“รัฐประหาร” และ “รัฐธรรมนูญทุกฉบับ” มิใช่ต้นเหตุทำลายประชาธิปไตย!
นักการเมืองชั่วต่างหาก-คือ-ต้นเหตุทำลายประชาธิปไตย! ทั้งยังเป็นต้นเหตุรัฐประหารซ้ำซากอีกด้วย!
เห็นได้ชัดในยุครัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่ายที่โกงเลือกตั้งเข้ายึดรัฐสภาและรัฐบาล ใช้อำนาจรัฐปล้นชาติและล้มเจ้า จน “เหลี่ยม” กับพวกเป็นภัยร้ายแรงต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ตราบทุกวันนี้
นั่นทำให้รัฐบาล “เครือข่ายเหลี่ยม” ถูกชาวไทยชุมนุมขับไล่อย่างต่อเนื่อง จนรัฐบาล “ชั่วโดยสันดาน” และ “โลภมิรู้จักพอ” ถูกกองทัพทำรัฐประหารโค่นล้มลง
ทว่า...รัฐประหารครั้งแรก “ผู้นำกองทัพ” และ “ผู้นำรัฐบาลทหาร” นอกจากไม่ได้ลงโทษกลุ่มนักการเมืองชั่วอย่างจริงจังแล้ว ยังกลับ “มองโลกสวย” จนไม่ได้กีดกันกลุ่มคนชั่วให้พ้นไปจากการเมืองไทยอีกด้วย
เพราะปล่อยให้นักการเมืองชั่วกลุ่ม “เหลี่ยม” ลงสนามเลือกตั้งกันเป็นทิวแถว มีการทุ่มเงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร จน “เหลี่ยม” กับเครือข่าย กลับมายึดอำนาจรัฐโกงชาติได้อีกครา
ทำให้ชาวไทยผู้รักชาติ ต้องออกมาชุมนุมขับไล่เครือข่ายรัฐบาลชั่ว “เหลี่ยม” อีกครั้ง ตามด้วยกองทัพไทยก็ต้องทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลทุนสามานย์เป็นคำรบสอง
มาดูกันว่า...สิบกว่าปีภายใต้รัฐบาลทุนสามานย์ เครือข่าย “เหลี่ยม” ก่อเรื่องฉกรรจ์อะไรบ้าง...?
เหลี่ยมเชี่ยวชาญ-การใช้เงินและโกงการเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐ! เชี่ยวชาญ-การใช้อำนาจรัฐโกงชาติและกลั่นแกล้งฝ่ายตรงกันข้าม! เชี่ยวชาญ-การใช้เงินสกปรกและตำแหน่งซื้อผู้คน และใช้ผลประโยชน์ชาติประเคนให้กลุ่มทุนสามานย์ชาติตะวันตก ให้สนับสนุนการทำชั่วของพวกตน
เหลี่ยมล้มเจ้า-เพราะเชื่อว่า...หากชาติไทยไร้ “สถาบันกษัตริย์” กลุ่มทุนสามานย์ “เหลี่ยม” จะได้สร้างรัฐไทยใหม่ ที่มี “ประธานาธิบดีเป็นประมุข” แบบชาติตะวันตก เพื่อการปล้นชาติของทุนสามานย์ไทยและต่างชาติ จะได้สะดวกดายและมั่นคงในระยะยาว
เหลี่ยมยึดสังฆราช-เพราะรู้ว่า “ศาสนจักร” ในชาติไทย มีพระหย่อนธรรมวินัยและพระปลอมมิใช่น้อย เป็นขบวนการ “มารศาสนา” ในคราบผ้าเหลือง เที่ยวหลอกลวงเงินทองชาวพุทธ ที่ไม่รู้ทันในคำสอน “พุทธเทียมผสมพุทธพาณิชย์” เช่น
“ทำบุญแล้วรวย!” ทำชั่วขนาดไหนก็ “หนีนรกไปขึ้นสวรรค์” ได้ด้วย “เงิน!” แต่สูตร “ทำบุญหนีนรกไปขึ้นสวรรค์” เนี่ย จะชัวร์ป้าบถ้าญาติโยมทำบุญที่ “วัดไชโยจานบินนะจ๊ะ!”
