พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 เตรียมเข้าพบนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในกรณีแฟนบอล “อัลตรา ไทยแลนด์” จุดพลุแฟร์ในเกมซูซูกิ คัพ นัดชิงชนะเลิศ พร้อมยังเผยว่าพบประทัดบอลจำนวนหนึ่งบริเวณรอบสนามราชมังคลากีฬาสถาน
หลังจากที่แฟนบอลกลุ่ม “อัลตรา ไทยแลนด์” ได้ทำการจุดพลุแฟร์ทั้งนอกและระหว่างการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2016 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง โดยไทยสามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 3-2 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 18 ธันวาคม ที่ สน.หัวหมาก พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อม พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รอง ผบก.น.4, พ.ต.อ.ศุภชัจจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บกน.4, พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก เรียกประชุมชุดสืบสวน บก.สส.บกน.4 และฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก เพื่อเร่งติดตามคดีที่แฟนบอลไทยจุดพลุในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซูซูกิคัพ ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
โดยหลังจากการสืบสวนเสร็จ ทาง พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนตอนนี้พอจะทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มอุลตราไทยแลนด์ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นห่วงในเรื่องชื่อเสียงของประเทศ โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและเทียบเคียงภาพ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามมาตรา 397 เป็นความผิดลหุโทษ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท ในส่วนของการฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ถ้าไม่มีการยิงขึ้นฟ้าก็ไม่เข้าข่ายความผิด
“โดยภายใน 2 วันนี้ตนจะติดต่อขอเข้าพบนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อหามาตรการป้องกันและควบคุมแฟนบอลหัวรุนแรงไม่ให้ก่อเหตุในลักษณะนี้เกิดซ้ำอีก พร้อมฝากไปยังแฟนบอลที่มาเชียร์ให้เห็นแก่ภาพลักษณ์ของประเทศไทย”
นอกจากนี้ ทาง พล.ต.ต.นันทชาติ ได้กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบบริเวณรอบสนามแข่งขัน ได้พบประทัดบอลจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของกลุ่มใดนำมาซุกซ่อนไว้