ผู้จัดการรายวัน 360 - สตช.ถอนคำสั่งย้าย “พ.ต.ท.ไพรวัลย์” สารวัตรจับ “แก๊งอีเปรี้ยว” ให้นั่งเก้าอี้เดิม หลังโซเชียลฯถล่มแหลก “แม่แอ๋ม” แจ้งความเอาผิด “พี่สาวเปรี้ยว” หมิ่นประมาท ญาติ “เบนซ์” ผู้ต้องหาร่วมฆ่าหั่นศพ เตรียมร้อง ก.ยุติธรรมช่วยเหลือ ยัน “เบนซ์” ไม่มีส่วนร่วมฆาตกรรม ด้าน รองปลัด ยธ.เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบกรณี “พี่สาวเบนซ์" ร้องขอความเป็นธรรม ถูกตำรวจแจ้งข้อหาเกินจริงร่วมคดีแก๊ง "เปรี้ยว" ฆ่าหั่นศพ
วานนี้ (8 มิ.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการที่สื่อมวลชนเสนอข่าวการปรับย้ายตำแหน่ง พ.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.4 ชุดจับกุม น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว กับพวก ในคดีฆ่าหั่นศพ โดยย้ายให้ไปดำรงตำแหน่ง สวป.สภ.ท่าช้าง จว.สิงห์บุรี ตามคำสั่ง ตร.ที่ 257/2560 ลงวันที่ 4 มิ.ย.60 นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้หารือกับ พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 ถึงเหตุผลความจำเป็นต่างๆ และได้ออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 60 ก่อนที่คำสั่งจะมีผลบังคับใช้ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 264/2560 ลง 4 มิ.ย. 60 ทั้งนี้ เนื่องจากการปรับย้ายดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ได้มาจากกระบวนการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ส่วนรองสารวัตรที่ได้รับแต่งตั้งให้ไปขึ้นเป็นสารวัตร (สว.) แทนในตำแหน่ง สว.บก.สส.ภ.4 ขณะนี้ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง สว.ในตำแหน่งอื่นๆ ในสังกัดภาค 4 แทนเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 264/2560 กลับไม่พบการถอนรายชื่อ พ.ต.ท.ไพรวัลย์ ตามที่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอ้างแต่อย่างใด
** “แม่แอ๋ม” ฟ้อง “พี่สาวเปรี้ยว” หมิ่นประมาท
ด้าน นายนพดล สีดาทัน ทนายความ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก นางสายรุ้ง กลิ่นจุ้ย มารดาของ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมสุดโหดได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวของน้องแอ๋ม เพื่อเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด เพื่อเอาผิด น.ส.ประภาศิริ สมศรี พี่สาวของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ในข้อหาหมิ่นประมาท
นายนพดล เปิดเผยว่า ได้นำเอกสารหลักฐาน ซึ่งประกอบด้วยแผ่นซีดีบันทึกคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ประภาศิริ ที่กล่าวหาผู้ตาย รวมทั้งการนำสำเนาในบันทึกประจำวันคดีความที่เกิดขึ้นและเอกสารการมอบอำนาจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน ขณะที่ในสัปดาห์หน้าจะทำการยื่นฟ้องคดีละเมิดต่อศาล เพื่อดำเนินการฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมจากผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพทั้ง 5 คน และการยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินต่อศาล จ.ขอนแก่น ให้เป็นคดีอนาถา เพื่อคืนความชอบธรรมให้กับผู้เสียชีวิต
** ญาติ “เบนซ์” ร้อง ก.ยุติธรรมช่วย
วานนี้ (8มิ.ย.) น.ส.เอ (สงวนชื่อ-นามสกุล) พี่สาวของ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ หรือรับของโจรในคดีร่วมกันฆ่า น.ส.วริศรา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่มีการแต่งตั้งทนายความเพื่อเดินเรื่องในการยื่นประกันตัวเบนซ์ แต่อย่างใด เนื่องจากหลักทรัพย์ที่ใช้ ประกันตัวสูงมากถึง 650,000 บาท ซึ่งครอบครัวยังไม่รู้ว่าจะหาหลักทรัพย์มาจากที่ใด
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือการหา พยานและหลักฐาน เพื่อมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าน้องสาวของตน ไม่ได้มีส่วนร่วมในการฆ่าและหั่น ศพ น.ส.แอ๋ม เนื่องจากวันเกิดเหตุน้องสาวของตนเองอยู่ที่ กทม. แต่ต้องมาถูกตั้งข้อหาเดียวกันกับกลุ่มผู้ ก่อเหตุ โดยหลังจากนี้จะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพถ่าย และพยานบุคคล เพื่อขอความเมตตาจากกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือต่อไป
