ผู้จัดการรายวัน360-ผบ.ตร.เสียงแข็งกระบวนการของรัฐไม่ได้ล้มเหลว ปัดชะลอแผนนำกำลังเข้าค้นวัดธรรมกาย อ้างกลัวบุกแล้วสถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม พร้อมจี้ พศ. นำเคส "ธัมมชโย" เร่งปฏิรูป พ.ร.บ.สงฆ์ ด้านบรรยากาศรอบวัดยังปกติ lส่วน "องอาจ" ยังไม่ติดต่อขอมอบตัว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงการดำเนินการกับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีบุกรุกพื้นที่ป่าก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และทุจริตสหกรณ์ยูเนียนคลองจั่นว่า ขณะนี้ตำรวจไม่ได้ชะลอแผนการจับกุมพระธัมมชโย เพราะมีการดำเนินคดีอื่นๆ อยู่ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจเข้าค้นวัดพระธรรมกายเท่านั้น ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาสำคัญต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างรอบคอบ ต้องคำนึงถึงหลายอย่าง เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หรือเลวร้ายลงกว่าเดิม เพราะจะส่งผลเสียกับประเทศชาติ เจ้าหน้าที่จึงต้องคิดหลายมุมหลายมิติ
"ยืนยันว่ากระบวนการของรัฐไม่ได้ล้มเหลว ถ้าตัดสินใจบุกแล้วสถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม ก็จะเกิดความเสียหาย สมมุติว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปโดยไม่มีอาวุธ แล้วมีเสียงระเบิด เสียงปืนดังขึ้นจะทำอย่างไร คงต้องเกิดความโกลาหนอย่างแน่นอน แต่เป็นห่วงประชาชน ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้กลัว แม้ผู้สื่อข่าวยังเข้าไปในวัดไม่ได้เลย"
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า การขอหมายค้น ขอเมื่อไรก็ได้ ซึ่งทุกฝ่ายกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนจะมีความจำเป็นในการใช้มาตรา 44 มาใช้ดำเนินการกับพระธัมมชโยหรือไม่นั้น ยังไม่ต้องถึงขนาดนั้น ทำตามกฎหมายธรรมดาก็ได้ ถ้าพระธัมมชโยมอบตัวคนเดียวก็จบ ง่ายกว่า ส่วนการดำเนินการกับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ก็ไม่เป็นอะไร เรื่องของเขา ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายทุกฉบับอยู่แล้ว จากข้อมูลคาดว่านายองอาจ ยังอยู่ภายในประเทศ ส่
"จริงๆ แล้ว สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ควรจะเอากรณีแบบนี้ไปปฏิรูปด้วย ก็ปล่อยให้มีอย่างนี้ ผมก็พูดได้เท่านี้ องค์กรอื่นเขาปฏิรูปกันหมดแล้ว ผมไม่ได้พูดพาดพิงถึงใคร ต้องฝากไว้ด้วยว่าต้องปฏิรูป พ.ร.บ.สงฆ์" ผบ.ตร.กล่าว
สำหรับบรรยากาศที่วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากตำรวจได้ติดป้ายยึดของกลางรอบกำแพง และประตูของวัดรวม 17 แห่งตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ บรรยากาศโดยทั่วไปของวัดยังคงเป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือท่าทีในการที่จะออกมาแถลงข่าวให้สื่อมวลชนรับทราบแต่อย่างใด ซึ่งยังมีลูกศิษย์และประชาชนที่ศรัทธาเดินทางเขามาวัดเพื่อสวดมนต์และทำบุญ ส่วนใหญ่จะเข้าทางประตู 7 ซึ่งเป็นประตูหลักที่คนทั่วไปจะเข้า-ออกวัด ขณะที่ประตู 5-6 เปิดให้เข้าเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นลูกศิษย์และเจ้าหน้าที่ของวัดโดยตรงที่จะใช้ประตูนี้เข้า-ออก สำหรับเจ้าหน้าที่ของ รปภ.วัดการปฏิบัติหน้าที่ดูมีการผ่อนคลายมากขึ้น และยังคงเพื่อป้องกันมือที่สามเข้ามาก่อกวน
