xs
xsm
sm
md
lg

เก่าแต่เก๋า “เวสป้า” ม้าเหล็กดีลิเวอรี่คู่พระนคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
หากพูดถึงย่านสำเพ็ง เยาวราช พาหุรัด เราจะนึกถึงอะไร?
บางคนอาจตอบว่า “ของอร่อย” “แหล่งสินค้าราคาส่ง” หรือ “ผ้าดิบ”
แต่ถ้าถามให้เล็กลงมาสักหน่อย ในเรื่องของการสัญจรไปมาและการขนส่งสินค้าในย่านนั้น หลายคนต้องนึกถึง “รถเวสป้า” เพราะคงเป็นคำตอบที่แน่นอนและหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้เรานึกถึง ในย่านค้าขายที่มีชีวิตพ่อค้า-แม่ค้ากับรถเวสป้าเป็นของคู่กันอย่างแยกไม่ออก
ด้วยการออกแบบที่มีความคลาสสิกอยู่เหนือกาลเวลา บวกกับคลื่นเสียงที่มีเอกลักษณ์ ได้ยินเมื่อไหร่จะรู้ทันทีว่านี่แหละคือรถเวสป้า พอดูรวมๆ ก็ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนั้นมีเสน่ห์ในตัวเองโดยไม่ต้องแต่งเติมอะไร จนกลายเป็นเอกลักษณ์ในย่านค้าขายไปแล้วว่า . .
“เมื่อพูดถึงสำเพ็ง เยาวราช หรือพาหุรัด เราจะต้องนึกถึงดินแดนแห่งเวสป้าแลนด์”

“แรร์ไอเทม” ที่รุ่นใหม่ก็สู้ไม่ได้
 
แม้จะเห็นว่าในช่วงหลังมานี้ รถเวสป้ารุ่นคลาสสิกจะมีให้เห็นกันไม่มากนัก เหตุผลคือบางส่วนได้ตกไปอยู่ในการครอบครองของนักสะสมไปเสียแล้ว อีกทั้งยังมีการผลิตที่น้อยลงเมื่อเทียบกับเวสป้ารุ่นใหม่ๆ ที่งัดเทคโนโลยีเทพๆ เข้ามาเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ ทว่า ในแง่ของความนิยมเวสป้ารุ่นใหม่ที่ขยันผลิตออกมาก็ยังสู้เวสป้ารุ่นคลาสสิกไม่ได้

“ปัจจุบันยังมีให้เห็นอยู่ครับ รถเวสป้าที่เป็นรุ่นคลาสสิก ซึ่งมันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท มีขับขี่ท่องเที่ยวกับขับขี่ใช้งานอยู่ สัดส่วนอาจจะมีลดไปบ้างเพราะว่ามีการซื้อออกไปต่างประเทศ (ญี่ปุ่นและฝั่งยุโรป) หรือเวสป้าบางรุ่นไม่มีการผลิตแล้วด้วย
มันจะเพิ่มขึ้นในส่วนของเวสป้ารุ่นใหม่ที่เป็นเกียร์ออโต้ผลิตในประเทศเวียดนาม ในส่วนของเวสป้าที่ใช้ส่งของจะเป็นเวสป้ารุ่นเก่า ต่างชาติเขาจะเรียกว่ารุ่นคลาสสิก ยิ่งถ้าเป็นคลาสสิกมือสองจะราคาดีกว่าเวสป้ารุ่นใหม่ คนนิยมมากกว่าในการเก็บสะสม”
เจ้าของร้านซุปเปอร์มานะยนต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถเวสป้า
 
“เอ๋-พินิจ เศวตนาวิน” ทายาทเจ้าของร้านซุปเปอร์มานะยนต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำรุงรักษารถเวสป้าที่เปิดมานานกว่า 42 ปีในย่านวงเวียน 22 บอกกับเราว่าแม้รถเวสป้ารุ่นใหม่จะผลิตออกมาด้วยเทคโนโลยีที่ตรงตามความต้องการคนสมัยใหม่ แต่ยังไงแล้วสำหรับนักเล่นมือใหม่ก็ยังคงโหยหารถเวสป้ารุ่นคลาสสิกมาไว้ในครอบครองกันอยู่ดี