** ยธ.รับลูกสอบปม “เบนซ์” ถูกตั้งข้อหาฆ่า
ขณะที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผย กรณีพี่สาวของ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม เข้าร้องความเป็นธรรมให้น้องสาว โดยระบุว่า น.ส.จิดารัตน์ ถูกตำรวจตั้งข้อกล่าวหาเกินกว่าเหตุ ว่า กระทรวงยุติธรรมจะรับไว้พิจารณาตามขั้นตอน กรณีที่ระบุว่าตำรวจตั้งข้อกล่าวหาเกินกว่าเหตุ โดยนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด เพื่อแสดงถิ่นที่อยู่ในขณะเกิดเหตุว่าไม่ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันที่มีการลวง น.ส.วริสรา มาฆ่านั้น เบื้องต้นยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าตำรวจมีหลักฐานอย่างไร เพราะของกลางในคดี คือ โทรศัพท์ของ น.ส.วริสรา อยู่กับ น.ส.จิตารัตน์ จึงเข้าข่ายเป็นคดีปล้นทรัพย์ รับของโจร ตามปกติตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสั่งฟ้องคดี เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินว่าการกระทำในข้อหาตามฟ้องต่างๆ ศาลจะลงโทษในข้อหาใดบ้าง
อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ยังถือว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ดังนั้น ก่อนที่กระทรวงยุติธรรมจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ จะต้องมีข้อมูลพื้นฐานที่ชัดเจนว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำความผิดจริง
**ไร้เงาญาติขอเยี่ยม "แก๊งอีเปรี้ยว”
ที่ เรือนจำกลางขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายในจุดเยี่ยมญาติ ด้านหน้าเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น ยังคงมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบเห็นญาติของผู้ต้องขัง ฆ่าหั่นศพ น.ส.น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม ที่ถูกฆาตกรรมหั่นศพ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 60 เข้ามาเพื่อขอเยี่ยมผู้ต้องขังทั้ง 4 เลย
ซึ่งจากแหล่งข่าวบอกกับผู้สื่อข่าวว่า สภาพจิตใจของผู้ต้องขัง คือ น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ ที่ได้นำตัวมาคุมขังอยู่ที่ เรือนจำกลางขอนแก่น เป็นวันที่ 4 แล้ว ซึ่งทั้ง 3 ผู้ต้องขัง ขณะนี้ทุกคนปรับสภาพจิตใจได้แล้ว และทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบของเรือนจำเหมือนกับผู้ต้องขังรายอื่นที่ถูกคุมขังอยู่ในแดนหญิง รวมกว่า 500 คน ซึ่ง น.ส.เปรี้ยวที่มีอาการเครียดเป็นบางครั้ง แต่วันนี้สภาพจิตใจเริ่มคลายความกังวลกว่าทุกวันที่ผ่านมา และทั้งหมดยังคงแยกการคุมขังออกจากกัน เนื่องจากผู้ต้องหาคดีเดียวกันจะไม่สามารถคุมขังร่วมกันได้ ซึ่งคาดว่าผู้ต้องขังจะค่อยๆปรับตัวได้เรื่อยๆ.
วานนี้ (8 มิ.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการที่สื่อมวลชนเสนอข่าวการปรับย้ายตำแหน่ง พ.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.4 ชุดจับกุม น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว กับพวก ในคดีฆ่าหั่นศพ โดยย้ายให้ไปดำรงตำแหน่ง สวป.สภ.ท่าช้าง จว.สิงห์บุรี ตามคำสั่ง ตร.ที่ 257/2560 ลงวันที่ 4 มิ.ย.60 นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้หารือกับ พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 ถึงเหตุผลความจำเป็นต่างๆ และได้ออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 60 ก่อนที่คำสั่งจะมีผลบังคับใช้ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 264/2560 ลง 4 มิ.ย. 60 ทั้งนี้ เนื่องจากการปรับย้ายดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ได้มาจากกระบวนการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ส่วนรองสารวัตรที่ได้รับแต่งตั้งให้ไปขึ้นเป็นสารวัตร (สว.) แทนในตำแหน่ง สว.บก.สส.ภ.4 ขณะนี้ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง สว.ในตำแหน่งอื่นๆ ในสังกัดภาค 4 แทนเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 264/2560 กลับไม่พบการถอนรายชื่อ พ.ต.ท.ไพรวัลย์ ตามที่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอ้างแต่อย่างใด
** “แม่แอ๋ม” ฟ้อง “พี่สาวเปรี้ยว” หมิ่นประมาท
ด้าน นายนพดล สีดาทัน ทนายความ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก นางสายรุ้ง กลิ่นจุ้ย มารดาของ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมสุดโหดได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวของน้องแอ๋ม เพื่อเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด เพื่อเอาผิด น.ส.ประภาศิริ สมศรี พี่สาวของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ในข้อหาหมิ่นประมาท