ส่วนบรรยากาศรอบๆ ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งจุดตรวจป้องกันเหตุแทรกซ้อนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยมีทหารร่วมอำนวยความสะดวกด้วย ขณะที่ สภ.คลองหลวง ไม่มีอะไรคืบหน้าเกี่ยวกับการติดต่อขอมอบตัวจากนายองอาจ แต่อย่างใด และยังมีสื่อมวลชนคอยเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและวัดพระธรรมกายอย่างใกล้ชิด
ด้านในโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่ภาพล้อเลียนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะภาพป้ายยึดของกลางที่ติดไว้รอบกำแพงของวัดพระธรรมกาย มีลักษณะทำพวงมาลัยและผ้าสามมีมาแขวน พร้อมทั้งมีไข่กระดาษ A4 ติดอยู่ที่บนกำแพง และเขียนคำว่าห้ามยกกำแพงเล่น เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังป้ายดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นไปตามภาพแต่อย่างใด คาดว่าเป็นภาพตัดต่อที่ถูกทำขึ้นมา
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการสอบข้อเท็จจริงศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ จ.นครราชสีมา สาขาวัดธรรมกายว่า ในเรื่องคดีการบุกรุกก่อสร้าง แผ้วถางพื้นที่ป่าในพื้นที่ 173 ไร่ที่ไม่เอกสารสิทธินั้นเรื่องนี้ได้โอนให้ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการทั้งหมดแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้ อบต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง เจ้าของพื้นที่แจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารในเรื่องการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตและก่อสร้างอาคารไม่ถูกต้องโดยไม่ตรงกับโฉนดที่ขออนุญาต ซึ่งเรื่องนี้ตนสั่งให้ อบต.โป่งตาลอง เป็นผู้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีรวมถึงการบุกรุกลำรางสาธารณะด้วย พร้อมได้สั่งการให้รายงานความคืบหน้ามาให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนศิษย์ธรรมกายในพื้นที่ต่อกรณีการดำเนินการจับกุมตัวพระธัมมชโย นั้น ณ วันนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรผิดปกติในพื้นที่
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงการดำเนินการกับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีบุกรุกพื้นที่ป่าก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และทุจริตสหกรณ์ยูเนียนคลองจั่นว่า ขณะนี้ตำรวจไม่ได้ชะลอแผนการจับกุมพระธัมมชโย เพราะมีการดำเนินคดีอื่นๆ อยู่ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจเข้าค้นวัดพระธรรมกายเท่านั้น ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาสำคัญต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างรอบคอบ ต้องคำนึงถึงหลายอย่าง เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หรือเลวร้ายลงกว่าเดิม เพราะจะส่งผลเสียกับประเทศชาติ เจ้าหน้าที่จึงต้องคิดหลายมุมหลายมิติ
"ยืนยันว่ากระบวนการของรัฐไม่ได้ล้มเหลว ถ้าตัดสินใจบุกแล้วสถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม ก็จะเกิดความเสียหาย สมมุติว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปโดยไม่มีอาวุธ แล้วมีเสียงระเบิด เสียงปืนดังขึ้นจะทำอย่างไร คงต้องเกิดความโกลาหนอย่างแน่นอน แต่เป็นห่วงประชาชน ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้กลัว แม้ผู้สื่อข่าวยังเข้าไปในวัดไม่ได้เลย"
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า การขอหมายค้น ขอเมื่อไรก็ได้ ซึ่งทุกฝ่ายกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนจะมีความจำเป็นในการใช้มาตรา 44 มาใช้ดำเนินการกับพระธัมมชโยหรือไม่นั้น ยังไม่ต้องถึงขนาดนั้น ทำตามกฎหมายธรรมดาก็ได้ ถ้าพระธัมมชโยมอบตัวคนเดียวก็จบ ง่ายกว่า ส่วนการดำเนินการกับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ก็ไม่เป็นอะไร เรื่องของเขา ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายทุกฉบับอยู่แล้ว จากข้อมูลคาดว่านายองอาจ ยังอยู่ภายในประเทศ ส่
