สังคมออนไลน์ไล่บี้ “น้ำส้ม โซมี่” ไร้เหลียวแลคนเจ็บ-เสียหาย แฉคดีไม่คืบ หลังยังไม่ได้ผลตรวจร่างกาย-สารเสพติด ตร.รับมึนตึ๊บ แต่มั่นใจไม่ได้บ้าชัวร์ ชาวเน็ตรุมสวดไม่รับผิดชอบการกระทำ ยังโพสต์ตามหา “หนุ่มแว่น” ที่ช่วยอุ้มไปส่ง รพ. เชื่อหนุ่มนิรนามดูดีฐานะ เหตุ “พริตตี้ขายครีมคนดัง” อยากตามหา ปูด “ญาติน้ำส้ม” ส่งปลาทูพร้อมเงิน 1.5 หมื่นให้เหยื่อบาดเจ็บ 2 ราย ตอนแรกอ้างของเยี่ยม ก่อนพลิกลิ้นว่าเป็นชดใช้ความเสียหายแล้ว ผู้เสียหายโผล่อีกรายโอดขอแค่คำขอโทษยังไม่ได้ ยังต้องเสียเวลา-ค่าใช้จ่ายอีก
จากกรณี น.ส.กรฤตฎ ทับทิมผล หรือ “น้ำส้ม โซมี่” พริตตี้ขายครีมทางโซเชี่ยลออนไลน์ ได้ขับขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียน กบ 42 กรุงเทพมหานคร ชนรถยนต์พังเสียหายรวม 9 คัน บน ถ.รัชดาภิเษก มุ่งหน้าแยกพระราม 9 ช่วงจุดกลับรถหน้าห้างเอสพลานาด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวแสดงอาการคล้ายคนมีอาการทางประสาทในที่เกิดเหตุและในระหว่างเข้าให้การต่อตำรวจ เช่น การตะโกนทำนองว่าอยากตาย หรือตะโกนว่ารถกำลังจะระเบิด และระหว่างอยู่ที่ สน.ห้วยขวางก็ได้นั่งสมาธิและพนมมือ ก่อนที่ทางญาติจะรับตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี ในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ร.ต.อ.ปภิณวิช เสนาแตง รองสารวัตรสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้เปิดเผยถึงการแจ้งข้อหาต่อ น.ส.กรฤตฎว่า ยังไม่ได้แจ้งข้อหาเพิ่ม เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่กำลังรอผลตรวจสารเสพติดจากโรงพยาบาล ซึ่งทางตำรวจได้ทำหนังสือไปถึงโรงพยาบาลราชบุรีที่ น.ส.กรฤตฎไปรักษาตัวอยู่ ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. และเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ร.ต.อ.ปภิณวิชก็ได้ติดต่อไปยัง โรงพยาบาลด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งเพียงว่า ได้ส่งเลือด และปัสสาวะ ให้ทางโรงพยาบาลตรวจซ้ำ เนื่องจากว่ามีสารเสพติดใกล้เคียงกับตัวยาที่กินเพื่อรักษา ตำรวจจึงอยู่ระหว่างขั้นตอนการรอผลตรวจ และยังไม่ได้แจ้งหาเพิ่มต่อ น.ส.กรฤตฎ
“จากการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ มั่นใจว่าไม่ได้มีปัญหาทางประสาทอย่างที่ปรากฎเป็นข่าว เพียงแต่น่าจะกินยาอะไรเข้าไปแล้วเบลอจนพูดไม่รู้เรื่อง” ร.ต.อ.ปภิณวิช ระบุเมื่อวันที่ 18 พ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีความเคลื่อนไหวของ น.ส.กรฤตฎ โดยได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค “กฤตรฎ โซมี่ ทับทิมผล” ระบุข้อความสั้นๆว่า “คุณกำลังฆ่าฉันอย่างช้าๆ!” โดยมีบรรดาแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจ และขอให้การอาการป่วยหายโดยเร็ว
ก่อนที่จะโพสต์อีกข้อความเพื่อตามหาชายคนหนึ่งที่เป็นอุ้มเจ้าตัวส่งโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ โดยระบุว่า “ใครทราบบ้างเอ่ย ว่าใครอุ้มน้ำส้มมาโรงพยาบาลคะ จำได้แค่ว่า ผู้ชาย ใส่แว่น ใจเย็น และเป็นห่วงน้ำส้มจริงๆ”
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้โพสต์ข้อความในเชิงตัดพ้อว่า “ถ้าเราตาย ถึงจะจบ และเป็นที่พอใจกันขีดสุด รึป่าวคะและถ้าไม่ใช่น้ำส้ม โซมี่ เรื่องจะใหญ่และโดนจิกด่าว่าเสียมีความผิดชั่วช้าไร้ความดีมากมายถึงขนาดนี้ไหมคะถ้าเป็นคนอื่น...จะได้รับการเจ็บช้ำซ้ำนานเหมือนน้ำส้มไหม
สูญเสียมากมายแค่ไหนถึงจะยกโทษให้หนูคะกับบาปกรรมทั้งหมดที่ได้กระทำไปและเกิดขึ้นช่างดูเดือนร้อนกระทบใจใครต่อใครไปมากมายเหลือเกินดินสอไม้ยังมียางลบไว้ให้โอกาสคนเขียนผิดลองคิดต่อกันเอง...”
