อุดรธานี - เคลื่อนย้ายสรีระสังขาร "หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป" หรือ "หลวงปู่ใหญ่" อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์กลับถึงวัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานีแล้วโดยมีคณะสงฆ์ พร้อมศิษยานุศิษย์รอรับแน่นวัด เตรียมจัดพิธีสรงน้ำและประกอบพิธีสรงน้ำหลวงพระราชทานอาบศพ และบรรจุศพ 16 ธ.ค.นี้ เผยประวัติได้ไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสุทธาวาส เป็นเวลา 15 วัน ทำให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ "พระอาจารย์มั่น" และฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย
วานนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 09.30 น. บรรดาลูกศิษย์ทั้งพระสงฆ์และฆราวาสของพระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป) หรือหลวงปู่ใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง (ธ) ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุตได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายสรีระสังขารหลวงปู่จันทร์ศรี ออกจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางด้วยรถยนต์มุ่งหน้ากลับจังหวัดอุดรธานีแล้ว หลังจากได้ละสังขารเมื่อเวลา 20.00 น.คืนวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ สิริอายุรวม 105 ปี 2 เดือน หลังจากเข้ารับการรักษาและพักฟื้นด้วยอาการชราภาพที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และ รพ.จุฬาหลายครั้ง ล่าสุดเดินทางเข้ารับการรักษาที่ รพ.จุฬา เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2559 จนละสังขารดังกล่าว
โดยสรีระสังขารหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป ได้เคลื่อนย้ายมาถึง ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดโพธิสมภรณ์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาศิษยานุศิษย์ที่มารับจำนวนมากจนแน่นวัด โดยรถ รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้นำสรีระสังขารหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป เดินทางมาส่ง โดยมีพระธรรมดิลก สุเมโธ เจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดป่าแสงอรุณ บ้านเลิงเปือย ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น พร้อมกับหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และศิษยานุศิษย์มารอรับสรีระสังขาร
โดยเมื่อขบวนสรีระสังขารมาถึงด้านในวัดหน้าพระอุโบสถ พระธรรมดิลก สุเมโธ พร้อมกับหลวงพ่ออินทร์ถวาย ได้เป็นผู้แทนสรีระสังขารหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป อัญเชิญพานดอกไม้สดเข้ากราบพระประธานในพระอุโบสถ จากนั้นได้นำสรีระสังขารฯ ไปยังศาลาเฉลิมพระเกียรติฯ 88 พรรษา โดยมีคณะศิษยานุศิษย์ น้อมส่งอย่างใกล้ชิด
จากนั้นพระธรรมดิลก สุเมโธ ได้นำคณะส่งและศิษยานุศิษย์ ประกอบพิธีคารวะศพ ต่อด้วยพระภิกษุสามเณรและฆาราวาส สรงน้ำศพพระอุดมญาณโมลี โดยในวันที่ 16 ธันวาคม 2559 เวลา 09.00 น. ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี คณะสงฆ์พร้อมศิษยานุศิษย์ คารวะศพพระเดชพระคุณพระอุดมญาณโมลีอีกครั้ง จากนั้นเวลา 17.00 น. ประกอบพิธีสรงน้ำหลวงพระราชทานอาบศพ และบรรจุศพพระอุดมญาณโมลีเข้าหีบศพ พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล เวลา 19.00 พระสงฆ์ 4 รูปสวดอภิธรรม
ทั้งนี้ ทางคณะศิษย์ยานุศิษย์ได้กำหนดการสรงน้ำศพหลวงปู่จันทร์ศรี วันที่ 16 ธันวาคม 2559 ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดโพธิสมภรณ์ โดยเวลา 09.00 น. คณะสงฆ์พร้อมศิษยานุศิษย์ คารวะศพพระเดชพระคุณพระอุดมญาณโมลี ต่อด้วยพระภิกษุสามเณรและฆาราวาส สรงน้ำศพพระอุดมญาณโมลีเวลา จากนั้นเวลา 17.00 น. ประกอบพิธีสรงน้ำหลวงพระราชทานอาบศพ และบรรจุศพพระอุดมญาณโมลีเข้าหีบศพ พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล เวลา 19.00 พระสงฆ์ 4 รูปสวดอภิธรรม
สำหรับอัตโนประวัติ "หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป" หรือ "พระอุดมญาณโมลี" เป็นพระมหาเถระสายพระป่ากรรมฐานศิษย์ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตฺตมหาเถระ เป็นพระผู้มากด้วยเมตตาที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา และเป็นแบบอย่างอันงดงามของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และประชาชนชาวอีสาน หลวงปู่จันทร์ศรี มีนามเดิมว่า จันทร์ศรี แสนมงคล เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2454 ตรงกับวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน ณ บ้านโนนทัน ต.โนนทัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายบุญสาร และนางหลุน แสนมงคล
