ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯโคราช เดินหน้าเอาผิด “เวิลด์พีซ” ธรรมกาย รุกเขาใหญ่ สั่ง อบต. โป่งตาลอง อ.ปากช่อง เจ้าของพื้นที่แจ้งความดำเนินคดีผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคารและความผิดบุกรุกลำรางสาธารณะ จี้ให้เวลา 2 สัปดาห์ รายงานความคืบหน้าคดี รวมทั้งสร้างอาคารขนาด 11 ชั้นไม่ทำ EIA ต้องดำเนินการให้ถูกตาม กม.
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ จ.นครราชสีมา สาขา วัดธรรมกาย ของมูลนิธิตะวันธรรม ตั้งอยู่ในท้องที่บ้านหนองจอก ม.6 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า โดยสรุปในส่วนของการดำเนินการที่หน่วยงานในจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบนั้น มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในเรื่องคดีการบุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถางพื้นที่ป่า ในจำนวน 173 ไร่ ที่ไม่เอกสารสิทธิ นั้น ได้โอนให้ทาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ดำเนินการทั้งหมด
ส่วนที่ 2 เรื่องการขุดเจาะบ่อบาดาล โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเอาผิดด้วยการเรียกมาจับปรับและ ปิดบ่อน้ำบาดาลไปเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนที่ 3 ที่อยู่ในชั้นของจังหวัดฯ ได้ สั่งให้ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โป่งตาลอง อ.ปากช่อง เจ้าของพื้นที่ เป็นผู้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ในเรื่องการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต และก่อสร้างอาคารไม่ถูกต้องโดยไม่ตรงกับโฉนดที่ขออนุญาต ซึ่งเรื่องนี้ตนสั่งให้ อบต.โป่งตาลอง เป็นผู้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีรวมถึงการบุกรุกลำรางสาธารณะด้วย พร้อมได้สั่งการให้รายงานความคืบหน้ามาให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการก่อสร้างอาคาร 11 ชั้น ที่ไม่มีการศึกษารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA นั้น อบต. โป่งตาลอง ต้องแจ้งให้ทางเวิลด์พีซ วัลเล่ย์ ดำเนินการให้ถูกต้อง คาดว่า เรื่องนี้อีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ ตนจะเรียกมาเร่งรัดคดีนี้
สำหรับในพื้นที่ตอนนี้ เท่าที่ทราบยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรผิดปกติ ซึ่งการก่อสร้างต่างๆ ทราบว่าหยุดดำเนินการไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องการรื้อถอนอาคารนั้น ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร จะต้องมีการตรวจสอบโครงสร้าง หากไม่ถูกแบบหรือไม่มีแบบเลยก็ต้องรื้อ
ทางด้าน ความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนในพื้นที่ต่อกรณีการดำเนินการจับกุมตัว พระธัมมชโยนั้น ณ วันนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรผิดปกติในพื้นที่
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า ในส่วนภาพรวมการทวงคืนผืนป่าของ จ.นครราชสีมา นั้น จังหวัดตั้งเป้าไว้ว่าปี 2560 จะทวงคืนให้ได้ 7,000 ไร่ แต่มีขั้นตอนว่าจะต้องมีการออกหมายแจ้งให้รื้อถอนออก หากไม่ยอมรื้อถอนออกก็จะต้องแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดี และหากไม่รื้อเองเจ้าหน้าที่จะไปรื้อ เรื่องนี้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีการประชุมเร่งรัดกันทุกเดือนอยู่ แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการกำหมดเป้าหมายที่แน่ชัดเท่านั้น ปีนี้มีเป้าหมายมาแล้วว่า เป็นพื้นที่ป่าไม้เท่าไร พื้นที่อุทยานแห่งชาติเท่าไน รวมประมาณ 7,000 ไร่ โดยต้องแยกออกมาเป็นรายไตรมาส ช่วงละ 3 เดือน และหากเป็นผืนใหญ่จะตั้งเป้าเป็นพื้นที่ที่เราจะฟื้นฟูป่าต่อไป
