 ปี ชาว จ.สุรินทร์ และนายคำรณ จันอ่อน อายุ 31 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 910,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง1 คัน รถยนต์กระบะ1 คัน ในข้อหา "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อนจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณจุดตรวจหน้า สภ.สามร้อยยอด ถ.เพชรเกษม ขาล่อง ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เวลาประมาณ 13.00 น. ซึ่งยาเสพติดดังกล่าวจะส่งไปยัง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. และ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง ได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐชัย วรญานนท์ อายุ 42 ปี ชาว จ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 200,000 เม็ด ไอซ์ 10 กก. รถตู้ 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณ ด่านเอ็กซเรย์ตรวจค้นยาเสพติดแม่พริก ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เวลา15.00 น. โดยกลุ่มนี้จะนำยาเสพติดไปส่งที่กรุงเทพฯ
คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. และบก.ขส ได้รวมกันจับกุม นายมนัส ปราณี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 3 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. น.ส.บุษกร รักประชา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229/563 หมู่ 14 ต.พิชัย อ.เมืองฯ จ.ลำปาง น.ส.สุพัตรา วรรณสุทธิ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/153 หมู่2 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. และ น.ส.โชติรส นลินทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/33 จซ.เลียบวารี 37 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. พร้อมของกลาง ยาบ้า 100,000 เม็ด ไอซ์ 5 กก. รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำตาล รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ริมถนนพุทธมณฑล สาย 3 แขวงทวีวัฒนา กทม. โดย กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ลำเลียงยาเสพติดมาจาก อ. แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร กอง 12 ศรภ. กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันจับกุม Mr.Saveng Douanghvusuth อายุ 23 ปี สัญชาติลาว และ Miss Kopkeo Phoumuvong อายุ 23 ปี สัญชาติลาว พร้อมของกลาง ไอซ์ 2 กก. และโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณร้านแบล็กแคนยอน ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางแค ต่อเนื่องบริเวณโคนต้นไม้ หน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกาญจนภิเษก แขวง และเขตบางบอน กรุงเทพฯ
วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กล่าวถึงกรณี น.ส.ปรียานุช โนนวันชัย หรือเปรี้ยว กับพวก ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ ว่า ภายหลังการตรวจสอบ พบว่า เป็นเพียงผู้เสพยาเสพติด แต่มีการพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นผู้จำหน่าย แต่ไม่ใช่รายใหญ่ ซึ่งตำรวจปราบปรามยาเสพติด อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาคดียาเสพติดชาวลาวที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ และเครือข่ายของท้าวสีสุกหรือไม่ แต่เบื้องต้นพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดของกลุ่มว้า แต่ยังเป็นที่สงสัยในส่วนของเทคนิคการหลบหนี ที่เชื่อว่ามีผู้ให้คำปรึกษา เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาไม่หลบหนีไปยังประเทศลาว ที่เป็นพื้นที่ใกล้กว่า แต่กลับหลบหนีไปทางภาคเหนือ เข้าไปยังประเทศเมียนมาร์แทน
"ฝากเตือนไปยังผู้เสพยาเสพติด เพราะหากเสพแล้วจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็จะมีเหตุเกิดเหมือนคดีเขาสวนกวาง เชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องหาควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงก่อเหตุสลดขึ้น"พล.ต.ท.สมหมายกล่าว
ที่สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น นายนพดล สีดาทัน ทนายความ ที่ได้รับมอบอำนาจของนางสายรุ้ง กลิ่นจุ้ย มารดาของน.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี หลังจากที่ครอบครัวของน้องแอ๋ม เข้าแจ้งความเอาผิดน.ส.ประภาศิริ สมศรี พี่สาวน.ส.ปรียานุช ในข้อหาหมิ่นประมาทเพื่อการโฆษณา มาตรา 327 ประกอบ 328