“ผมมองว่ารถเวสป้ารุ่นใหม่ประสิทธิภาพความคงทนยังสู้รุ่นเก่าไม่ได้เลยครับ เนื่องจากว่ารถรุ่นใหม่มีเทคโนโลยีเยอะขึ้น มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องหลายๆ อย่าง แต่มันจะดูแลรักษายาก อย่างเวสป้ารุ่นเก่าเทคโนโลยีน้อย เน้นความคลาสสิก ไม่มีแบตเตอรีเข้ามาเกี่ยวข้อง การดูแลรักษามันก็ง่ายกว่า”

“เวสป้ารุ่นคลาสสิก” แม้จะดูเก่าแก่ไปตามยุคตามสมัย แต่อายุยิ่งมากก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งได้ราคาดี สำหรับราคาไม่ต้องพูดถึงเพราะมีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน ด้วยกำลังเครื่อง 150 นั่นหมายความว่ามีกำลังแรงในการขับเคลื่อนที่ดี จึงไม่แปลกใจเลยว่า “ทำไมถึงนิยมนำรถเวสป้าไปใช้ในการขนส่งสินค้าในย่านค้าขาย”

“เวสปารุ่นคลาสสิกแบ่งได้หลากหลายรุ่นนะครับ ราคากลางๆ ราคาสูง จนถึงราคาหลักล้านเลยก็มีนะครับ ถ้าเป็นเวสป้ารุ่นใหม่ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 8 หมื่นกว่าบาท จนถึงหลัก 5 แสนครับที่ราคาสูงเนื่องจากมันเป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศ มีการเสียภาษี เสียค่าขนส่งสินค้าสรรพสามิตต่างๆ

“เครื่องเวสปา 150” คือปริมาตรของกระบอกสูบ เครื่องยนต์ยิ่งมีขนาดใหญ่ กำลังแรงม้าแรงบิดยิ่งมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัวครับ เวสป้าจะเน้นออกแบบไปที่กำลังในการขับขี่ครับ ออกตัวจะมีกำลังดีเป็นที่นิยมในการใช้ขนส่งสินค้า”

“Vespa Land” ดินแดนแห่งรถเวสป้า

“ถ้าในประเทศไทยมีมาประมาณ 50 ปีได้ครับ แต่ถ้าการนำรถเวสป้ามาใช้ในการส่งของ ต้องย้อนไปประมาณสัก 30 ปีก่อน สำเพ็ง เยาวราชจะเป็นย่านคนจีนที่เข้ามาทำการค้าขาย เขานิยมใช้รถเวสป้าในการขนส่งสินค้า เพราะว่ามีความคงทนแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่ารถมอเตอร์ไซด์ทั่วๆ ไป”
เรื่องราวของรถเวสป้าถูกบอกเล่าผ่านภาพความทรงจำของ “เอ๋-พินิจ เศวตนาวิน” ในฐานะผู้ที่ได้คลุกคลีอยู่กับแวดวงรถเวสป้าและเติบโตในย่านนั้นมาเป็นเวลานาน
แม้มองด้วยสายตาคงไม่มีใครคิดว่ารถสองล้อ(เล็กๆ)ธรรมดาคันนี้จะสามารถแบกรับน้ำหนักได้ถึงเพียงนี้ แต่ภาพคนงานที่ขี่รถเวสป้าไป-มาในย่านนี้ก็ตอบคำถามของเราได้อย่างน่าประหลาดใจ

“เนื่องจากว่าโครงสร้างทำจากเหล็กทั้งหมด เพราะเหล็กอิตาลีเป็นที่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว อะไหล่ก็มีส่วนนะครับ เพราะเวสป้าถูกออกแบบมาตั้งแต่ที่ประเทศอิตาลีแพ้สงครามโลก เขาเริ่มผลิตเวสป้าขึ้นมาเพื่อเป็นยานยนต์ขนาดเล็กที่มีความทนทาน ใช้ในยามสงครามเป็นการฟื้นฟูประเทศ”

“ระหว่างรถมอเตอร์ไซด์ธรรมดาที่ดูเหมือนว่าจะมีขนาดใหญ่กว่ากับรถเวสป้าสองล้อธรรมดานี้ ความสามารถในการแบกรับน้ำหนักนั้นต่างกันยังไง” เราโยนคำถามไปก่อนที่คุณเอ๋จะอธิบายในคำตอบที่ทำให้เราต้องเห็นด้วย


