คนสนิท “ปูติน” เชื่อ “นาโต” บงการฆ่าโหดเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี

เดลิสตาร์/รอยเตอร์ - นักการเมืองคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในวันอังคาร (20 ธ.ค.) เชื่อว่าเหตุจ่อยิงสังหารโหดเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ที่งานแสดงศิลปะในกรุงอังการาเมื่อวันจันทร์ (19 ธ.ค.) เป็นบัญชาขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

อันเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ถูกตำรวจนอกหน้าที่จ่อยิงจากด้านหลัง 8 นัด ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ที่นิทรรศการศิลปะในกรุงอังการา โดยมือปืนคนดังกล่าวตะโกนคำว่า “อัลลอฮุอักบัร (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่)” ตามด้วย “อย่าลืมอะเลปโป อย่าลืมซีเรีย! พวกที่มีส่วนร่วมกับการกดขี่นี้จะต้องรับผิดชอบ” ก่อนที่เขาจะถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิสามัญ

อย่างไรก็ตาม ฟรานซ์ คลินเซวิช วุฒิสภาอาวุโสของรัสเซีย มองว่าการโจมตีดังกล่าวไม่ได้มาจากพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) หรือกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ “มันเป็นการลงมือที่มีการวางแผนมาอย่างดี ทุกคนรู้ว่าเขากำลังไปร่วมนิทรรศการภาพถ่าย”

“บางที และมีความเป็นไปได้อย่างสูง ว่าตัวแทนของหน่วยลับนาโตอยู่เบื้องหลังมัน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการยั่วยุอย่างแท้จริง มันคือท้าทายรัสเซีย” เขาให้ความเห็น

ปูติน ขัดแย้งกับนาโตหลายต่อหลายครั้ง หลังจากส่งอาวุธนิวเคลียร์เข้าประจำการตามแนวชายแดนติดกับประเทศต่างๆในแถบบอลติก โดยนาโตประกาศจะตอบโต้ หากว่า ปูติน สั่งการโจมตีทางนิวเคลียร์ต่อเหล่าชาติสมาชิกของกลุ่ม

ตามหลังเหตุโจมตีเมื่อวันจันทร์ (19 ธ.ค.) กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ประกาศกระชับจุดยืนของพวกเขาในประเด็นซีเรียและก่อการร้าย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มี 6 คนที่ถูกตำรวจตุรกีควบคุมตัวตามหลังเหตุลอบสังหารคาร์ลอฟ ในนั้นรวมถึงพ่อ แม่ พี่สาวและญาติของเมฟลุต เมิร์ต อัลตินตาส ตำรวจอังการาที่เป็นคนลงมือฆ่าโหดเอกอัครราชทูตรัสเซีย ทั้งนี้อัลตินตาส วัย 22 ปี รับราชการเป็นตำรวจปราบจลาจลมานาน 2 ปีครึ่ง

แม้มีคำกล่าวหาจากนักการเมืองว่านาโตบงการเรื่องนี้ แต่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับอาวุโสของตุรกีรายหนึ่งเผยว่าคณะสืบสวนกำลังพุ่งเป้าตรวจสอบว่าอิลตินตาส มีความเชื่อมโยงกับ เฟตตุลเลาะห์ กุลเลน นักการศาสนาคนดังที่พำนักอยู่ในสหรัฐฯ หรือไม่ ขณะที่นักการศาสนารายนี้ถูกอังการากล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อเดือนกรกฎาคม

กูเลน ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับความพยายามก่อรัฐประหารโค่นล้มประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน เช่นเดียวกับเหตุสังหารโหดเอกอัครราชทูตรัสเซีย และได้ออกคำแถลงประณามทั้งสองกรณี

ในอีกด้านหนึ่ง ตุรกีเองก็เผชิญกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงจากพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยก่อนหน้านี้โฆษกของพวกมุสลิมหัวรุนแรงสุหนี่กลุ่มนี้ เรียกร้องสมุนทั่วโลกดำเนินการโจมตีใหม่ๆ โดยล็อกเป้าเหล่าเจ้าหน้าที่ด้านการทูตและการทหารในตุรกี เช่นเดียวกับผลประโยชน์ด้านการเงินเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