เรื่องปิดไม่มิดทางการเมือง...เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกชาติ!
ต้องขอบคุณ “ปู่-พิชัย รัตตกุล” ที่เผยให้เห็น “สันดานเดิม” ของ “นักเลือกตั้งน้ำเน่า” หลายคน ที่ดูถูกความรู้ของประชาชนอย่างหน้าด้านๆ ว่า หลังการเลือกตั้งพร้อมจะผสม “ขี้-กับ-ข้าว” ยัดเยียดให้ประชาชนกินกันแล้ว(ว่ะ)
ธรรม-สอนว่า “อำนาจ-กับ-ผลประโยชน์” นั้น คนดีจริงๆ จะไม่หวั่นไหว!
ทว่า... คนดีไม่จริง-พร้อมจะเปลี่ยนเป็นคนชั่วได้ทุกเวลา! ส่วนคนที่ชั่วอยู่แล้ว-ย่อมพร้อมทำชั่วยิ่งขึ้นในทุกรูปแบบเพื่อให้ได้มาซึ่ง “อำนาจ-กับ-ผลประโยชน์”
“นักเลือกตั้ง” เหล่านี้รู้อยู่แล้วว่าโรดแมปเลือกตั้งของ “นายกฯ ตู่” นั้น ยังอีกไกลถึงปลายปี 2561และอาจยืดไปกลางปี 2562 โน่น ที่สำคัญจะมี “เลือกตั้ง” ตามห้วงเวลาดังกล่าวไหม-ยังไม่รู้! เพราะแม้แต่ “นายกฯ ตู่” ยังไม่กล้า “ฟันธง” เปรี้ยงปร้างว่า
ในห้วงดังกล่าวจะมีเลือกตั้งแน่นอนอ๊ะป่าว? เพราะอาจมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงจนทำให้การเลือกตั้งเป็น “โรคเลื่อน” ก็ได้...ใครจะไปรู้!
ธรรม-สอนว่า... ความไม่แน่นอน-คือ-ความแน่นอน
แหงล่ะ!...ยังไงๆ ชาติไทยต้องมีการเลือกตั้งไม่ช้าก็เร็ว เพราะ “ผู้นำชาติ” และ “ผู้คน” ยังจมปลัก “ประชาธิปไตยจอมปลอม” ทั้งๆ ที่ชาติและคนไทยยังไม่พร้อมในหลายมิติ โดยเฉพาะยังไม่รู้ทันเล่ห์ร้าย “นักเลือกตั้งทุนสามานย์” ที่ใช้การเลือกตั้งสกปรกเข้ายึดอำนาจรัฐเพื่อโกงชาติ
80 กว่าปีภายใต้ระบอบ “ประชาธิปไตยจอมปลอม” ทำให้เศรษฐกิจ-การเมือง-สังคมไทย ฯลฯ เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำแทบทุกมิติจนทำให้ยากต่อการแก้ไขด้วยวิธีปกติ ต้องแก้ด้วยการปฏิรูปในหลายมิติอย่างจริงจังเท่านั้น
การแก้ไขตามความเชื่อผิดๆ ที่ว่า “การเลือกตั้ง” เท่านั้นที่จะแก้ปัญหา “นักการเมืองโกงชาติ” ได้ และแก้วิกฤตชาติได้อีกด้วยเป็นวิธีแก้ไขที่ผิดมหันต์
เพราะนั่นเท่ากับว่า-“ผู้นำชาติ” กำลังนำพา “คนทั้งชาติ” เดินไปสู่ “วงจรอุบาทว์” วนเวียนซ้ำซากโดยไม่รับผิดชอบใดๆ!
“ประชาธิปไตยจอมปลอม” ที่ผ่าน “การเลือกตั้ง” มาหลายสิบปี ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ชาติได้นักการเมืองไร้คุณภาพมากขึ้นๆ และโกงชาติมากขึ้นๆ เป็นต้นเหตุปัญหาอันเลวร้ายสารพัด โดยเฉพาะเป็นต้นเหตุการทำรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า
ที่สำคัญ “ประชาธิปไตยจอมปลอม” ของทุนสามานย์ ได้ทำให้ค่านิยมอันดีงามของสังคมไทยเสื่อมทรุด ทั้งด้านคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ฯลฯ โดยเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริตที่มลายไปแทบหมดสิ้น!
เพราะสังคมทุนสามานย์ได้ทำให้ผู้คนในชาติ มุ่งแต่กอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนกับพวกพ้องเป็นหลัก จนชาติไทยกลายเป็น “สังคมมือใครยาวสาวได้สาวเอา” ถึงขนาดคิดว่า “ใครจะโกงก็ช่างมัน ขอให้กูได้ด้วยก็แล้วกัน!!!”