นายนพดล กล่าวว่า ในคดีหมิ่นประมาท ได้เรียกค่าเสียหายกับพี่สาวของเปรี้ยว 10 ล้านบาท แจ้งความเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา และยังได้ยื่นฟ้องในคดีละเมิดต่อผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม ซึ่งประกอบ น.ส.ปรียานุช น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ นายวศิน นามพรม และน.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ และในคดีความดังกล่าวได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายอีก 10 ล้านบาท รวม 2 คดีที่ครอบครัวของผู้ตายยื่นเรียกค่าเสียหายทั้งหมด 20 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีการสืบหาทรัพย์แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ และเมื่อได้ข้อมูลทั้งหมด ก็จะยื่นคำร้องต่อสาลจ.ขอนแก่น เพื่อให้มีคำสั่งอายัดเพื่อป้องกันการถ่ายเททรัพย์สินต่อไป
ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.เอ (นามสมมติ) พี่สาวของ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพในกลุ่ม น.ส.ปรียานุช ได้เดินทางมามอบหลักฐานเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยืนยันว่า น.ส.จิดารัตน์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม
น.ส.เอ กล่าวว่า ได้นำเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ เช่น โทรศัพท์ของ น.ส.จิดารัตน์ ที่ยืนยันว่ามีการพูดคุยกับบุคคลที่ทำงาน , บันทึกการพูดคุยในเฟซบุ๊กระหว่าง น.ส.จิดารัตน์ กับนายวศิน หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ซึ่งมีการพูดคุยกันตามปกติและไม่เกี่ยวกับการก่อเหตุ โดย น.ส.จิดารัตน์เพิ่งมาทราบเรื่องเมื่อวันที่ 29 พ.ค. หลังมีหมายจับออกมาแล้ว พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็น น.ส.จิดารัตน์บริเวณที่พักแถวที่ทำงานในกรุงเทพฯ ช่วงระหว่างวันที่ 22-23 พ.ค. รวมถึงประวัติการเรียกใช้บริการแกร็บแท็กซี่
"หลังจาก น.ส.จิดารัตน์ถูกควบคุมขังในเรือนจำกลางขอนแก่น ได้เดินทางไปเยี่ยมน้องสาว พบว่ามีอาการเครียดมากและร้องไห้ตลอด เนื่องจากเป็นห่วงบิดา อีกทั้งได้พูดคุยกับญาติ น.ส.ปรียานุช ที่มาเยี่ยมเช่นกัน โดยยืนยันว่าน้องสาวตนเองไม่เกี่ยวข้องกับคดีและให้การต่อตำรวจไปแล้ว แต่ยอมรับว่าน้องสาวเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เลิกไปนานแล้ว เนื่องจากถูกบิดาตำหนิ"น.ส.เอกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ได้รับมอบหลักฐานดังกล่าว ก่อนนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พลูทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 , พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. , พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. และพล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 4 คดี ยึดของกลางยาบ้า จำนวน 1,210,000 เม็ด ไอซ์ 17 กก.
โดยคดีแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.บช.ปส.) และ สภ.สามร้อยยอด ได้ร่วมจับกุม นายกฐมพร พรเสงี่ยมนุกูล อายุ 26 ปี ชาว จ.ระยอง นายสุทัศน์ กระจายศรี อายุ 45 ปี ชาว จ.สุรินทร์ และนายคำรณ จันอ่อน อายุ 31 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 910,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง1 คัน รถยนต์กระบะ1 คัน ในข้อหา "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อนจำหน่าย และจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณจุดตรวจหน้า สภ.สามร้อยยอด ถ.เพชรเกษม ขาล่อง ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เวลาประมาณ 13.00 น. ซึ่งยาเสพติดดังกล่าวจะส่งไปยัง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. และ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง ได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐชัย วรญานนท์ อายุ 42 ปี ชาว จ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 200,000 เม็ด ไอซ์ 10 กก. รถตู้ 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณ ด่านเอ็กซเรย์ตรวจค้นยาเสพติดแม่พริก ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เวลา15.00 น. โดยกลุ่มนี้จะนำยาเสพติดไปส่งที่กรุงเทพฯ
คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. และบก.ขส ได้รวมกันจับกุม นายมนัส ปราณี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 3 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. น.ส.บุษกร รักประชา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229/563 หมู่ 14 ต.พิชัย อ.เมืองฯ จ.ลำปาง น.ส.สุพัตรา วรรณสุทธิ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/153 หมู่2 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. และ น.ส.โชติรส นลินทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/33 จซ.เลียบวารี 37 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. พร้อมของกลาง ยาบ้า 100,000 เม็ด ไอซ์ 5 กก. รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำตาล รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ริมถนนพุทธมณฑล สาย 3 แขวงทวีวัฒนา กทม. โดย กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ลำเลียงยาเสพติดมาจาก อ. แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร กอง 12 ศรภ. กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกันจับกุม Mr.Saveng Douanghvusuth อายุ 23 ปี สัญชาติลาว และ Miss Kopkeo Phoumuvong อายุ 23 ปี สัญชาติลาว พร้อมของกลาง ไอซ์ 2 กก. และโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณร้านแบล็กแคนยอน ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางแค ต่อเนื่องบริเวณโคนต้นไม้ หน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกาญจนภิเษก แขวง และเขตบางบอน กรุงเทพฯ
วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กล่าวถึงกรณี น.ส.ปรียานุช โนนวันชัย หรือเปรี้ยว กับพวก ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ ว่า ภายหลังการตรวจสอบ พบว่า เป็นเพียงผู้เสพยาเสพติด แต่มีการพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นผู้จำหน่าย แต่ไม่ใช่รายใหญ่ ซึ่งตำรวจปราบปรามยาเสพติด อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาคดียาเสพติดชาวลาวที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ และเครือข่ายของท้าวสีสุกหรือไม่ แต่เบื้องต้นพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดของกลุ่มว้า แต่ยังเป็นที่สงสัยในส่วนของเทคนิคการหลบหนี ที่เชื่อว่ามีผู้ให้คำปรึกษา เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาไม่หลบหนีไปยังประเทศลาว ที่เป็นพื้นที่ใกล้กว่า แต่กลับหลบหนีไปทางภาคเหนือ เข้าไปยังประเทศเมียนมาร์แทน
"ฝากเตือนไปยังผู้เสพยาเสพติด เพราะหากเสพแล้วจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็จะมีเหตุเกิดเหมือนคดีเขาสวนกวาง เชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องหาควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงก่อเหตุสลดขึ้น"พล.ต.ท.สมหมายกล่าว
ที่สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น นายนพดล สีดาทัน ทนายความ ที่ได้รับมอบอำนาจของนางสายรุ้ง กลิ่นจุ้ย มารดาของน.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี หลังจากที่ครอบครัวของน้องแอ๋ม เข้าแจ้งความเอาผิดน.ส.ประภาศิริ สมศรี พี่สาวน.ส.ปรียานุช ในข้อหาหมิ่นประมาทเพื่อการโฆษณา มาตรา 327 ประกอบ 328
นายนพดล กล่าวว่า ในคดีหมิ่นประมาท ได้เรียกค่าเสียหายกับพี่สาวของเปรี้ยว 10 ล้านบาท แจ้งความเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา และยังได้ยื่นฟ้องในคดีละเมิดต่อผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม ซึ่งประกอบ น.ส.ปรียานุช น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ นายวศิน นามพรม และน.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ และในคดีความดังกล่าวได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายอีก 10 ล้านบาท รวม 2 คดีที่ครอบครัวของผู้ตายยื่นเรียกค่าเสียหายทั้งหมด 20 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีการสืบหาทรัพย์แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ และเมื่อได้ข้อมูลทั้งหมด ก็จะยื่นคำร้องต่อสาลจ.ขอนแก่น เพื่อให้มีคำสั่งอายัดเพื่อป้องกันการถ่ายเททรัพย์สินต่อไป
ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.เอ (นามสมมติ) พี่สาวของ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพในกลุ่ม น.ส.ปรียานุช ได้เดินทางมามอบหลักฐานเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยืนยันว่า น.ส.จิดารัตน์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม
น.ส.เอ กล่าวว่า ได้นำเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่ เช่น โทรศัพท์ของ น.ส.จิดารัตน์ ที่ยืนยันว่ามีการพูดคุยกับบุคคลที่ทำงาน , บันทึกการพูดคุยในเฟซบุ๊กระหว่าง น.ส.จิดารัตน์ กับนายวศิน หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ซึ่งมีการพูดคุยกันตามปกติและไม่เกี่ยวกับการก่อเหตุ โดย น.ส.จิดารัตน์เพิ่งมาทราบเรื่องเมื่อวันที่ 29 พ.ค. หลังมีหมายจับออกมาแล้ว พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็น น.ส.จิดารัตน์บริเวณที่พักแถวที่ทำงานในกรุงเทพฯ ช่วงระหว่างวันที่ 22-23 พ.ค. รวมถึงประวัติการเรียกใช้บริการแกร็บแท็กซี่
"หลังจาก น.ส.จิดารัตน์ถูกควบคุมขังในเรือนจำกลางขอนแก่น ได้เดินทางไปเยี่ยมน้องสาว พบว่ามีอาการเครียดมากและร้องไห้ตลอด เนื่องจากเป็นห่วงบิดา อีกทั้งได้พูดคุยกับญาติ น.ส.ปรียานุช ที่มาเยี่ยมเช่นกัน โดยยืนยันว่าน้องสาวตนเองไม่เกี่ยวข้องกับคดีและให้การต่อตำรวจไปแล้ว แต่ยอมรับว่าน้องสาวเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เลิกไปนานแล้ว เนื่องจากถูกบิดาตำหนิ"น.ส.เอกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ได้รับมอบหลักฐานดังกล่าว ก่อนนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป