ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลอนุมติ หมายจับ3แกนนำ “อุลตร้า ไทยแลนด์” 8บุคคลตามภาพถ่าย พร้อมออกหมายเรียก14รายให้ปากคำ “ศานิตย์” ชี้ไม่มาตามหมายเรียกโดนคุก 3 เดือน ด้านแกนนำอุลต้าฯ ขอเลื่อนให้ปากคำวันนี้ ล่าสุด สน.หัวหมากบุกจับร้านค้าจำหน่ายพลุแฟลร์ย่านบางนา ยืดพลุแฟลร์กว่า 1,950 อันดำเนินคดีข้อหายุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แจงโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีแฟนบอลกลุ่มอุลต้าไทยแลนด์ ได้จุดพลุแฟลร์ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน นัดชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติไทยพบอินโดนีเซีย ในศึกบอลซูซูกิคัพ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่แฟนบอลคนอื่นๆ รวมทั้งส่งผลให้ทีมชาติไทยอาจถูกลงโทษจากฟีฟ่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2559 ได้มีพยานเดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีก1ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และคำให้การของพยานเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยภายหลังเดินทางไป สน.หัวหมาก ว่าได้เชิญตัว นายวรพล เสริมสกุล ชาว จ.ลำปาง ผู้ขายพลุแฟร์ออนไลน์ให้กับกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ เข้าให้ปากคำ ซึ่ง“นายวรพล”ได้เดินทางมากพร้อมกับทนายเพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร ในเบื้องต้นเจ้าตัวรับว่า เป็นผู้จำหน่ายพลุดังกล่าวทางออนไลน์ให้กับกลุ่มที่มาจุดในราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งทางนายวรพล ยืนยันว่าจำหน่ายอยู่ที่ จ.ลำปาง ทั้งนี้ ความคืบหน้าของคดี ถือว่าคืบหน้าไปอีกระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องของงานสอบสวน เข้าใจว่าอยู่ระหว่างการเอาคำร้องไปยื่นขอให้ศาลออกหมายจับ แต่จะออกหมายจับใครบ้างขออนุญาตยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน
ด้าน พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังจะดำเนินการออกหมายจับตามภาพ จำนวน 9 ราย ที่ศาลอาญารัชดา และแกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์อีกราว 3-4 รายในความผิดข้อหานำเข้ามา ผลิตและมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาขัดขวางข่มเหงเจ้าพนักงานไม่ให้เข้าไปปฎิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันยังมีการออกหมายเรียกเพิ่มอีก 10 ราย เพื่อให้มาเป็นพยาน ในส่วนของนายประพจน์ ปานโพธิ์ทอง แกนนำกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ ทางทนายความของนายประพจน์ ได้ติดต่อมาว่าจะเดินทางเข้ามาที่ สน.หัวหมากแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ใช้ประกอบของหมายเรียกนั้นมีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิด จึงขอความร่วมมือผู้ที่ถูกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวน มิเช่นนั้นจะมีความผิดฐานขัดหมายเรียก มีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน
*** สน.หัวหมากยึดพลุร่วม 2 พันอัน
ต่อมาในช่วงค่ำของวันที่ 21 ธ.ค. 59 สน.หัวหมาก พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อม พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.ศุภชัจจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน บก.สส.บก.น.4 ฝ่าย และสืบสวน สน.หัวหมาก เร่งติดตามคดีที่แฟนบอลไทยจุดพลุแฟลร์ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซูซูกิคัพ ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน พร้อมนำกำลังบุกยืดพลุแฟลร์ จำนวนกว่า 1,950 อัน มาจากย่านเชียงกง บางนา หลังทราบว่าเป็นร้านที่ขายให้กับกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำงานกันอยู่ตลอดเวลา และได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่เราวางแผนกันเอาไว้ซึ่งได้ไปตรวจค้นร้านที่จำหน่ายพลุแฟลร์ให้กับกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ผลการตรวจต้นเราพบพลุแฟลร์ หรือพลุส่องสว่างที่ปรากฏอยู่ในภาพในวันที่ 17 ธ.ค.ซึ่งพลุเหล่านั้นมาจากร้านดังกล่าวทั้งสิ้น วันนี้สามารถยืดได้ 1,950 อันและก็มีการจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นผู้จำหน่ายพลุดังกล่าวให้กับกลุ่มที่ไปจุดที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาไว้ว่านำเข้ามา สั่งเข้ามา ผลิตมีซึ่ง ยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนบ้างแล้วนั้น แต่ละรายให้การได้เป็นประโยชน์มาก ขณะที่นายประพจน์ ปานโพธิ์ทอง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ซอยลุงเริ่ม ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. แกนนำกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ มีการติดต่อเข้ามาเห็นว่าขอเลื่อนเป็นวันนี้ (23ธ.ค.59) แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ทั้งนี้ก็จะดำเนินการตามมาตราการ ทั้งหมดอยู่ระหว่างการทำงานของเจ้าหน้าที่และยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และได้แจ้งข้อหาต่อคนขายพลุแฟลร์แล้ว หากชุดจับกุมของ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยก็สามารถเปิดเผยรายชื่อได้เลย ส่วนแหล่งผลิตนั้นทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ามีที่ใดบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ที่จุดพลุแฟร์ในสนามราชมังคลากีฬาสถานแล้ว โดยเป็นบุคคลตามภาพถ่ายจำนวน 8 ราย แกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์อีก 3 ราย รวม 11 ราย ในข้อหาในความผิดข้อหานำเข้ามา ผลิตและมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม โดยข้อหานี้มีอัตราโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาขัดขวางข่มเหงเจ้าพนักงานไม่ให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ และพนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียกบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องอีก 14 ราย เข้ามาให้ปากคำในวันนี้ (23 ธ.