ตุรกีสุดเศร้าสลดต้อนรับปีใหม่ มือปืนซึ่งแต่งกายด้วยชุดซานตาคลอส บุกกราดยิงไนต์คลับหรูในนครอิสตันบูล ในคืนขึ้นปีใหม่ ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 40 ราย (1 ม.ค.) โดยเกือบครึ่งหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ ขณะที่มือปืนยังลอยนวล
เจ้าหน้าที่ตุรกีเผยว่า มือปืนได้ยิงสังหารตำรวจ 1 นาย และพลเรือนอีก 1 คน ตรงประตูทางเข้าไนต์คลับ“ไรนา”(Reina)ซึ่งเป็นสถานบันเทิงหรูหราอันดับต้นๆของอิสตันบูล จากนั้นจึงเข้าไปกราดยิงนักเที่ยวที่อยู่ภายใน
สุเลย์มาน ซอยลู รัฐมนตรีมหาดไทยตุรกี ระบุว่า มือปืนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ และตำรวจกำลังเร่งติดตามล่าตัวโดยเชื่อว่าจะสามารถจับกุมได้ในอีกไม่ช้า
เบื้องต้น ทางการสามารถระบุชื่อผู้เสียชีวิตได้แล้ว 20 ราย เป็นชาวต่างชาติ 15 รายและชาวตุรกี 5 ราย และยังมีผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 69 คน
วาซิป ซาฮีน ผู้ว่าการนครอิสตันบูล ซึ่งได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณช่องแคบบอสพอรัส ระบุว่า "มือปืนจงใจสังหารผู้บริสุทธิ์อย่างป่าเถื่อนและไร้ความปรานี ทั้งที่พวกเขามาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลอง และมีความสุขกันในวันขึ้นปีใหม่เท่านั้น"
สถานีโทรทัศน์ NTVรายงานว่า นักเที่ยวหลายคนถึงกับกระโดดหนีลงไปในทะเลด้วยความตกใจกลัว และหน่วยกู้ภัยต้องช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ขึ้นมาจากน้ำ
ในเบื้องต้นสำนักข่าวโดกันรายงานว่า มีมือปืนแต่งกายชุดซานตาคลอสร่วมกันก่อเหตุอย่างน้อย 2 คน แต่ข้อมูลนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ ขณะที่รัฐมนตรี ซอยลู ได้แถลงล่าสุดว่า มือปืนมีเพียงคนเดียว
เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น (5.30 น. ตามเวลาในไทย) หลังย่างเข้าสู่ปี 2017 ได้เพียงชั่วโมงเศษๆ โดยภาพจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยให้เห็นบรรดานักเที่ยวซึ่งมีทั้งชายและหญิงที่สวมสูทและชุดราตรีสำหรับงานค็อกเทล วิ่งออกมาจากไนต์คลับด้วยท่าทางตื่นตระหนก
ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่โดกันนิวส์อ้างข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งระบุว่าคนร้าย“พูดภาษาอาหรับ”
ล่าสุด ยอดเหยื่อกราดยิงไนต์คลับตุรกีพุ่ง 40 ศพ ส่วน“มือปืน”ยังหนีลอยนวล
รูปแบบการโจมตีเช่นนี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2015 เมื่อนักรบที่สวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ก่อเหตุกราดยิงและใช้ระเบิดโจมตีพร้อมกันหลายจุดในกรุงปารีส จนมีผู้เสียชีวิตรวมกันถึง 130 คน เฉพาะที่โรงคอนเสิร์ตบาตากล็อง ก็มีคนถูกสังหารไปมากถึง 90 คน
ทางการตุรกีได้ระดมตำรวจอย่างน้อย 17,000 นายรักษาความสงบเรียบร้อยในนครอิสตันบูลช่วงปีใหม่ โดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นระบุว่า ตำรวจบางนายก็แต่งกายด้วยชุดซานตาคลอสเพื่อปกปิดฐานะ
