xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ถาม ประชาชน ตอบ

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนในสังคมไทยแปลกใจและสงสัยกับคำถาม 4 ข้อของนายกฯ และทั้ง 4 ข้อนี้เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบจากประชาชน แต่ปรากฏว่าคนกลุ่มแรกๆ ที่สนใจและวิพากษ์คำถามนี้มิใช่ประชาชน แต่เป็นนักการเมือง และนักวิชาการ ทั้งนี้อาจด้วยเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ในขณะนี้ โรดแมปที่ทาง คสช.และรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใกล้จะจบ และนั่นหมายความว่าการเลือกตั้งจะต้องจัดให้มีขึ้นตามที่กำหนดไว้ แต่คำถามทั้ง 4 ข้อนี้เป็นเสมือนการโยนหินถามทางว่าจะเห็นด้วยกับการเลือกตั้ง ในขณะที่การเมืองไทยยังไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าเดิม

2. ถ้าการเลือกตั้งในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้อให้ได้นักการเมืองที่ดี ควรจะจัดการเลือกตั้งหรือเลื่อนออกไปจนกว่าจะมั่นใจว่าจะได้นักการเมืองที่ดี

3. อันที่จริงคำถามทั้ง 4 ข้อนี้ ถ้าให้ตอบอย่างตรงไปตรงมา ทุกคนที่สนใจการเมืองและมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่ม พธม.และ กปปส.รู้คำตอบเป็นอย่างดี จะเห็นได้จากการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง แต่จากวันที่มีการชุมนุมเรียกร้องทั้งของกลุ่ม พธม. และ กปปส.จนถึงวันนี้การปฏิรูปการเมืองยังไม่เกิดขึ้นให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม จึงค่อนข้างมั่นใจว่าถ้ามีการเลือกตั้งการเมืองไทยก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนในฐานะประชาชน และในฐานะคนในวงการสื่อ จึงขอตอบคำถามทั้ง 4 ข้อที่ท่านนายกฯ ถาม แต่จะยึดแนวทางตอบปัญหาของพระพุทธเจ้าคือ

1. ตอบ ยืนยันแบบกระต่ายขาเดียว ไม่มีนัยอื่นใดให้ตีความคือ ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ไม่กำกวม ไม่คลุมเครือ

2. ตอบ โดยการถามกลับคือ แทนที่จะตอบเองกลับย้อนถามผู้ถาม และคำตอบที่ได้เป็นคำตอบตัวอย่างเช่นที่ปรากฏในหนังสือมิลินทปัญหา ซึ่งเกี่ยวกับการโต้ตอบระหว่างพระนาคเสนกับพระเจ้ามิลินท์

3. ตอบ ด้วยการนิ่งไม่ตอบ ทั้งนี้เนื่องจากทรงเห็นว่าตอบไปก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดในการนำคำตอบที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น

คำถามข้อที่ 1 เลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่?

ประเด็นสำคัญของคำถามข้อที่ 1 การเลือกตั้งจะมีขึ้นเมื่อใด และในเวลาที่มีการเลือกตั้งสภาวะแวดล้อมของสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองเป็นอย่างไร ถ้าสภาวะแวดล้อมทางสังคมเป็นเช่นในปัจจุบัน รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตอบได้ในแบบยืนกระต่ายขาเดียวว่า ไม่มีธรรมาภิบาลหรือจะมีก็ไม่มากไปกว่ารัฐบาลที่ได้จากการเลือกตั้งในปี 2549 และในปี 2554 และวัฏจักรทางการเมืองคงจะต่างไปจากสองรัฐบาลที่ผ่านมาคือ ประชาชนไม่พอใจและลุกขึ้นขับไล่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง ทั้งนี้ด้วยเหตุปัจจัยอนุมานได้โดยอาศัยหลักแห่งตรรกศาสตร์ดังต่อไปนี้