ค.)นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีแฟนบอลกลุ่มอุลต้าไทยแลนด์ ได้จุดพลุแฟลร์ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน นัดชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติไทยพบอินโดนีเซีย ในศึกบอลซูซูกิคัพ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่แฟนบอลคนอื่นๆ รวมทั้งส่งผลให้ทีมชาติไทยอาจถูกลงโทษจากฟีฟ่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2559 ได้มีพยานเดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีก1ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และคำให้การของพยานเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยภายหลังเดินทางไป สน.หัวหมาก ว่าได้เชิญตัว นายวรพล เสริมสกุล ชาว จ.ลำปาง ผู้ขายพลุแฟร์ออนไลน์ให้กับกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ เข้าให้ปากคำ ซึ่ง“นายวรพล”ได้เดินทางมากพร้อมกับทนายเพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร ในเบื้องต้นเจ้าตัวรับว่า เป็นผู้จำหน่ายพลุดังกล่าวทางออนไลน์ให้กับกลุ่มที่มาจุดในราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งทางนายวรพล ยืนยันว่าจำหน่ายอยู่ที่ จ.ลำปาง ทั้งนี้ ความคืบหน้าของคดี ถือว่าคืบหน้าไปอีกระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องของงานสอบสวน เข้าใจว่าอยู่ระหว่างการเอาคำร้องไปยื่นขอให้ศาลออกหมายจับ แต่จะออกหมายจับใครบ้างขออนุญาตยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน
ด้าน พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังจะดำเนินการออกหมายจับตามภาพ จำนวน 9 ราย ที่ศาลอาญารัชดา และแกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์อีกราว 3-4 รายในความผิดข้อหานำเข้ามา ผลิตและมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาขัดขวางข่มเหงเจ้าพนักงานไม่ให้เข้าไปปฎิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันยังมีการออกหมายเรียกเพิ่มอีก 10 ราย เพื่อให้มาเป็นพยาน ในส่วนของนายประพจน์ ปานโพธิ์ทอง แกนนำกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ ทางทนายความของนายประพจน์ ได้ติดต่อมาว่าจะเดินทางเข้ามาที่ สน.หัวหมากแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ใช้ประกอบของหมายเรียกนั้นมีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิด จึงขอความร่วมมือผู้ที่ถูกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวน มิเช่นนั้นจะมีความผิดฐานขัดหมายเรียก มีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน
*** สน.หัวหมากยึดพลุร่วม 2 พันอัน
ต่อมาในช่วงค่ำของวันที่ 21 ธ.ค. 59 สน.หัวหมาก พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อม พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.ศุภชัจจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน บก.สส.บก.น.4 ฝ่าย และสืบสวน สน.หัวหมาก เร่งติดตามคดีที่แฟนบอลไทยจุดพลุแฟลร์ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซูซูกิคัพ ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน พร้อมนำกำลังบุกยืดพลุแฟลร์ จำนวนกว่า 1,950 อัน มาจากย่านเชียงกง บางนา หลังทราบว่าเป็นร้านที่ขายให้กับกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำงานกันอยู่ตลอดเวลา และได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่เราวางแผนกันเอาไว้ซึ่งได้ไปตรวจค้นร้านที่จำหน่ายพลุแฟลร์ให้กับกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ผลการตรวจต้นเราพบพลุแฟลร์ หรือพลุส่องสว่างที่ปรากฏอยู่ในภาพในวันที่ 17 ธ.ค.ซึ่งพลุเหล่านั้นมาจากร้านดังกล่าวทั้งสิ้น วันนี้สามารถยืดได้ 1,950 อันและก็มีการจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นผู้จำหน่ายพลุดังกล่าวให้กับกลุ่มที่ไปจุดที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาไว้ว่านำเข้ามา สั่งเข้ามา ผลิตมีซึ่ง ยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนบ้างแล้วนั้น แต่ละรายให้การได้เป็นประโยชน์มาก ขณะที่นายประพจน์ ปานโพธิ์ทอง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ซอยลุงเริ่ม ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. แกนนำกลุ่มอุลตร้า ไทยแลนด์ มีการติดต่อเข้ามาเห็นว่าขอเลื่อนเป็นวันนี้ (23ธ.ค.59) แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ทั้งนี้ก็จะดำเนินการตามมาตราการ ทั้งหมดอยู่ระหว่างการทำงานของเจ้าหน้าที่และยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และได้แจ้งข้อหาต่อคนขายพลุแฟลร์แล้ว หากชุดจับกุมของ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยก็สามารถเปิดเผยรายชื่อได้เลย ส่วนแหล่งผลิตนั้นทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ามีที่ใดบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ที่จุดพลุแฟร์ในสนามราชมังคลากีฬาสถานแล้ว โดยเป็นบุคคลตามภาพถ่ายจำนวน 8 ราย แกนนำกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์อีก 3 ราย รวม 11 ราย ในข้อหาในความผิดข้อหานำเข้ามา ผลิตและมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม โดยข้อหานี้มีอัตราโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาขัดขวางข่มเหงเจ้าพนักงานไม่ให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ และพนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียกบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องอีก 14 ราย เข้ามาให้ปากคำในวันนี้ (23 ธ.ค.)นี้