นายนพดล เปิดเผยว่า ได้นำเอกสารหลักฐาน ซึ่งประกอบด้วยแผ่นซีดีบันทึกคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ประภาศิริ ที่กล่าวหาผู้ตาย รวมทั้งการนำสำเนาในบันทึกประจำวันคดีความที่เกิดขึ้นและเอกสารการมอบอำนาจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน ขณะที่ในสัปดาห์หน้าจะทำการยื่นฟ้องคดีละเมิดต่อศาล เพื่อดำเนินการฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมจากผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพทั้ง 5 คน และการยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินต่อศาล จ.ขอนแก่น ให้เป็นคดีอนาถา เพื่อคืนความชอบธรรมให้กับผู้เสียชีวิต
** ญาติ “เบนซ์” ร้อง ก.ยุติธรรมช่วย
วานนี้ (8มิ.ย.) น.ส.เอ (สงวนชื่อ-นามสกุล) พี่สาวของ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ หรือรับของโจรในคดีร่วมกันฆ่า น.ส.วริศรา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่มีการแต่งตั้งทนายความเพื่อเดินเรื่องในการยื่นประกันตัวเบนซ์ แต่อย่างใด เนื่องจากหลักทรัพย์ที่ใช้ ประกันตัวสูงมากถึง 650,000 บาท ซึ่งครอบครัวยังไม่รู้ว่าจะหาหลักทรัพย์มาจากที่ใด
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือการหา พยานและหลักฐาน เพื่อมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าน้องสาวของตน ไม่ได้มีส่วนร่วมในการฆ่าและหั่น ศพ น.ส.แอ๋ม เนื่องจากวันเกิดเหตุน้องสาวของตนเองอยู่ที่ กทม. แต่ต้องมาถูกตั้งข้อหาเดียวกันกับกลุ่มผู้ ก่อเหตุ โดยหลังจากนี้จะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพถ่าย และพยานบุคคล เพื่อขอความเมตตาจากกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือต่อไป
** ยธ.รับลูกสอบปม “เบนซ์” ถูกตั้งข้อหาฆ่า
ขณะที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผย กรณีพี่สาวของ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม เข้าร้องความเป็นธรรมให้น้องสาว โดยระบุว่า น.ส.จิดารัตน์ ถูกตำรวจตั้งข้อกล่าวหาเกินกว่าเหตุ ว่า กระทรวงยุติธรรมจะรับไว้พิจารณาตามขั้นตอน กรณีที่ระบุว่าตำรวจตั้งข้อกล่าวหาเกินกว่าเหตุ โดยนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด เพื่อแสดงถิ่นที่อยู่ในขณะเกิดเหตุว่าไม่ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันที่มีการลวง น.ส.วริสรา มาฆ่านั้น เบื้องต้นยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าตำรวจมีหลักฐานอย่างไร เพราะของกลางในคดี คือ โทรศัพท์ของ น.ส.วริสรา อยู่กับ น.ส.จิตารัตน์ จึงเข้าข่ายเป็นคดีปล้นทรัพย์ รับของโจร ตามปกติตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสั่งฟ้องคดี เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินว่าการกระทำในข้อหาตามฟ้องต่างๆ ศาลจะลงโทษในข้อหาใดบ้าง
อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ยังถือว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ดังนั้น ก่อนที่กระทรวงยุติธรรมจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ จะต้องมีข้อมูลพื้นฐานที่ชัดเจนว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำความผิดจริง
**ไร้เงาญาติขอเยี่ยม "แก๊งอีเปรี้ยว”
ที่ เรือนจำกลางขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายในจุดเยี่ยมญาติ ด้านหน้าเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น ยังคงมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบเห็นญาติของผู้ต้องขัง ฆ่าหั่นศพ น.ส.น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม ที่ถูกฆาตกรรมหั่นศพ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 60 เข้ามาเพื่อขอเยี่ยมผู้ต้องขังทั้ง 4 เลย
ซึ่งจากแหล่งข่าวบอกกับผู้สื่อข่าวว่า สภาพจิตใจของผู้ต้องขัง คือ น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ ที่ได้นำตัวมาคุมขังอยู่ที่ เรือนจำกลางขอนแก่น เป็นวันที่ 4 แล้ว ซึ่งทั้ง 3 ผู้ต้องขัง ขณะนี้ทุกคนปรับสภาพจิตใจได้แล้ว และทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบของเรือนจำเหมือนกับผู้ต้องขังรายอื่นที่ถูกคุมขังอยู่ในแดนหญิง รวมกว่า 500 คน ซึ่ง น.ส.เปรี้ยวที่มีอาการเครียดเป็นบางครั้ง แต่วันนี้สภาพจิตใจเริ่มคลายความกังวลกว่าทุกวันที่ผ่านมา และทั้งหมดยังคงแยกการคุมขังออกจากกัน เนื่องจากผู้ต้องหาคดีเดียวกันจะไม่สามารถคุมขังร่วมกันได้ ซึ่งคาดว่าผู้ต้องขังจะค่อยๆปรับตัวได้เรื่อยๆ.