ผู้จัดการรายวัน360- บอร์ด กสท. มีมติสั่งปิดทีวีช่อง"ธรรมกาย" 15 วัน หลังดีเอสไอส่งหนังสือให้ กสทช.ระงับการออกอากาศ ชี้มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเชิญชวนสาวกมารวมตัวกันทำพิธีกรรมทางศาสนาบังหน้า แต่เจตนาคือขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม "ธัมมชโย" ด้าน"บิ๊กตู่"ลั่นต้องจับ"ธัมมชโย" ย้ำคนผิดไม่มีสิทธิ์ยื่นคำขาด ต้องอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน ตำรวจออกหมายเรียกรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 13 ธ.ค.นี้ เชื่อ"ธัมมชโย-ทัตตชีโว-พระสุธรรม สุธัมโม" ยังอยู่ภายในวัด
วานนี้ (7 ธ.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอให้พิจารณาระงับการเผยแพร่ภาพและเสียงชั่วคราว ของสถานีโทรทัศน์วัดพระธรรมกาย (DMC)เนื่องจากดีเอสไอ อยู่ระหว่างการกำหนดแผนเพื่อดำเนินการเข้าตรวจค้นสถานที่ เพื่อจับกุม พระธัมมชโย ซึ่งที่ผ่านมาสถานีโทรทัศน์วัดพระธรรมกายได้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เชิญชวนให้ผู้ที่มีความเชื่อถือและศรัทธาต่อวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย มารวมตัวกันทำพิธีกรรมทางศาสนา แต่มีวัตถุประสงค์แท้จริงคือ การขัดขวางไม่ให้เจ้าพนักงานปฏิบัติงานตามหน้าที่ ช่วยเหลือไม่ให้ผู้ต้องหาถูกจับกุม
ทั้งนี้ หากปล่อยให้สถานีโทรทัศน์วัดพระธรรมกาย ทำการเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าข่ายเป็นการชักชวน ยุยง เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน หรือเพื่อให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดินต่อไป อาจเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ จนเกิดเหตุรุนแรงและเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐได้ จึงขอให้มีการพิจารณาระงับการเผยแพร่ภาพและเสียงที่นำเสนอผ่านสถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุของวัดพระธรรมกาย เป็นการชั่วคราว
ล่าสุด บอร์ดกสท. มีมติสั่งปิดทีวีช่องธรรมกาย เป็นเวลา 15 วัน หลัง ดีเอสไอ ขอความร่วมมือ เหตุใช้สื่อปลุกระดมนัดผู้ศรัทธารวมตัวที่วัด ซึ่งขัดมาตรา 64, ประกาศ คสช. ฉบับ 97
** ธรรมกายเตรียมยื่นคัดค้านปิดทีวี
ด้านพระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวกรณีนำเงินวัดไปเล่นหุ้น-เตรียมยื่นคัดค้านปิดทีวี DMC โดยระบุว่า จากกรณีปรากฏข่าวในสื่อมวลชน และสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย และสถานีวิทยุโทรทัศน์ DMC วัดพระธรรมกายขอชี้แจง ดังนี้
1. กรณีปรากฏข่าวในสื่อมวลชน อาทิ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วยพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวภายหลังการประชุมระหว่างดีเอสไอ อัยการ และตำรวจ เกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อพระเทพญาณมหามุนี ว่า เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนเช็คจากสหกรณ์ฯ คลองจั่น เข้าวัดพระธรรมกาย และนำเช็คไปซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ นั้น วัดพระธรรมกายขอปฏิเสธว่า ไม่มีการนำเงินของวัดไปซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ใดๆ ทั้งสิ้น
2. กรณีปรากฏข่าวในสื่อออนไลน์ ระบุ “ดีเอสไอ ส่งหนังสือถึง กสทช. ขอให้พิจารณาระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์วัดพระธรรมกาย “DMC TV”หวั่นยุยง สร้างความปั่นป่วน #ThaiPBSnews นั้น ทางวัดพระธรรมกายขอคัดค้านความเห็นดังกล่าว และยืนยันว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์ DMC ไม่มีการยุยงสร้างความปั่นป่วนแต่ประการใด
**"บิ๊กตู่"ลั่นต้องจับ"ธัมมชโย"แน่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ขอร้องสื่ออย่าไปขยายความให้กับผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิด เหมือนกับเป็นการให้ท้ายกันอยู่ แล้วเล่นงานเจ้าหน้าที่แทนว่าเมื่อไรจะทำ ถ้าปลุกกันอยู่แบบนี้ ก็จะเป็นอยู่แบบนี้ มีคนเข้าไปในวัดจำนวนมากๆ หลายพันคน ลองคิดเอาก็แล้วกัน ในสิ่งที่อยากให้ทำ หากสื่อได้ไปอยู่แล้วมีส่วนร่วมตรงนั้น จะทำไหม ถ้าคิดว่าอยู่ตรงนั้นแล้วทำด้วย ก็มาเลย มาด้วยกัน วันไหนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปจริง จะให้นักข่าวเข้าไปพร้อมตำรวจ จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เชิญสื่อทุกคน อย่างไรก็ตาม เขามีมาตรการทางกฎหมายอยู่แล้วในเรื่องการกระทำความผิดทั้งภายในภายนอก ซึ่งตรงนี้อยากให้สื่อขยายความให้สังคมเข้าใจ ในเรื่องดังกล่าวโดยให้ผู้ถูกกล่าวหาออกมาชี้แจง และมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นประเด็นอยู่อย่างนี้ สร้างความขัดแย้งไปเรื่อย ไม่มีผลดีอะไรทั้งสิ้น
"ถ้ามองคดีนี้ก็เหมือนคดีทั่วๆไป คนๆ หนึ่งทำความผิดก็ต้องดำเนินคดี จะจับกุมมีหมายค้นจับได้เมื่อไร ก็จับเมื่อนั้น ถ้ามีมาตรการเข้าไปแล้วเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็จำเป็นต้องระมัดระวังให้มากที่สุด แต่ก็ต้องจับ แต่ไม่ใช่ว่าวันนู้นวันนี้ ต้องจับ หรือประกาศล่วงหน้า จะไปประกาศทำไม คนทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีภายใต้กฎหมายเดียวกัน ซึ่งวันนี้ใช้มาตรการตรวจสอบต่างๆ ทั้งภายนอก กองทุน เม็ดเงิน วันนี้ยังไม่ชัดเจนอีกหรือว่าเขาผิดหรือไม่ ถ้าเขาไม่ผิด ก็ต้องมาชี้แจงแค่นั้นเอง มามอบตัว ไม่ใช่มายื่นคำขาดนี่นู่น แล้วสื่อก็ให้ท้ายอยู่เรื่อยว่าต้องประกัน หรือไม่ประกัน จะให้หรือไม่ให้ประกัน ไม่ใช่เรื่องของผม เป็นเรื่องของตำรวจและศาล เข้าใจหน้าที่กันเสียบ้าง" นายกฯ กล่าว
**รักษาการเจ้าอาวาสรับทราบข้อหา13 ธ.ค.
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 (รรท.ผบก.ส.4) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อ รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ฐานปล่อยปละละเลย และให้ที่พักพิง พระธัมมชโย ผู้ต้องหามีหมายจับว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา พนักงานสอนบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดธัญญบุรี ออกหมายจับรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่ศาลให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกก่อน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย โดยให้รักษาการเจ้าอาวาสมารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 13 ธ.ค.นี้
ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า ใครเป็นรักษาการเจ้าอาวาสคนปัจจุบัน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เนื่องจากคดีอยู่ในสำนวน แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่พระทัตตชีโว หมายเรียกที่ออกมาได้ส่งไปยังวัดพระธรรมกายแล้ว คาดว่าทางวัดคงติดต่อผ่านพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ส่วนรักษาการเจ้าอาวาส ยังอยู่ภายในวัดหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่า ยังอยู่ภายในวัด
สำหรับประเด็นการให้ที่พักพิงพระธัมมชโย อาจมีคนอื่นอีกร่วมด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าใครมีส่วนรู้เห็นบ้าง ไม่จำเป็นว่าจะมี 1 คน หรือ 2 คน ส่วนรักษาการคนปัจจุบัน จะรักษาการถึงวันที่ 13 ธ.ค. ซึ่งตรงกับวันที่พนักงานสอบสวนให้มารับทราบข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม หากระยะเวลาล่วงเลยไป ก็ไม่ใช่ปัญหาและไม่มีผลทางกฎหมาย เพราะเป็นความผิดต่อเนื่อง แต่ย้ำว่าใครเกี่ยวข้องต้องดำเนินการทั้งหมด ส่วนความชัดเจนว่า พระธัมมชโย พระทัตตชีโว และพระสุธรรม สุธัมโม ยังอยู่ในวัดหรือไม่นั้น เชื่อว่าทั้ง 3 ท่าน ยังอยู่ภายในวัด
สำหรับหมายค้นวัดพระธรรมกาย ดีเอสไอ จะมีการบุกค้นวัดวันไหนนั้น ขึ้นอยู่กับ ดีเอสไอ แต่เบื้องต้นยังไม่มีการประสานว่า จะเข้าบุกจับวันไหน เวลาใด ตำรวจเป็นเพียงหน่วยเสริมกำลังตามที่ดีเอสไอ ขอมาเท่านั้น ซึ่งกำลังพลได้เตรียมพร้อมอยู่แล้ว
**อัยการเลื่อนสั่งคดี"หลวงพี่แป๊ะ"
วานนี้ (7ธ.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายอดุลย์ เฉตวงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เจ้าของสำนวนพิจารณาคดีที่ นายพิชัย วีระสิทธิกุล เจ้าของอู่รถ ผู้ต้องหาที่ 1, พระมหาศาสนมุนี หรือ หลวงพี่แป๊ะ เลขานุการสมเด็จช่วง และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ กับพวกรวม 7 คน จากกรณีเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์เบนซ์โบราณ คันหมายเลขทะบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร รถในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญญมหาเถร ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ว่า วันนี้พนักงานอัยการมีคำสั่งให้เลื่อนนัดสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ทำการสอบสวนเพิ่มเติมในบางประเด็น ขณะนี้ ดีเอสไอ ยังไม่ส่งผลสอบเพิ่มเติมกลับมาจึงต้องเลื่อนการนัดสั่งคดีไปก่อน ส่วนในวันนี้ก็มีผู้ต้องหาบางคนเดินทางมาเพื่อรับทราบนัด ส่วนพระมหาศาสนมุนี (หลวงพี่แป๊ะ) มอบอำนาจให้ทีมทนายความมารับทราบนัดเเทน