ไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่จะอยู่ใกล้-อยู่ไกล ไปอีกประมาณไหน...แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความเคลื่อนไหวของบรรดานักการเมืองช่วงนี้ ออกจะเริ่มคึกๆ คักๆ กระดี้กระด้ากันตามสมควร แค่ดูจากความพยายามสุมหัว รวมตัว กินข้าว-กินไวน์ของอดีต 50 ส.ส.ก็น่าจะพอนึกภาพออก ส่วนความคึกคักที่ว่ามันจะออกไปในรูปไหน แบบไหน นำไปสู่อะไรในอนาคตข้างหน้า อันนี้...คงขึ้นอยู่กับทัศนคติ มุมมองไปตามมาตรฐานของใครก็ของมัน...
ซึ่งคงต้องยอมรับนั่นแหละว่า...มันอาจก่อให้เกิดความน่ากลัว น่าขนลุกขนพอง สำหรับผู้คนบางกลุ่ม บางรายอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน คือเฉพาะแค่ที่คิดไหลมารวมตัวกันที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา เมื่อสองวันก่อน แต่ละคน แต่ละราย ล้วนเป็นอะไรที่น่าหวาดหวั่น ขวัญสยองไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าในแง่ขนาดของเขี้ยว ที่แม้จะไม่มีใครไปซุกระเบิดไว้ในห้องเลี้ยงรับรองกรุงเทพฯ 2 ของโรงแรมเซ็นทาราฯ ก็ตามที แต่ความยาวเฟื้อยเลื้อยลากดินของแต่ละอดีต ส.ส.น่าจะมีส่วนส่งผลให้พื้นโรงแรมสึกกร่อน ขูดขีดเป็นริ้วรอยกันไปไม่น้อย ความหนาของเกล็ดที่ไม่น้อยกว่าแรด หรือจระเข้ แถมแตกลายงาพอๆ กับกระเบื้องรุ่นราชวงศ์ถังอะไรประมาณนั้น เมื่อแต่ละตัว (ประทานโทษ) แต่ละราย ตัดสินใจลากหางมาเจอกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะ มันก็เลยส่งผลให้เจ้าหน้าที่แผนกตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ท่านต้องขออนุญาตเข้าไปตรวจหาวัตถุอันตรายชนิดวงแตก สลายม็อบไปคนละทิศคนละทางด้วยประการละฉะนี้...
ความน่ากลัว-ไม่น่ากลัวของบรรดาอดีต ส.ส.เหล่านี้ อันที่จริงแล้ว...ถ้าว่ากันให้ถึงที่สุด มันคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัว ส.ส.แต่ละตัว แต่ละรายมากมายซักเท่าไหร่นัก แต่ขึ้นอยู่กับบรรดาประชาชนในแต่ละเขต แต่ละพื้นที่นั่นเอง ที่จะเป็นตัวชี้ขาด ชี้วัด ว่าจะให้รายไหนมีโอกาสหลุดเข้ามาทักทายกับ “คุณวรนุช” (Varanus Salvator) เจ้าของพื้นที่ดั้งเดิมในรัฐสภาได้หรือไม่ อย่างไร มากหรือน้อยขนาดไหน และถ้าหากบรรดาญาติห่างๆ ของ “คุณวรนุช” เกิดเข้ามาเยอะๆ ส่งภาษาเดียวกันชนิดขรมไปหมด อันนั้น... “แผ่นดินอันงดงาม” ที่ใครต่อใครชักสะพานแหงนถ่อรอคอยมาประมาณ 3 ปีกว่าๆ ก็คงกลับคืนไปสู่สภาพ “แผ่นดินอันงดงอม” อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
ความน่ากลัว-ไม่น่ากลัวของบรรดาอดีต ส.ส.เหล่านี้...จึงเป็น “ปฏิสัมพันธ์” กับทัศนคติ ความรู้สึกนึกคิดของปวงชนชาวไทยอย่างมิอาจแยกออกจากกันได้เลย ชนิดไม่ว่าเขียนกฎหมายเอาไว้แบบไหน ออกแบบรัฐธรรมนูญ ออกแบบกฎหมายพรรคการเมืองเอาไว้อย่างไร แต่ถ้าหากปวงชนท่านยังคิดแบบเดิม รู้สึกแบบเดิมๆ ต่อให้ไปตั้งกองพลพิสูจน์วัตถุระเบิดกันภายในใจกลางรัฐสภา ยังไงๆ...ก็คง “เอาไม่อยู่” ไปด้วยกันทั้งสิ้น!!! โอกาสที่จะเสียของ เสียรังวัด เสียรูป เสียทรง ออกอาการ “ไปไม่เป็น” ตลอดช่วงหลังเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะอาศัย “บัวขาว ป.ประยุทธ์” ยืนเป็นมวยหลักก็เถอะ ย่อมมีสิทธิเป็นไปได้สูงเอามากๆ...
ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลก หรือเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ ว่าเหตุใดผู้นำ คสช.อย่างท่านนายกฯ “บิ๊กตู่” ท่านจึงต้องเอ่ยปากถามปวงชนชาวไทยเอาไว้ 4 ข้อ ซะตั้งแต่เนิ่นๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยไม่ว่า “คำตอบ” มันจะออกมาในรูปไหน แบบไหน แต่ถ้ามองในแง่ “ข้อมูล” และ “สถิติ” ก็อาจพอช่วยนำมาใช้ประโยชน์ในการแยกแยะ ว่าพื้นที่ไหน จุดไหน จังหวัดไหน เขตไหน ปวงชนท่านคิด ท่านรู้สึกไปในแบบไหน อย่างไร อันอาจนำไปสู่การตรวจและพิสูจน์วัตถุระเบิดกันเป็นจุดๆ เป็นพื้นที่ที่โดยไม่ต้องเสียเวลาหว่านแห งมไป-งมมา ให้ต้องเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า มากมายเกินไปนัก...
ดังนั้น...ก็อย่าถึงกับต้องหยิบเอามาซุบซิบ นินทา เยาะเย้ย เสียดสี ถามกลับ หรือ “ปาก้อนหินกลับ” ให้ต้องหัวปูด หัวโน เกินไปกว่านี้ ส่วนที่ปาไปแล้ว อันนั้น...คงต้องแล้วๆ กันไป ถือเป็นการเข้าทาง เข้าร่องแข้งของผู้ซึ่งมีสิทธิแสดงความคิด ความเห็น โดยบริสุทธิ์ใจและโดยมิได้ตั้งใจ แต่ภายใต้กระบวนการถามๆ ตอบๆ โดยกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดำรงธรรม และอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ อาจพอช่วยให้เห็นภาพบางอย่างได้บ้างรางๆ อย่างน้อย...ก็น่าจะพอรู้ๆ ได้ว่า ควรจะส่งหน่วยตรวจสอบพิสูจน์วัตถุระเบิดเข้าไป ณ จุดไหนต่อจุดไหนกันแน่!!!