xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำตุรกีรุดสายตรงถึง “ปูติน” หลังเหตุจ่อยิงฆ่าทูตรัสเซียอุกอาจ จนท.ชี้อาจเป็นฝีมือสมุนนักการศาสนาที่ลี้ภัยในสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี รุดต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ไม่นานหลังเกิดเหตุเอกอัครราชทูตแดนหมีขาว ถูกคนร้ายจ่อยิงเสียชีวิตกลางนิทรรศการภาพในกรุงอังการา เมื่อวันจันทร์ (19 ธ.ค.) โดยผู้นำทั้งสองเชื่อเป็นความพยายามกัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยการสืบสวนเล็งเป้าไปที่เครือข่ายของนักการศาสนาคนดังที่พำนักอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งทางตุรกีกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามรัฐประหารที่ล้มเหลว

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของตุรกี เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีแอร์โดอันติดต่อไปยังผู้นำรัสเซีย เพื่อสรุปสถานการณ์ให้ทราบถึงกรณี อังเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตแดนหมีขาว ถูกคนร้ายจ่อยิงอย่างอุกอาจ เสียชีวิตขณะกำลังกล่าวสุนทรพจน์ภายในนิทรรศการภาพหนึ่งในกรุงอังการา

ในเวลาต่อมา แอร์โดอัน เปิดเผยว่า เขาเห็นพ้องทางโทรศัพท์กับปูติน ว่า ความร่วมมือและเป็นอันหนึ่งเดียวกันในการต่อสู้กับก่อการร้ายจะต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังเกิดเหตุฆ่าเอกอัครราชทูตรัสเซียในตุรกี ขณะที่เขาระบุชัดเจนว่า เหตุสังหารครั้งนี้มีเป้าหมาย คือ กัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างอังการาและมอสโก ในช่วงเวลาแห่งปกติสุข

เช่นเดียวกัน ปูติน ที่มีความเห็นสอดคล้องกัน โดยบอกว่า เหตุการณ์สังหารทูตรัสเซีย เป็นการยั่วยุและมีเป้าหมายพยายามลอบทำลายความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและตุรกี และขัดขวางความพยายามของมอสโกในการหาทางออกวิกฤตซีเรียร่วมกับอิหร่านและตุรกี

ปูติน พูดกับที่ประชุมพิเศษในเครมลิน ออกคำสั่งให้ยกระดับรักษาความปลอดภัย ณ สถานทูตรัสเซียทั่วโลกและบอกว่าเขาต้องการรู้ว่าใครเป็นคนบัญชามือปืนรายดังกล่าว

แม้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับอาวุโสของตุรกีรายหนึ่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ กล่าวหาว่ามือปืนผู้ก่อเหตุ เป็นเครือข่ายของ นายเฟตตุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาที่ลี้ภัยในสหรัฐฯ ที่ทางอังการากล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังความพยายามที่ล้มเหลวในเดือนกรกฎาคม “การสืบสวนในเวลานี้พุ่งเป้าไปการเชื่อมโยงของมือปืนกับเครือข่ายเฟตตุลเลาะห์ กูเลน”

เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี มีกำหนดพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และอิหร่าน ในรัสเซียวันอังคาร (20 ธ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย และพวกเจ้าหน้าที่เผยว่าการประชุมจะเดินหน้าต่อไป แม้เกิดเหตุโจมตีก็ตาม

ด้าน กระทรวงการต่างประเทศตุรกี ออกถ้อยแถลงระบุว่า จะไม่ยอมให้เหตุโจมตีครั้งนี้ บดบังความสัมพันธ์ระหว่างอังการา และมอสโก “การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ดีเลย เมื่อเร็วๆ นี้ มอสโกกับอังการาเพิ่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต หลังตุรกียิงเครื่องบินรัสเซียตกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2015” สถาบันวิจันแตรทฟอร์ ระบุ “แม้การโจมตีจะทำความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายตึงเครียด แต่ดูเหมือนจะไม่ถึงขั้นทำให้แตกแยกกัน”

สำนักข่าวอนาโดลู รายงานว่า มือปืนถูกวิสามัญราว 15 นาทีหลังจากก่อเหตุ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าคนร้ายแต่งตัวดูดีในชุดสูทสีดำผูกเนคไท และยืนอยู่ข้างหลังเอกอัครราชทูต ระหว่างที่เขากำลังกล่าวสุนทรพจน์เปิดนิทรรศการภาพถ่ายของรัสเซีย

หลังจากถูกยิง เอกอัครราชทูตล้มตึงลงนอนหงายรวยรินอยู่บนฟื้น ขณะที่มือโจมตีกวัดแกว่งปืนเข้าใส่ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ และในวิดีโอหนึ่งได้ยินคนร้ายตะโกนคำว่า “อัลลอฮุอักบัร (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่” จากนั้นก็พูดพร่ำเกี่ยวกับการประกาศสวามิภักดิ์ต่อพวกญิฮาดในอาหรับ ก่อนตะโกนว่า “อย่าลืมอะเลปโป อย่าลืมซีเรีย! พวกที่มีส่วนร่วมกับการกดขี่นี้จะต้องรับผิดชอบ”

นายกเทศมนตรีอังการา ระบุว่า มือโจมตีเป็นตำรวจตุรกี ส่วนหนังสือพิมพ์เยนี ซาฟัค รายงานบนเว็บไซต์ว่าคนร้ายชื่อย่อว่า “เอ็ม.เอ็ม.เอ” ทำงานประจำตำรวจปราบจลาจลในอังการา

เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นไม่กี่วัน หลังมีการประท้วงในตุรกี เพื่อต่อต้านบทบาทของรัสเซียในซีเรีย แม้ว่าปัจจุบันมอสโกและอังการา หันมาทำงานกันใกล้ชิด เพื่ออพยพพลเรือนออกจากอเลปโป ที่เสียหายย่อยยับจากสงคราม

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งประสานงานทางการทูตกับรัสเซีย ในความพยายามคลี่คลายวิฤตผู้อพยพที่เกิดขึ้นรอบๆ เมืองอะเลปโป รุดแถลงประณามเหตุฆ่าเอกอัครราชทูตในทันที อย่างไรก็ตามพวกเขาปฏิเสธคาดเดาว่าใครอยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้

รัสเซียเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพวกเขามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือกองกำลังรัฐบาลซีเรียสยบการขัดขืนของพวกกบฏในทางเหนือของเมืองอเลปโปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ส่วนวอชิงตันเคยเตือนมอสโก ว่า การสนับสนุนรัฐบาลของอัสซาด เสี่ยงจะทำลายรากฐานของกบฏสายกลางและกลายเป็นแรงสนับสนุนแก่พวกหัวรุนแรง

ตุรกี และรัสเซีย พบเห็นความสัมพันธ์ของพวกเขาดำดิ่งสู่ระดับเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็นเมื่อปีที่แล้ว เมื่อเครื่องบินขับไล่ตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตกตามแนวชายแดนซีเรีย ขณะที่สองชาติให้การสนับสนุนคนละฟากฝั่งสงครามซีเรีย

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติอบอุ่นขึ้น นับตั้งแต่มีข้อตกลงปรองดองที่ลงนามในปีนี้ และรัสเซียกับตุรกีเป็นคนกลางของข้อตกลงที่ช่วยอพยพพลเรือนออกจากอเลปโปช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น