1. สภาวะทางเศรษฐกิจดำเนินไปในสองทิศทางซึ่งวิ่งสวนกันคือ คนรวยรวยเพิ่มขึ้น แต่คนจนยิ่งจนลง ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่คนหมู่มากในระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่นิยมชมชอบนักการเมืองที่เคยมีอำนาจในอดีต

ดังนั้น เมื่อมีการเลือกตั้งคนในระดับรากหญ้าก็จะเลือกนักการเมืองกลุ่มเดิม

2. สภาวะทางการเมือง นักการเมือง กลุ่มอำนาจเก่าส่วนใหญ่ยังอยู่ครบ และพร้อมจะลงเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่มีการจัดตั้งไว้อย่างต่อเนื่อง และเหนียวแน่น รับประกันได้ถ้ามีการเลือกตั้ง นักการเมืองกลุ่มนี้กลับเข้ามาแน่นอน ถึงไม่ทั้งหมดก็มากพอที่จะต่อรองทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล

ดังนั้น รัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปคงหนีไม่พ้นรัฐบาลผสม ส่วนนายกฯ จะเป็นใครมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ คงจะถูกครอบงำด้วยเสียงส่วนใหญ่ซึ่งล้วนแต่เป็นนักการเมืองในรูปแบบเดิมๆ

คำถามข้อที่ 2 หากไม่ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลจะทำอย่างไร?

คำถามข้อนี้มีประเด็นอยู่ที่วิธีการแก้ปัญหา และตอบได้ตามหลักการประชาธิปไตยว่าเป็นหน้าที่ของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย จะต้องพัฒนาการเมืองภาคประชาชนให้เข้มแข็งโดยการรวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก หรือยุบสภาแล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ และในการเลือกตั้งจะต้องไม่เลือกนักการเมืองที่มีปัญหาเข้ามาอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือการทำรัฐประหาร เนื่องจากที่แล้วมาได้พิสูจน์แล้วว่าวิธีนี้แก้ปัญหาไม่ได้

คำถามข้อที่ 3 เลือกตั้งอย่างเดียวไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศถูกต้องหรือไม่?

ประเด็นของข้อนี้มีคำตอบแบบกระต่ายขาเดียวคือไม่ถูกต้อง แต่การอยู่ไปโดยไม่มีการเลือกตั้ง และไม่มีการพัฒนารูปแบบการปกครองให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนก็ไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน

คำถามข้อที่ 4 ควรให้โอกาสนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือไม่ จะแก้ด้วยวิธีใด?

ข้อนี้เห็นทีจะต้องตอบแบบถามกลับว่า คำว่าไม่เหมาะสมนั้น ในด้านใดบ้าง ถ้าไม่เหมาะสมในด้านคุณธรรม และจริยธรรมแล้วมีความเสียหายแก่ประเทศและประชาชนโดยรวม ก็ตอบได้ว่าไม่ควรให้โอกาสเนื่องจากว่าประเทศไทยยังมีคนดีให้เลือกอีกมาก จึงไม่ควรให้คนเลวเข้ามาลองผิดลองถูกเพียงเพื่อการอ้างว่าจะกลับตัวเป็นคนดี

ส่วนจะแก้อย่างไรนั้น ตอบได้โดยอ้างพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ว่าให้คนดีมาปกครอง ก็จะแก้ปัญหานี้ได้

โดยสรุปคำถามทั้ง 4 ข้อ รัฐบาลสามารถแก้ไขได้เพียงแต่ทำการปฏิรูปการเมืองก่อนจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่การปฏิรูปมิใช่เพียงแค่เขียนเป็นมาตรการในรูปของกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องนำไปทดลองปฏิบัติดูแล้วทำการประเมินผล ถ้าผลของการประเมินได้ผลเป็นที่พอใจ ค่อยออกเป็นมาตรการถาวรต่อไป จึงต้องใช้เวลานานพอสมควร
กำลังโหลดความคิดเห็น