เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์ในวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) ประกาศกร้าวไม่ว่าชาติใดก็ไม่มีสิทธิ์แทรกแซงนโยบายต่างประเทศของพวกเขา หลังถูกซาอุดีอาระเบียและเหล่าชาติอาหรับอื่นๆ ตัดความสัมพันธ์กดดันให้ปรับเปลี่ยนท่าที อย่างไรก็ตามยืนยันไม่ใช้มาตรการทางทหารในวิกฤตครั้งนี้
“ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์แทรกแซงนโยบายต่างประเทศของเรา” ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ทานี รัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์บอกกับเอเอฟพี อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า “เราไม่มองมาตรการทางทหารเป็นทางเลือกในวิกฤตนี้”
ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อียิปต์ และบาห์เรน ในสัปดาห์นี้ นำประเทศต่างๆ ตัดความสัมพันธ์กับ กาตาร์ โดยกล่าวหาว่าโดฮาสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งอย่าง กลุ่มภราดรภาพมุสลิม, “รัฐอิสลาม” (ไอเอส), อัลกออิดะห์ ตลอดจนกลุ่มอื่นๆ ที่อิหร่าน ซึ่งเป็นคู่อริกับซาอุดีอาระเบีย หนุนหลังอยู่
แม้ว่ากาตาร์ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับพวกหัวรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเออีเปิดเผยกับเอเอฟพีเมื่อวันพุธ (7 มิ.ย.) ว่ามาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ที่กำหนดกับกาตาร์ มีเป้าหมายกดดันโดฮาเปลี่ยนแปลงทางนโยบายอย่างฉับพลัน
“มันไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนรัฐบาล แต่มันเกี่ยวกับการเปลี่ยนนโยบาย เปลี่ยนแปลงแนวทาง” อันวาร์ การ์กาช รัฐมนตรีต่างประเทศยูเออีกล่าว
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีเมื่อวันพุธ (7 มิ.ย) การ์กาช บอกว่ามาตรการต่อโดฮายังจำกัดแค่ความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจ แต่เตือนว่าไม่มีใครที่สามารถคาดเดาความผันผวนของวิกฤตครั้งนี้ได้
“มันก็เหมือนวิกฤตอื่นๆ คุณไม่สามารถควบคุมความผันผวนได้ นี่คือหนึ่งในวิกฤตที่อันตราย เราไม่มีเจตนาแสวงหาสิ่งอื่น เราเพียงเล็งไปที่ขอบเขตกิจกรรมทางเศรษฐกิจ” เขากล่าว
4 ชาติอาหรับได้ระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากโดฮา และปิดการเชื่อมโยงทางทะเลและทางอากาศกับกาตาร์ ในขณะที่ ซาอุดีอาระเบีย ยังปิดการเชื่อมโยงกับกาตาร์เพิ่มอีกทาง นั่นคือตามแนวชายแดนภาคพื้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกอาหารของกาตาร์
กระนั้น ชีค โมฮัมเหม็ด ประกาศกร้าวว่ากาตาร์จะอยู่รอดไปชั่วนิรันดร์ พร้อมระบุพวกเขาเคารพข้อตกลงต่างๆ ระหว่างประเทศและจะยังส่งมอบก๊าซธรรมชาติเหลวแก่ยูเออีตามเดิม ทั้งนี้ กาตาร์ เป็นชาติผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวรายใหญ่ที่สุดของโลก