การบรรพชาและอุปสมบท ด.ช.จันทร์ศรี แสนมงคล มีแววบวชเรียนตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัย ด้วยโยมบิดา-โยมมารดาได้พาไปใส่บาตรพระทุกวัน จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา อายุได้ 8 ขวบ โยมบิดาเสียชีวิตลง
จนอายุได้ 10 ปีโยมมารดาจึงนำไปฝากไว้กับเจ้าอธิการเป๊ะ ธัมมเมตติโก เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี, เจ้าคณะตำบลโนนทัน และเป็นครูสอนนักเรียนโรงเรียนประชาบาล โดยรับไว้เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด อยู่รับใช้ได้เพียง 1 เดือน เจ้าอธิการเป๊ะนำเด็กชายเข้าเรียนภาษาไทย ตั้งแต่ชั้น ประถม ก.กา จนจบชั้นประถมบริบูรณ์
หลังจากนั้น เจ้าอธิการเป๊ะเห็นว่ามีความสนใจในทางสมณะเพศ จึงได้ให้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2468 ณ วัดโพธิ์ศรี บ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ณ พัทธสีมาวัดศรีจันทร์ (วัดศรีจันทราวาส) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2474 โดยมี พระครูพิศาลอรัญญเขต (จันทร์ เขมิโย ป.ธ. 3) เจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดขอนแก่น และเจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ (วัดศรีจันทราวาส) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์มหาปิ่น ปญญาพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้รับนามฉายาว่า "จนฺททีโป" อันมีความหมายเป็นมงคลว่า "ผู้มีแสงสว่างเจิดจ้าดั่งจันทร์เพ็ญ"
หลังอุปสมบทได้เพียง 7 วัน ท่านก็ได้ติดตาม พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี พระกรรมฐานผู้เคร่งวัตรปฏิบัติแห่งวัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์สายกรรมฐานท่านพระอาจารย์มั่น เจ้าสำนักวัดป่านิโครธาราม ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2 2484 ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตฺตมหาเถระ ได้ไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร เป็นเวลา 15 วัน ทำให้หลวงปู่จันทร์ศรี ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่านพระอาจารย์มั่นและฝากตัวเป็นศิษย์
วานนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 09.30 น. บรรดาลูกศิษย์ทั้งพระสงฆ์และฆราวาสของพระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป) หรือหลวงปู่ใหญ่ อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง (ธ) ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุตได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายสรีระสังขารหลวงปู่จันทร์ศรี ออกจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางด้วยรถยนต์มุ่งหน้ากลับจังหวัดอุดรธานีแล้ว หลังจากได้ละสังขารเมื่อเวลา 20.00 น.คืนวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ สิริอายุรวม 105 ปี 2 เดือน หลังจากเข้ารับการรักษาและพักฟื้นด้วยอาการชราภาพที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และ รพ.จุฬาหลายครั้ง ล่าสุดเดินทางเข้ารับการรักษาที่ รพ.จุฬา เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2559 จนละสังขารดังกล่าว
โดยสรีระสังขารหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป ได้เคลื่อนย้ายมาถึง ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดโพธิสมภรณ์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาศิษยานุศิษย์ที่มารับจำนวนมากจนแน่นวัด โดยรถ รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้นำสรีระสังขารหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป เดินทางมาส่ง โดยมีพระธรรมดิลก สุเมโธ เจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดป่าแสงอรุณ บ้านเลิงเปือย ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น พร้อมกับหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และศิษยานุศิษย์มารอรับสรีระสังขาร