 
“รถมอเตอร์ไซด์ทั่วไปก็ส่งของได้ แต่การขับขี่จะทรงตัวสู้เวสป้าไม่ได้ครับ เวสป้าเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีล้อขนาดเล็ก ทำให้สามารถซอกแซกไปในการจราจรที่ติดขัดได้ง่ายกว่ารถมอเตอร์ไซด์ทั่วไป และมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ง่ายต่อการจดจำ ถ้ารถมอเตอร์ไซด์ทั่วไปมันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักที่มากขนาดนั้น”

มองไปอีกฟากฝั่งของถนนเรามองไปเห็นเวสป้าสีแดงสดสะดุดสายตา จึงรีบตรงเข้าไปพูดคุยกับคนขับรุ่นเก๋าที่กำลังเตรียมยกผ้าม้วนลงจากเพื่อนสองล้อคันรู้ใจ จากนั้นบทสนทนาของเราได้เริ่มต้นขึ้น

“ขี่ย่านพาหุรัดมาได้ 10 ปีแล้วครับ ในย่านๆ สำเพ็ง พาหุรัด ที่นี่จะเป็นแหล่งเลยที่ใช้รถประเภทนี้ในการส่งของเลย” -อนิษร วงศรี เจ้าของรถเวสป้าคันงามเริ่มบอกเล่าความผูกพันระหว่างเขากับรถเวสป้าที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานถึง 10 ปี
 
“อย่างในสมัยก่อนเขาใช้พวกจักรยานปั่นในการส่งของ พอเจริญขึ้นเขาก็หันมาใช้เวสป้าส่งของกัน ส่วนมากจะขนผ้ากัน เวสป้านี่ทนมากนะครับ ในปัจจุบันก็ยังนิยมอยู่ บางคนเขาเอาไปดัดแปลง แต่งซิ่ง ขับเที่ยว แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานส่งของความผูกพันกับเจ้าคันนี้มีมานานนะครับ ต้องรักมัน ถนอมมัน ต้องขี่ระวังๆ เพราะมันอยู่กับเรามา 10 ปี”
อนิษร วงศรี ผู้ส่งของด้วยรถเวสป้าย่านพาหุรัด
สุทธินันท์ กำลังยิ่ง พ่อค้าย่านพาหุรัด
 
เช่นเดียวกับคุณ “สุทธินันท์ กำลังยิ่ง” พ่อค้าที่ขายของอยู่ในย่านพาหุรัด แม้เขาจะไม่ได้ใช้รถเวสป้าในการขับขี่ส่งของ แต่ด้วยระยะเวลาและความผูกพันที่มีมายาวนานในย่านค้าขายแห่งนี้ ดูเหมือนจะว่าเป็นภาพชินตาที่เห็นอยู่บ่อยครั้ง จนพูดได้ว่าสถานที่แห่งนี้กับรถเวสป้าเป็นของคู่กันไปเสียแล้ว

“ถ้าพูดถึงย่านสำเพ็งจะมีมากนะครับ เพราะแถวนั้นเป็นโกดังผ้าที่จะรับมาส่งตรงนี้อีกทีหนึ่ง จริงๆ ที่เขานิยมใช้ในการขนส่งคือกำลังแรงม้ามันดีกว่า การบรรทุกมันทรงตัวได้มากกว่ากัน พูดง่ายๆ คือมันแข็งแรง อึด ทน กำลังแรงมันดี บางคนชอบก็นำไปแต่งต่อ เพราะรถพวกนี้มันจดทะเบียนขนส่งได้ ไม่เหมือนมอเตอร์ไซด์ธรรมดา มอเตอร์ไซด์ทั่วๆ ไปขนของสู้เวสป้าไม่ได้”

จากการบอกเล่าของผู้คนในย่านนั้นคงช่วยการันตีคำตอบให้เราได้แล้วว่า “ความแข็งแรงทนทาน” คือสิ่งที่ช่วยอธิบายความเป็น “รถเวสป้า” ได้ดีที่สุด ยังไม่รวมไปถึงกลิ่นอายของความคลาสสิกที่ยังเป็นที่ต้องการไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย นี่จึงเป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ทำให้ใครหลายคนต่างหลงรักในรถส้องล้อพลังเหล็กคันนี้ . .



เรื่องโดย : พิมพรรณ มีชัยศรี
ชมภาพ







กำลังโหลดความคิดเห็น