xs
xsm
sm
md
lg

“อำนาจ” กับ “ความชอบธรรม”

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

ชีค โมฮัมหมัด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี รัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์
จะด้วยเหตุเพราะเชื้อเปรี้ยวของ “น้องเปรี้ยว” มันแพร่ระบาดลุกลามหรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจทราบได้!!! ช่วงหลังๆ นี้...ดูๆ รัฐบาล คสช.ท่านเลยออกอาการ “เปรี้ยว” อยู่ตามสมควร ถึงขั้นต้องบุกค้นบ้านอดีต ส.ส.ห้ามนักการเมืองไม่ให้กินข้าวเย็นกันตามโรงแรม ด้วยเหตุนี้...เอาเป็นว่า เพื่อไม่ให้บรรยากาศบ้านเมืองออกไปทางขนลุก ขนพอง น่าหวาดหวั่น ขวัญสยองมากมายเกินไปนัก คงต้องขออนุญาตแฉลบออกข้าง ไปว่ากันเรื่อง “แขกเปรี้ยวแขก” ต่ออีกซักยก น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ...

มาถึง ณ ขณะนี้ รายการ “แขกซาอุฯ” ไล่บี้ “แขกกาตาร์” ที่สร้างความฮือฮาให้ใครต่อใครเมื่อช่วงอาทิตย์ที่แล้ว ไปๆ-มาๆ ต้องเรียกว่า...กระแสชักทำท่าว่าอาจจะพลิกกลับ คือแทนที่ “แขกกาตาร์” จะถูกไล่เตะ ไล่ถีบ เสียรูป เสียทรง เสียรังวัด จนต้องยอมหันมาศิโรราบให้กับ “แขกซาอุฯ” ยอมปรับเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ หันมาโดดเดี่ยวต่อต้านประเทศอิหร่าน ดังคำประกาศความร่วมมือของ 55 ชาติมุสลิม ณ เวที “Arab Islamic-American Summit-2017” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ระหว่างเซถลาเข้ามุม พิงเชือก ประเทศที่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างกาตาร์ ก็ทำท่าว่าสามารถเด้งเชือกออกมาเต้นฟุตเวิร์กกลางเวทีได้บ้างแล้ว อันส่งผลให้ผู้ที่เป็นฝ่ายกระทำอย่าง “แขกซาอุฯ ” อาจหมดเรี่ยวหมดแรงไปแทนที่เอาเลยก็ไม่แน่...

จากเดิมทีที่เคยมีแค่ผู้นำของคูเวต...ที่ออกมาแสดงความเห็นอกเห็นใจกาตาร์ตั้งแต่เริ่มแรก ถึงขั้นอาสาเดินทางเจรจากับซาอุฯ เพื่อให้ยอมลดราวาศอกลงไปมั่ง แต่หลังจากประชาคมระหว่างประเทศหายช็อก หายตะลึงกันบ้างแล้ว การหันมายืนหยัด เคียงข้าง ส่งเสียงโห่ เสียงเชียร์ ก็เริ่มดังกระหึ่มขึ้นมารอบๆ เวที ความแตกตื่นในเรื่องการขาดแคลนอาหาร สินค้าอุปโภค-บริโภค ไปจนยารักษาโรค ฯลฯ ที่เคยต้องอาศัยทางผ่านจากซาอุฯ และประเทศบริวารมายังกาตาร์ มาบัดนี้...เริ่มดูจางๆ ลงไปบ้างแล้ว เมื่อสหภาพส่งออกสินค้าเกษตรของอิหร่าน (Union of Exporters of Agricultural Products) โดดเข้ามาขนผลผลิตอาหารส่งข้ามฟากไปยังกาตาร์ในช่วงเวลาแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้นเอง รวมทั้งเครื่องบินสายการบินอิหร่านเริ่มบรรทุกสินค้าการเกษตรเข้าไปยังสนามบินกาตาร์ไม่รู้กี่เที่ยวต่อกี่เที่ยว แถมยังเปิดเมืองท่าอีก 4 เมือง ให้กาตาร์ใช้เป็นแหล่งลำเลียงสินค้าที่ขาดแคลนกันโดยเฉพาะ...

ไม่ต่างไปจากตุรกีที่นอกจากจะป่าวประกาศว่าพร้อมส่งอาหาร ยารักษาโรค และผลิตผลต่างๆ ให้กับกาตาร์ โดยไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว รัฐสภาตุรกียังเร่งผ่านกฎหมายอนุญาตให้กองทัพตุรกีสามารถส่งทหารไปช่วยเหลือกาตาร์ตามสัญญาข้อตกลงที่ทำไว้ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2015 อันอาจถือเป็นหลักประกันได้ว่า การลงมือ ลงตีนกดดันกาตาร์ด้วยวิธีอื่นๆ โดยเฉพาะวิธีทางทหารนั้น คงไม่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เช่นเดียวปากีสถานที่ผู้นำทางทหารเพิ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรับผิดชอบในการร่วมมือกับซาอุฯ ถล่มประเทศเยเมน ก็หันมาประกาศว่าพร้อมส่งทหารปากีสถานนับหมื่นๆ ไปช่วยปกป้องอธิปไตยของกาตาร์ด้วยเช่นกัน...