"จริงๆ แล้ว สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ควรจะเอากรณีแบบนี้ไปปฏิรูปด้วย ก็ปล่อยให้มีอย่างนี้ ผมก็พูดได้เท่านี้ องค์กรอื่นเขาปฏิรูปกันหมดแล้ว ผมไม่ได้พูดพาดพิงถึงใคร ต้องฝากไว้ด้วยว่าต้องปฏิรูป พ.ร.บ.สงฆ์" ผบ.ตร.กล่าว
สำหรับบรรยากาศที่วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากตำรวจได้ติดป้ายยึดของกลางรอบกำแพง และประตูของวัดรวม 17 แห่งตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ บรรยากาศโดยทั่วไปของวัดยังคงเป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือท่าทีในการที่จะออกมาแถลงข่าวให้สื่อมวลชนรับทราบแต่อย่างใด ซึ่งยังมีลูกศิษย์และประชาชนที่ศรัทธาเดินทางเขามาวัดเพื่อสวดมนต์และทำบุญ ส่วนใหญ่จะเข้าทางประตู 7 ซึ่งเป็นประตูหลักที่คนทั่วไปจะเข้า-ออกวัด ขณะที่ประตู 5-6 เปิดให้เข้าเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นลูกศิษย์และเจ้าหน้าที่ของวัดโดยตรงที่จะใช้ประตูนี้เข้า-ออก สำหรับเจ้าหน้าที่ของ รปภ.วัดการปฏิบัติหน้าที่ดูมีการผ่อนคลายมากขึ้น และยังคงเพื่อป้องกันมือที่สามเข้ามาก่อกวน
ส่วนบรรยากาศรอบๆ ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งจุดตรวจป้องกันเหตุแทรกซ้อนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยมีทหารร่วมอำนวยความสะดวกด้วย ขณะที่ สภ.คลองหลวง ไม่มีอะไรคืบหน้าเกี่ยวกับการติดต่อขอมอบตัวจากนายองอาจ แต่อย่างใด และยังมีสื่อมวลชนคอยเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและวัดพระธรรมกายอย่างใกล้ชิด
ด้านในโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่ภาพล้อเลียนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะภาพป้ายยึดของกลางที่ติดไว้รอบกำแพงของวัดพระธรรมกาย มีลักษณะทำพวงมาลัยและผ้าสามมีมาแขวน พร้อมทั้งมีไข่กระดาษ A4 ติดอยู่ที่บนกำแพง และเขียนคำว่าห้ามยกกำแพงเล่น เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังป้ายดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นไปตามภาพแต่อย่างใด คาดว่าเป็นภาพตัดต่อที่ถูกทำขึ้นมา
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการสอบข้อเท็จจริงศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ จ.นครราชสีมา สาขาวัดธรรมกายว่า ในเรื่องคดีการบุกรุกก่อสร้าง แผ้วถางพื้นที่ป่าในพื้นที่ 173 ไร่ที่ไม่เอกสารสิทธินั้นเรื่องนี้ได้โอนให้ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการทั้งหมดแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้ อบต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง เจ้าของพื้นที่แจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารในเรื่องการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตและก่อสร้างอาคารไม่ถูกต้องโดยไม่ตรงกับโฉนดที่ขออนุญาต ซึ่งเรื่องนี้ตนสั่งให้ อบต.โป่งตาลอง เป็นผู้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีรวมถึงการบุกรุกลำรางสาธารณะด้วย พร้อมได้สั่งการให้รายงานความคืบหน้ามาให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนศิษย์ธรรมกายในพื้นที่ต่อกรณีการดำเนินการจับกุมตัวพระธัมมชโย นั้น ณ วันนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรผิดปกติในพื้นที่