โดยเมื่อขบวนสรีระสังขารมาถึงด้านในวัดหน้าพระอุโบสถ พระธรรมดิลก สุเมโธ พร้อมกับหลวงพ่ออินทร์ถวาย ได้เป็นผู้แทนสรีระสังขารหลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป อัญเชิญพานดอกไม้สดเข้ากราบพระประธานในพระอุโบสถ จากนั้นได้นำสรีระสังขารฯ ไปยังศาลาเฉลิมพระเกียรติฯ 88 พรรษา โดยมีคณะศิษยานุศิษย์ น้อมส่งอย่างใกล้ชิด
จากนั้นพระธรรมดิลก สุเมโธ ได้นำคณะส่งและศิษยานุศิษย์ ประกอบพิธีคารวะศพ ต่อด้วยพระภิกษุสามเณรและฆาราวาส สรงน้ำศพพระอุดมญาณโมลี โดยในวันที่ 16 ธันวาคม 2559 เวลา 09.00 น. ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี คณะสงฆ์พร้อมศิษยานุศิษย์ คารวะศพพระเดชพระคุณพระอุดมญาณโมลีอีกครั้ง จากนั้นเวลา 17.00 น. ประกอบพิธีสรงน้ำหลวงพระราชทานอาบศพ และบรรจุศพพระอุดมญาณโมลีเข้าหีบศพ พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล เวลา 19.00 พระสงฆ์ 4 รูปสวดอภิธรรม
ทั้งนี้ ทางคณะศิษย์ยานุศิษย์ได้กำหนดการสรงน้ำศพหลวงปู่จันทร์ศรี วันที่ 16 ธันวาคม 2559 ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดโพธิสมภรณ์ โดยเวลา 09.00 น. คณะสงฆ์พร้อมศิษยานุศิษย์ คารวะศพพระเดชพระคุณพระอุดมญาณโมลี ต่อด้วยพระภิกษุสามเณรและฆาราวาส สรงน้ำศพพระอุดมญาณโมลีเวลา จากนั้นเวลา 17.00 น. ประกอบพิธีสรงน้ำหลวงพระราชทานอาบศพ และบรรจุศพพระอุดมญาณโมลีเข้าหีบศพ พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล เวลา 19.00 พระสงฆ์ 4 รูปสวดอภิธรรม
สำหรับอัตโนประวัติ "หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป" หรือ "พระอุดมญาณโมลี" เป็นพระมหาเถระสายพระป่ากรรมฐานศิษย์ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตฺตมหาเถระ เป็นพระผู้มากด้วยเมตตาที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา และเป็นแบบอย่างอันงดงามของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และประชาชนชาวอีสาน หลวงปู่จันทร์ศรี มีนามเดิมว่า จันทร์ศรี แสนมงคล เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2454 ตรงกับวันอังคาร แรม 3 ค่ำ เดือน 11 ปีกุน ณ บ้านโนนทัน ต.โนนทัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายบุญสาร และนางหลุน แสนมงคล
การบรรพชาและอุปสมบท ด.ช.จันทร์ศรี แสนมงคล มีแววบวชเรียนตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัย ด้วยโยมบิดา-โยมมารดาได้พาไปใส่บาตรพระทุกวัน จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา อายุได้ 8 ขวบ โยมบิดาเสียชีวิตลง
จนอายุได้ 10 ปีโยมมารดาจึงนำไปฝากไว้กับเจ้าอธิการเป๊ะ ธัมมเมตติโก เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี, เจ้าคณะตำบลโนนทัน และเป็นครูสอนนักเรียนโรงเรียนประชาบาล โดยรับไว้เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด อยู่รับใช้ได้เพียง 1 เดือน เจ้าอธิการเป๊ะนำเด็กชายเข้าเรียนภาษาไทย ตั้งแต่ชั้น ประถม ก.กา จนจบชั้นประถมบริบูรณ์
หลังจากนั้น เจ้าอธิการเป๊ะเห็นว่ามีความสนใจในทางสมณะเพศ จึงได้ให้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2468 ณ วัดโพธิ์ศรี บ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ณ พัทธสีมาวัดศรีจันทร์ (วัดศรีจันทราวาส) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2474 โดยมี พระครูพิศาลอรัญญเขต (จันทร์ เขมิโย ป.ธ. 3) เจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดขอนแก่น และเจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ (วัดศรีจันทราวาส) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์มหาปิ่น ปญญาพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้รับนามฉายาว่า "จนฺททีโป" อันมีความหมายเป็นมงคลว่า "ผู้มีแสงสว่างเจิดจ้าดั่งจันทร์เพ็ญ"
หลังอุปสมบทได้เพียง 7 วัน ท่านก็ได้ติดตาม พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี พระกรรมฐานผู้เคร่งวัตรปฏิบัติแห่งวัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย และ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์สายกรรมฐานท่านพระอาจารย์มั่น เจ้าสำนักวัดป่านิโครธาราม ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2 2484 ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตฺตมหาเถระ ได้ไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร เป็นเวลา 15 วัน ทำให้หลวงปู่จันทร์ศรี ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่านพระอาจารย์มั่นและฝากตัวเป็นศิษย์