คสช.ย้ำห้ามนักการเมืองทำกิจกรรม รับคืบหน้าบึ้มพระมงกุฎฯ ไม่มีมวยล้มต้มคนดู

ทีมโฆษก คสช. เผยยังห้ามนักการเมืองรวมตัวทำกิจกรรมทุกที่ ชี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม หลังบ้านเมืองเข้าสู่บรรยากาศปรองดอง แจงปมระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้าคืบหน้า ลั่นไม่มีมวยล้มต้มคนดู ทุกฝ่ายเดินหน้าทำบ้านเมืองสงบ

วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ยังมีกลุ่มอดีตนักการเมืองนัดรวมตัวเคลื่อนไหวทำกิจกรรมพบปะสังสรรค์อยู่อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ว่า การนัดทำกิจกรรมของนักการเมืองนั้นต้องดูเจตนา เพราะบางกิจกรรมมองได้ว่าเป็นในลักษณะการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งที่ผ่านมา คสช.ได้ขอความร่วมมือให้ชะลอการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในช่วงนี้ไว้ก่อน เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม ต้องขอร้องในฐานะที่เป็นพี่น้องคนไทย เพราะตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงการสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมพื้นที่ห้องกรุงเทพ 2 โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัล ลาดพร้าว ในระหว่างที่อดีต ส.ส.กลุ่มหนึ่ง ในนามสมาชิกสโมสรสภาผู้แทนราษฎรนัดพบปะสังสรรค์ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าพบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ดังกล่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ปฏิบัติทำหน้าที่ดูแลพื้นที่หลังจากที่ได้รับข้อมูลจึงไปแจ้งเตือนกับบุคคลที่อยู่จุดนั้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกคนก็ทราบดีเรื่องกรอบระยะเวลาการดำเนินการตามโรดแมป รวมถึงการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วก็จะมีกระบวนการขั้นตอนการเลือกตั้งต่อไป

เมื่อถามว่าทางกลุ่มอดีตนักการเมืองสมาชิกสโมสรสภาผู้แทนราษฎรระบุว่าการพบปะครั้งต่อไปจะไปใช้สถานที่สโมสรทหารบก พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าคนเป็นนักการเมืองก็พยายามหาทางเคลื่อนไหว แต่ในเวลานี้กิจกรรมใดที่มองว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ว่าจะขอใช้สถานที่ใดทาง คสช.ก็ไม่อนุญาต

พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่าทราบว่ามีความคืบหน้าตามลำดับจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ซึ่งทาง คสช.มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้ให้ข้อมูลเป็นหลัก เพื่อป้องกันความสับสน ทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพยายามคลี่คลายข้อกังวลสงสัย รวมถึงทุกประเด็นอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าจะมีมวยล้มต้มคนดูเกิดขึ้นหรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า คนที่ทำก็พยายามจ้องหาโอกาส ปิดบัง อำพราง ซ่อนเร้นและหลบหนี ส่วนเจ้าหน้าที่ก็พยายามคลี่คลายสถานการณ์ ติดตาม พิสูจน์และขยายผล ซึ่งต้องใช้เวลา แต่จะนานแค่ไหนตนตอบแทนเจ้าหน้าที่ไม่ได้ แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะมีความคืบหน้า สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนนั้น แม้ว่าบางสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นที่ต่างประเทศ ทางฝ่ายเกี่ยวข้องโดยเฉพาะหน่วยข่าวก็ได้ติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวว่าจะส่งผลกระทบกับประเทศเราหรือไม่ ส่วนสถานการณ์ภายในบ้านเราเอง สถานที่สำคัญ แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สัญลักษณ์ ทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบก็ดูแลอยู่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยใช้มาตรการต่างๆ ทั้งการข่าว การตรวจค้น กล้องวงจรปิด รวมถึงจัดกำลังภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม อีกทั้งใช้สุนัขที่ผ่านการฝึกเข้าตรวจค้นวัตถุระเบิด ยาเสพติด และอาวุธสงครามต่างๆ

“ทุกฝ่ายพยายามระดมสรรพกำลังทำให้ประเทศเกิดความสงบ แต่ยังอาจมีช่องว่างรอยรั่วบางจุด เช่น จุดทิ้งขยะ หรือจุดที่ไม่มีคนไปก็มีความพยายามสร้างกระแสให้เกิดความตื่นตระหนก เพื่อบิดเบือน ซึ่งเป็นเรื่องยากและท้าทายเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่พยายามใช้กำลังดูแลเต็มความสามารถ” พ.อ.ปิยพงศ์กล่าว