วัดมิใช่วัด-พระมิใช่พระ-คำสอนมิใช่พุทธแท้! ทำให้ “โจรผ้าเหลือง” ร่ำรวยกันเละเทะ บางรายยังมีการตั้ง “สหกรณ์การเงิน” ให้ชาวพุทธกู้ทำบุญ อีกทั้งใช้เป็นแหล่งฟอกเงินและรับของโจร บริการแก่พระหย่อนวินัยและพระปลอม รวมทั้งญาติโยมเครือข่ายเศรษฐีทั้งหลายอีกด้วย
ขบวนการ “มารศาสนาในคราบพระ” ยังสร้างอิทธิพลด้วยการใช้เงินซื้อตัว “พระบิ๊กเบิ้ม” กับพระใหญ่น้อยมาเป็นพรรคพวก เพื่อหวังจะตั้งพระสังฆราชของพวกตน โดยมีกลุ่มการเมืองให้การสนับสนุน ด้วยหวังจะใช้องค์กรสงฆ์และพระสงฆ์ เป็น “กองเชียร์” และ “หัวคะแนน” ยามมีการเลือกตั้งนั่นเอง
ส่วนพระหย่อนวินัยและพระปลอมทั่วราชอาณาจักร ก็หวังเกาะ “พระสังฆราชของพวกตน” แอบเข้าไปยึดอำนาจใหญ่น้อยใน “ศาสนจักร” เพื่อหากินกับเงินวัด-ที่ดินวัด-สมบัติวัด ฯลฯ รวมทั้งรับการแต่งตั้งสมณศักดิ์
งานนี้...นักการเมืองกลุ่มทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ได้สมคบกับพระหย่อนวินัยและพระปลอม พยายามจะกินรวบอำนาจทั้ง “ราชอาณาจักร” และ “ศาสนจักร” ให้ได้
ขณะที่ “อดีตพระสังฆราช สมเด็จญาณสังวรฯ” ยังมีพระชนมชีพ แต่ “รัฐบาลเหลี่ยม” ใช่ไหม...ที่ใช้อำนาจรัฐตั้ง “ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนพระสังฆราช” ขึ้นมาแบบดื้อๆ
เรื่องยังบานปลายต่อเนื่องมาจนถึง “องค์กรพระบิ๊กเบิ้ม” ผู้แต่งตั้งพระสังฆราช ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ ปี 2535 ดันทุรังจะแต่งตั้งให้ “พระบิ๊กเบิ้มผู้เปื้อนมลทิน” ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ขึ้นเป็นพระสังฆราช โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของชาวพุทธ
โดยกลุ่มพระหย่อนวินัย-พระปลอม-แกนนำแก๊งแดง-นักการเมืองชั่ว ที่มีส่วนได้เสียกับการแต่งตั้งพระสังฆราชในครั้งนี้ ล้วนไม่เคยแยแสแม้แต่น้อย ว่าการมีพระสังฆราชที่ด่างพร้อย จะส่งผลให้วงการสงฆ์และพุทธศาสนา ต้องเสื่อมเสียและเสื่อมศรัทธาอย่างรุนแรง
“องค์กรพระบิ๊กเบิ้ม” ได้อำนาจอันยิ่งใหญ่ ตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2535 แต่กลับใช้อำนาจอย่างไม่รับผิดชอบ ด้วยการเสนอตั้งพระสังฆราชที่พัวพันกับคดีอาญา... ขืนปล่อยให้อำนาจนี้อยู่ในกำมือต่อไป ย่อมมีโอกาสจะนำความเสียหายใหญ่หลวง มาสู่ชาวพุทธทั้งปัจจุบันและอนาคต
งานนี้ “สนช.” จึงตัดสินใจแก้กฎหมายยกเลิกอำนาจ “องค์กรพระบิ๊กเบิ้ม” ในการตั้งพระสังฆราช โดยคืนพระราชอำนาจให้ “พระมหากษัตริย์” ทรงแต่งตั้ง “พระสังฆราช” ตามราชประเพณีโบราณและตามกฎหมายในอดีต
ชาวพุทธที่แท้จริงรู้อยู่แก่ใจว่า พุทธศาสนา-ไม่มีปัญหา! “มารศาสนา” ในคราบ “พระสงฆ์” ต่างหาก คือ ต้นเหตุอันเลวร้ายของพุทธศาสนาในชาติไทย...!
“ศาสนจักร” ชาติไทยวันนี้... ต้องมีการปฏิรูปองค์กรและวงการพระสงฆ์โดยด่วนที่สุด!
“ราชอาณาจักร” ชาติไทยวันนี้... ต้องมีการปฏิรูปทุกภาคส่วนโดยเร็วที่สุด!
“ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน-ก่อนเลือกตั้ง” เป็นความชอบธรรมที่ “บิ๊กตู่” ต้องเร่งทำเพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาชน จะได้เจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคงถาวรไงล่ะ!
ปี 2560 หลายคนบอกว่า ถ้า “นายกฯ ตู่” ยังไม่ “ปฏิรูปชาติ” อย่างจริงจัง...ก็เริ่มต้นนับถอยหลังได้เลย!