ท่ามกลางเสียงเป่าปาก เสียงเชียร์เช่นนี้ จึงไม่ถึงกับแปลก...ที่รัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์ “ชีค โมฮัมหมัด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี” (Sheikh Mohammed bin Abdulrahman al-Thani) ไม่เพียงออกมาประกาศยืนหยัด ยืนกราน ว่า กาตาร์จะไม่ยอมให้ใครแทรกแซงกิจการภายใน และละเมิดอำนาจอธิปไตยของกาตาร์โดยเด็ดขาด แต่ยังเริ่มออกเดินสายไปนั่งจับเข่า จับหัวเหน่ากับรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี “นายซิกมาร์ กาเบรียล” (Sigma Gabriel) เป็นรายแรก ก่อนต่อไปนั่งปั้นจิ้ม ปั้นเจ๋อกับ “นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” (Sergey Lavrov)รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเป็นรายถัดไป...

ขณะบรรดาผู้แห่ตามซาอุฯ...โดยส่วนใหญ่ ล้วนแต่ออกอาการ “แบ่บบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์” ซะเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นประเทศลิเบีย เยเมน มัลดีฟ มอริเชียส มอริเตเนีย จิบูตี เซเนกัล ฯลฯ ที่ทยอยออกมาตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ชนิดไล่เรียงเป็นลูกระนาด แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...บรรดาประเทศเหล่านี้ ไม่เพียงมีฐานะเป็นแค่ “ลูกไล่”ของซาอุฯ แถมบางประเทศยังออกอาการแทบไม่เป็นประเทศ หนักไปทาง “Failed States” อย่างเห็นได้ชัด เช่นลิเบีย หรือเยเมน เป็นต้น หรือแทบไม่ได้มีส่วนเพิ่มน้ำหนัก เพิ่มความชอบธรรม ให้กับซาอุฯ เอาเลยแม้แต่น้อย ที่พอมีระดับอย่างจอร์แดน ก็ออกอาการก้ำๆ กึ่งๆ แค่ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ไม่ถึงกับคิดลงมือ ลงตีน รุมสกรัมแบบประเทศที่ถือเป็นบริวารของซาอุฯ อย่างยูเออี เป็นต้น ลักษณะอาการของซาอุฯ เลยออกไปทาง “สามัคคีทุกฝ่ายทำลายตัวเอง” หรือ “โดดเดี่ยวตัวเอง” ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

ส่วนคุณพ่ออเมริกาที่ออกแรงยั่วยุ ถือหางซาอุฯ มาตั้งแต่แรก ก็กำลังตกอยู่ในสถานะ “แม้พัดลมยังส่ายหน้า” ยิ่งขึ้นทุกที โดยเฉพาะเมื่อประเทศในยุโรป อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส เริ่มหันมายอมรับสภาพความจริงว่าเส้นทางอนาคตของยุโรปไม่อาจพึ่งพิงอเมริกาและอังกฤษแบบเดิมๆ ได้อีกต่อไป การเดินทางไปเยือนเยอรมนีเป็นประเทศแรก และรัสเซียเป็นลำดับต่อไปของรัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์ จึงถือว่าเป็นอะไรที่ “เปรี้ยว” มิใช่น้อย และอาจมีส่วนส่งผลให้ประธานาธิบดีกับรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกัน ต้องออกมาแสดงท่าทีต่อความขัดแย้งกรณีกาตาร์กับซาอุฯ แบบ“คนละเรื่องเดียวกัน” หรือแบบชนิดเล่นเอาใครต่อใคร “มึนซ์ซ์ซ์” กันไปทั้งบาง คือขณะประธานาธิบดียังเมามันซ์ซ์ซ์กับการยุแหย่ให้แขกกับแขกตีกัน รัฐมนตรีต่างประเทศ “เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน” (Rex Tillerson) กลับหันมาเรียกร้องให้หาทางประนีประนอม ผ่อนคลาย มาตรการกดดันกาตาร์กันไปซะนี่!!!

สรุปง่ายๆ ว่า...งานนี้ การอาศัยเฉพาะ “อำนาจ” เพียงลูกเดียวล้วนๆ โดยไม่ได้มีความถูกต้อง ชอบธรรม หรือ “ธรรมะ” เป็นตัวรองรับ สุดท้าย...ผู้ใช้อำนาจนั้นๆ อาจต้องกลายเป็นฝ่ายเสียทรง เสียรังวัด เสียรูปมวยไปเองเอาเลยก็ไม่แน่!!! กรณี “แขกเปรี้ยวแขก” คราวนี้ จึงอาจนำมาใช้เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับใครต่อใครในบ้านเราได้เช่นกัน แม้เป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ก็ตามที...
กำลังโหลดความคิดเห็น