หากชาติไทยยังไม่เร่งสร้างการเมืองแบบ “ธรรมาประชาธิปไตย” มาแทนที่ “ประชาธิปไตยจอมปลอม” ของทุนสามานย์ อนาคตของชาติไทยคงวายป่วงแน่นอน
เพราะจากวันนั้นจนถึงวันนี้ “นักการเมือง” ทั้งดีและไม่ดีในชาติไทย ยังไม่เคยตระหนักถึงภยันตรายจากระบอบการเมือง “ประชาธิปไตยจอมปลอม” ที่ต้องใช้ทั้งเงินมหาศาลและการโกงเลือกตั้ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ได้แต่ “คนชั่ว” เข้าสภา และได้ “รัฐบาลชั่ว” ขึ้นปกครองชาติ
จนเกิดการรัฐประหารซ้ำซาก เพื่อโค่นรัฐบาลโกงชาติ แต่กระนั้น... “นักการเมือง” ที่มาจากการเลือกตั้งสกปรก ก็ไม่เคยลด-ละ-เลิกการโกงเลือกตั้งและโกงชาติ “วงจรอุบาทว์” จึงไม่เคยหมดสิ้นไปจากชาติไทยไงล่ะ...
สุดท้าย... ก็เป็นชาติและประชาชนคนไทยเท่านั้น ที่ต้องแบกรับผลพวงความเลวร้ายจาก “ผู้มีอำนาจ” ทั้งที่มาจากเลือกตั้งสกปรกและจากการรัฐประหารที่ปกครองชาติแบบ “สมบัติชาติผลัดกันโกง” เพราะคนเหล่านั้นไม่รักชาติและประชาชนด้วยใจจริง
ที่น่าละอายและน่าห่วงยิ่งนัก คือ “ผู้นำชาติ” ทั้งสองรูปแบบ ไม่เคยสำนึกในความผิดตนและพวกพ้องที่ยามมีอำนาจรัฐอยู่ในกำมือ กลับไม่ได้ทำงานให้ชาติและประชาชนด้วยใจจริงชาติไทยจึงขาดแคลน “นักการเมืองดี” ทั้งสองรูปแบบ ที่น่ายกย่องสรรเสริญ...ไงล่ะครับ
“นักการเมือง” คงไม่โง่ เว้นแต่จะแกล้งโง่หรือถูกอำนาจและผลประโยชน์บังตา ฯลฯ จนถึงกับไร้เดียงสาไม่รู้ว่ารัฐประหารเกิดขึ้นได้-เพราะอะไร?
ถ้า “นักการเมืองดี” ไม่โกงชาติ ทำทุกอย่างเพื่อชาติและประชาชนเป็นหลัก ทหารหน้าไหนจะกล้าออกมาทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลของประชาชนล่ะ...จริงไหม?
แทนที่ “นักการเมืองทุนสามานย์” จะเห็นถึงความผิดในสิ่งที่ตนและพวก กระทำไม่ดีต่อชาติบ้านเมืองและพร้อมจะแก้ไขตัวเองอย่างจริงจัง กลับโยนความผิดว่า “ทหารอยากทำรัฐประหาร” ประณามการรัฐประหารว่า ทำให้ “ชาติถอยหลังลงคลอง”
ยุค “เหลี่ยม” และเครือข่ายครองเมือง ถ้าปล่อยให้รัฐบาลชั่วช้าสามานย์ ยึดอำนาจรัฐในกำมือเพื่อโกงชาติต่อไปเรื่อยๆ “ชาติคงเดินไปลงเหว” อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทหารจึงจำต้อง “ฆ่าตัดตอนอำนาจรัฐอธรรม” ถึง 2 ครั้ง นับเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง
แต่รัฐบาลทหารก็ทำได้แค่ “ฆ่าตัดตอนอำนาจอธรรม” เพียงชั่วคราวเท่านั้นเพราะยังไม่ได้ทำการปฏิรูปชาติเรื่องสำคัญๆ เลย
วันนี้จึงมีเสียงบึ้มของระเบิดดังต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยไม่กลัวทั้งกฎหมายและความกล้าๆ กลัวๆ ของ “นายกฯ ตู่” กันอีกแล้ว!!!
นิทานอีสปเรื่อง “ชาวนา” กับ “งูเห่า” น่ะล้าสมัยไปแล้ว! ต้อง “อีสป 4.0” “บิ๊กตู่” เจอกับ “งูเห่า” สิว้อย...สนุกกว่าเป็นไหนๆ…555...