นักการเมืองชั่วต่างหาก-คือ-ต้นเหตุทำลายประชาธิปไตย! ทั้งยังเป็นต้นเหตุรัฐประหารซ้ำซากอีกด้วย!
เห็นได้ชัดในยุครัฐบาล “เหลี่ยม” กับเครือข่ายที่โกงเลือกตั้งเข้ายึดรัฐสภาและรัฐบาล ใช้อำนาจรัฐปล้นชาติและล้มเจ้า จน “เหลี่ยม” กับพวกเป็นภัยร้ายแรงต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ตราบทุกวันนี้
นั่นทำให้รัฐบาล “เครือข่ายเหลี่ยม” ถูกชาวไทยชุมนุมขับไล่อย่างต่อเนื่อง จนรัฐบาล “ชั่วโดยสันดาน” และ “โลภมิรู้จักพอ” ถูกกองทัพทำรัฐประหารโค่นล้มลง
ทว่า...รัฐประหารครั้งแรก “ผู้นำกองทัพ” และ “ผู้นำรัฐบาลทหาร” นอกจากไม่ได้ลงโทษกลุ่มนักการเมืองชั่วอย่างจริงจังแล้ว ยังกลับ “มองโลกสวย” จนไม่ได้กีดกันกลุ่มคนชั่วให้พ้นไปจากการเมืองไทยอีกด้วย
เพราะปล่อยให้นักการเมืองชั่วกลุ่ม “เหลี่ยม” ลงสนามเลือกตั้งกันเป็นทิวแถว มีการทุ่มเงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร จน “เหลี่ยม” กับเครือข่าย กลับมายึดอำนาจรัฐโกงชาติได้อีกครา
ทำให้ชาวไทยผู้รักชาติ ต้องออกมาชุมนุมขับไล่เครือข่ายรัฐบาลชั่ว “เหลี่ยม” อีกครั้ง ตามด้วยกองทัพไทยก็ต้องทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลทุนสามานย์เป็นคำรบสอง
มาดูกันว่า...สิบกว่าปีภายใต้รัฐบาลทุนสามานย์ เครือข่าย “เหลี่ยม” ก่อเรื่องฉกรรจ์อะไรบ้าง...?
เหลี่ยมเชี่ยวชาญ-การใช้เงินและโกงการเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐ! เชี่ยวชาญ-การใช้อำนาจรัฐโกงชาติและกลั่นแกล้งฝ่ายตรงกันข้าม! เชี่ยวชาญ-การใช้เงินสกปรกและตำแหน่งซื้อผู้คน และใช้ผลประโยชน์ชาติประเคนให้กลุ่มทุนสามานย์ชาติตะวันตก ให้สนับสนุนการทำชั่วของพวกตน
เหลี่ยมล้มเจ้า-เพราะเชื่อว่า...หากชาติไทยไร้ “สถาบันกษัตริย์” กลุ่มทุนสามานย์ “เหลี่ยม” จะได้สร้างรัฐไทยใหม่ ที่มี “ประธานาธิบดีเป็นประมุข” แบบชาติตะวันตก เพื่อการปล้นชาติของทุนสามานย์ไทยและต่างชาติ จะได้สะดวกดายและมั่นคงในระยะยาว
เหลี่ยมยึดสังฆราช-เพราะรู้ว่า “ศาสนจักร” ในชาติไทย มีพระหย่อนธรรมวินัยและพระปลอมมิใช่น้อย เป็นขบวนการ “มารศาสนา” ในคราบผ้าเหลือง เที่ยวหลอกลวงเงินทองชาวพุทธ ที่ไม่รู้ทันในคำสอน “พุทธเทียมผสมพุทธพาณิชย์” เช่น
“ทำบุญแล้วรวย!” ทำชั่วขนาดไหนก็ “หนีนรกไปขึ้นสวรรค์” ได้ด้วย “เงิน!” แต่สูตร “ทำบุญหนีนรกไปขึ้นสวรรค์” เนี่ย จะชัวร์ป้าบถ้าญาติโยมทำบุญที่ “วัดไชโยจานบินนะจ๊ะ!”