สำนักข่าวโดกันรายงานว่า ขณะเกิดเหตุน่าจะมีนักเที่ยวอยู่ภายในไนต์คลับไรนาประมาณ 700 คน โดยคลับแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตออร์ตากอย ซึ่งเป็นย่านเศรษฐีมีเงิน และเป็นที่รู้กันว่าพนักงานคุมร้านจะอนุญาตให้เฉพาะนักเที่ยวที่แต่งกายดีที่สุดเข้าไปใช้บริการเท่านั้น
รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เบกีร์ บอซดัก ได้ทวีตข้อความว่า “การก่อการร้ายไม่อาจทำลายเอกภาพหรือความเป็นพี่เป็นน้องในสังคมของพวกเรา และไม่อาจบั่นทอนการปราบปรามลัทธิก่อการร้ายอันมีประสิทธิภาพของรัฐบาลตุรกี”
ด้านสำนักงานกิจการศาสนา“ดิยาเน็ต”ของตุรกีก็ได้ประณามผู้ก่อเหตุ โดยชี้ว่าการสังหารผู้คนในสถานบันเทิง“ไม่แตกต่างจากการโจมตีตลาด หรือศาสนสถาน”
ตุรกียังคงเผชิญความปั่นป่วนจากความพยายามก่อรัฐประหารเมื่อเดือนก.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน อ้างว่าเกิดจากใบสั่งของ เฟตฮุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาผู้ทรงอิทธิพลซึ่งลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ
ขณะที่ ทำเนียบขาวแถลงประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นพฤติกรรม“ป่าเถื่อน”ขณะที่โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยืนยันว่าวอชิงตันพร้อมที่จะให้การสนับสนุนตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรนาโต“ด้วยความมุ่งมั่นที่เรามีร่วมกันในการต่อต้านและขจัดลัทธิก่อการร้ายทุกรูปแบบ”
สถานทูตสหรัฐฯ ประกาศเตือนพลเมืองอเมริกันในตุรกีให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจาก"กลุ่มหัวรุนแรงยังคงพยายามก่อเหตุโจมตีสถานที่ซึ่งมีชาวอเมริกันและชาวต่างชาติอาศัยอยู่"
เจ้าหน้าที่ตุรกีเผยว่า มือปืนได้ยิงสังหารตำรวจ 1 นาย และพลเรือนอีก 1 คน ตรงประตูทางเข้าไนต์คลับ“ไรนา”(Reina)ซึ่งเป็นสถานบันเทิงหรูหราอันดับต้นๆของอิสตันบูล จากนั้นจึงเข้าไปกราดยิงนักเที่ยวที่อยู่ภายใน
สุเลย์มาน ซอยลู รัฐมนตรีมหาดไทยตุรกี ระบุว่า มือปืนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ และตำรวจกำลังเร่งติดตามล่าตัวโดยเชื่อว่าจะสามารถจับกุมได้ในอีกไม่ช้า
เบื้องต้น ทางการสามารถระบุชื่อผู้เสียชีวิตได้แล้ว 20 ราย เป็นชาวต่างชาติ 15 รายและชาวตุรกี 5 ราย และยังมีผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 69 คน
วาซิป ซาฮีน ผู้ว่าการนครอิสตันบูล ซึ่งได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณช่องแคบบอสพอรัส ระบุว่า "มือปืนจงใจสังหารผู้บริสุทธิ์อย่างป่าเถื่อนและไร้ความปรานี ทั้งที่พวกเขามาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลอง และมีความสุขกันในวันขึ้นปีใหม่เท่านั้น"
สถานีโทรทัศน์ NTVรายงานว่า นักเที่ยวหลายคนถึงกับกระโดดหนีลงไปในทะเลด้วยความตกใจกลัว และหน่วยกู้ภัยต้องช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ขึ้นมาจากน้ำ
ในเบื้องต้นสำนักข่าวโดกันรายงานว่า มีมือปืนแต่งกายชุดซานตาคลอสร่วมกันก่อเหตุอย่างน้อย 2 คน แต่ข้อมูลนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ ขณะที่รัฐมนตรี ซอยลู ได้แถลงล่าสุดว่า มือปืนมีเพียงคนเดียว
เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น (5.30 น. ตามเวลาในไทย) หลังย่างเข้าสู่ปี 2017 ได้เพียงชั่วโมงเศษๆ โดยภาพจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยให้เห็นบรรดานักเที่ยวซึ่งมีทั้งชายและหญิงที่สวมสูทและชุดราตรีสำหรับงานค็อกเทล วิ่งออกมาจากไนต์คลับด้วยท่าทางตื่นตระหนก
ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่โดกันนิวส์อ้างข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งระบุว่าคนร้าย“พูดภาษาอาหรับ”
ล่าสุด ยอดเหยื่อกราดยิงไนต์คลับตุรกีพุ่ง 40 ศพ ส่วน“มือปืน”ยังหนีลอยนวล
รูปแบบการโจมตีเช่นนี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย.ปี 2015 เมื่อนักรบที่สวามิภักดิ์ต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ก่อเหตุกราดยิงและใช้ระเบิดโจมตีพร้อมกันหลายจุดในกรุงปารีส จนมีผู้เสียชีวิตรวมกันถึง 130 คน เฉพาะที่โรงคอนเสิร์ตบาตากล็อง ก็มีคนถูกสังหารไปมากถึง 90 คน
ทางการตุรกีได้ระดมตำรวจอย่างน้อย 17,000 นายรักษาความสงบเรียบร้อยในนครอิสตันบูลช่วงปีใหม่ โดยสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นระบุว่า ตำรวจบางนายก็แต่งกายด้วยชุดซานตาคลอสเพื่อปกปิดฐานะ
สำนักข่าวโดกันรายงานว่า ขณะเกิดเหตุน่าจะมีนักเที่ยวอยู่ภายในไนต์คลับไรนาประมาณ 700 คน โดยคลับแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตออร์ตากอย ซึ่งเป็นย่านเศรษฐีมีเงิน และเป็นที่รู้กันว่าพนักงานคุมร้านจะอนุญาตให้เฉพาะนักเที่ยวที่แต่งกายดีที่สุดเข้าไปใช้บริการเท่านั้น
รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เบกีร์ บอซดัก ได้ทวีตข้อความว่า “การก่อการร้ายไม่อาจทำลายเอกภาพหรือความเป็นพี่เป็นน้องในสังคมของพวกเรา และไม่อาจบั่นทอนการปราบปรามลัทธิก่อการร้ายอันมีประสิทธิภาพของรัฐบาลตุรกี”
ด้านสำนักงานกิจการศาสนา“ดิยาเน็ต”ของตุรกีก็ได้ประณามผู้ก่อเหตุ โดยชี้ว่าการสังหารผู้คนในสถานบันเทิง“ไม่แตกต่างจากการโจมตีตลาด หรือศาสนสถาน”
ตุรกียังคงเผชิญความปั่นป่วนจากความพยายามก่อรัฐประหารเมื่อเดือนก.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน อ้างว่าเกิดจากใบสั่งของ เฟตฮุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาผู้ทรงอิทธิพลซึ่งลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ
ขณะที่ ทำเนียบขาวแถลงประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นพฤติกรรม“ป่าเถื่อน”ขณะที่โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ยืนยันว่าวอชิงตันพร้อมที่จะให้การสนับสนุนตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรนาโต“ด้วยความมุ่งมั่นที่เรามีร่วมกันในการต่อต้านและขจัดลัทธิก่อการร้ายทุกรูปแบบ”
สถานทูตสหรัฐฯ ประกาศเตือนพลเมืองอเมริกันในตุรกีให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจาก"กลุ่มหัวรุนแรงยังคงพยายามก่อเหตุโจมตีสถานที่ซึ่งมีชาวอเมริกันและชาวต่างชาติอาศัยอยู่"