วัดมิใช่วัด-พระมิใช่พระ-คำสอนมิใช่พุทธแท้! ทำให้ “โจรผ้าเหลือง” ร่ำรวยกันเละเทะ บางรายยังมีการตั้ง “สหกรณ์การเงิน” ให้ชาวพุทธกู้ทำบุญ อีกทั้งใช้เป็นแหล่งฟอกเงินและรับของโจร บริการแก่พระหย่อนวินัยและพระปลอม รวมทั้งญาติโยมเครือข่ายเศรษฐีทั้งหลายอีกด้วย
ขบวนการ “มารศาสนาในคราบพระ” ยังสร้างอิทธิพลด้วยการใช้เงินซื้อตัว “พระบิ๊กเบิ้ม” กับพระใหญ่น้อยมาเป็นพรรคพวก เพื่อหวังจะตั้งพระสังฆราชของพวกตน โดยมีกลุ่มการเมืองให้การสนับสนุน ด้วยหวังจะใช้องค์กรสงฆ์และพระสงฆ์ เป็น “กองเชียร์” และ “หัวคะแนน” ยามมีการเลือกตั้งนั่นเอง
ส่วนพระหย่อนวินัยและพระปลอมทั่วราชอาณาจักร ก็หวังเกาะ “พระสังฆราชของพวกตน” แอบเข้าไปยึดอำนาจใหญ่น้อยใน “ศาสนจักร” เพื่อหากินกับเงินวัด-ที่ดินวัด-สมบัติวัด ฯลฯ รวมทั้งรับการแต่งตั้งสมณศักดิ์
งานนี้...นักการเมืองกลุ่มทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ได้สมคบกับพระหย่อนวินัยและพระปลอม พยายามจะกินรวบอำนาจทั้ง “ราชอาณาจักร” และ “ศาสนจักร” ให้ได้
ขณะที่ “อดีตพระสังฆราช สมเด็จญาณสังวรฯ” ยังมีพระชนมชีพ แต่ “รัฐบาลเหลี่ยม” ใช่ไหม...ที่ใช้อำนาจรัฐตั้ง “ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนพระสังฆราช” ขึ้นมาแบบดื้อๆ
เรื่องยังบานปลายต่อเนื่องมาจนถึง “องค์กรพระบิ๊กเบิ้ม” ผู้แต่งตั้งพระสังฆราช ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ ปี 2535 ดันทุรังจะแต่งตั้งให้ “พระบิ๊กเบิ้มผู้เปื้อนมลทิน” ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ขึ้นเป็นพระสังฆราช โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของชาวพุทธ
โดยกลุ่มพระหย่อนวินัย-พระปลอม-แกนนำแก๊งแดง-นักการเมืองชั่ว ที่มีส่วนได้เสียกับการแต่งตั้งพระสังฆราชในครั้งนี้ ล้วนไม่เคยแยแสแม้แต่น้อย ว่าการมีพระสังฆราชที่ด่างพร้อย จะส่งผลให้วงการสงฆ์และพุทธศาสนา ต้องเสื่อมเสียและเสื่อมศรัทธาอย่างรุนแรง
“องค์กรพระบิ๊กเบิ้ม” ได้อำนาจอันยิ่งใหญ่ ตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2535 แต่กลับใช้อำนาจอย่างไม่รับผิดชอบ ด้วยการเสนอตั้งพระสังฆราชที่พัวพันกับคดีอาญา... ขืนปล่อยให้อำนาจนี้อยู่ในกำมือต่อไป ย่อมมีโอกาสจะนำความเสียหายใหญ่หลวง มาสู่ชาวพุทธทั้งปัจจุบันและอนาคต
งานนี้ “สนช.” จึงตัดสินใจแก้กฎหมายยกเลิกอำนาจ “องค์กรพระบิ๊กเบิ้ม” ในการตั้งพระสังฆราช โดยคืนพระราชอำนาจให้ “พระมหากษัตริย์” ทรงแต่งตั้ง “พระสังฆราช” ตามราชประเพณีโบราณและตามกฎหมายในอดีต
ชาวพุทธที่แท้จริงรู้อยู่แก่ใจว่า พุทธศาสนา-ไม่มีปัญหา! “มารศาสนา” ในคราบ “พระสงฆ์” ต่างหาก คือ ต้นเหตุอันเลวร้ายของพุทธศาสนาในชาติไทย...!
“ศาสนจักร” ชาติไทยวันนี้... ต้องมีการปฏิรูปองค์กรและวงการพระสงฆ์โดยด่วนที่สุด!
“ราชอาณาจักร” ชาติไทยวันนี้... ต้องมีการปฏิรูปทุกภาคส่วนโดยเร็วที่สุด!
“ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน-ก่อนเลือกตั้ง” เป็นความชอบธรรมที่ “บิ๊กตู่” ต้องเร่งทำเพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์และประชาชน จะได้เจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคงถาวรไงล่ะ!
ปี 2560 หลายคนบอกว่า ถ้า “นายกฯ ตู่” ยังไม่ “ปฏิรูปชาติ” อย่างจริงจัง...ก็เริ่มต้นนับถอยหลังได้เลย!