ซึ่งภายหลังที่ น.ส.กรฤตฎ โพสต์ข้อความดังกล่าว ก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เรียกร้องให้ น.ส.กรฤตฎ รับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง พร้อมตำหนิที่ไม่ไปดูแลผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บเสียหายจากเหตุการณ์รถชน
ล่าสุดวานนี้ (20 พ.ย.) ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ค “Red Skull V.SE” ที่ได้ติดตามกรณีของ น.ส.กรฤตฎ มาอย่างต่อเนื่อง ก็ได้โพสต์ข้อความสรุปความคืบหน้าจากกรณีดังกล่าว ที่ได้รับการแจ้งมาจากทางแฟนเพจ โดยมีสาระสำคัญระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆในทางคดีความ และไม่มีการตั้งข้อหาจากทางตำรวจ ส่วนผลการตรวจร่างกายและสารเสพติดนั้น ยังไม่ได้รับการเปิดเผย ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นได้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่ทางญาติจะรับตัวไปรักษาและตรวจ่างกายที่โรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหา ส่วนการแสดงความรับผิดชอบนั้น ทางผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายได้รับกระเช้าจากญาติ น.ส.กรฤตฎ เป็นปลาทู 1 กล่อง พร้อมเงินอีก 15,000 บาท โดยตอนแรกทางญาติระบุว่า เป็นการมาเยี่ยมและเป็นของเยี่ยม แต่ตอนหลังกลับระบุว่า เป็นเงินชดใช้ค่ารักษาพยาบาล พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่ทำพฤติกรรมคล้ายคนมีปัญหาทางประสาทหรือแกล้งบ้านั้น ก็เพื่อหวังผลเกี่ยวกับรูปคดี
ซึ่งในช่องแสดงความคิดเห็นก็ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊คบัญชี Nisachon Yodwichai ได้มาโพสต์ภาพรถยนต์ที่เสียหาย พร้อมระบุข้อความว่า “1 ใน 3 ที่โดนชนหนัก 🚙 😭 เราไม่ขอไรมาก ขอแค่คำขอโทษ แต่กลับไร้วี่แวว #ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย”
นอกจากนี้ยังมีแฟนเพจบางรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ น.ส.กรฤตฎ โพสต์ตามหาชายที่มาช่วยอุ้มไปส่งโรงพยาบาลในทำนองว่า ชายคนดังกล่าวรูปร่างหน้าตาดี และดูมีฐานะ จึงทำให้ น.ส.กรฤตฎ ออกมาประกาศตามหาด้วย.
จากกรณี น.ส.กรฤตฎ ทับทิมผล หรือ “น้ำส้ม โซมี่” พริตตี้ขายครีมทางโซเชี่ยลออนไลน์ ได้ขับขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียน กบ 42 กรุงเทพมหานคร ชนรถยนต์พังเสียหายรวม 9 คัน บน ถ.รัชดาภิเษก มุ่งหน้าแยกพระราม 9 ช่วงจุดกลับรถหน้าห้างเอสพลานาด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวแสดงอาการคล้ายคนมีอาการทางประสาทในที่เกิดเหตุและในระหว่างเข้าให้การต่อตำรวจ เช่น การตะโกนทำนองว่าอยากตาย หรือตะโกนว่ารถกำลังจะระเบิด และระหว่างอยู่ที่ สน.ห้วยขวางก็ได้นั่งสมาธิและพนมมือ ก่อนที่ทางญาติจะรับตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี ในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ร.ต.อ.ปภิณวิช เสนาแตง รองสารวัตรสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้เปิดเผยถึงการแจ้งข้อหาต่อ น.ส.กรฤตฎว่า ยังไม่ได้แจ้งข้อหาเพิ่ม เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่กำลังรอผลตรวจสารเสพติดจากโรงพยาบาล ซึ่งทางตำรวจได้ทำหนังสือไปถึงโรงพยาบาลราชบุรีที่ น.ส.กรฤตฎไปรักษาตัวอยู่ ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. และเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ร.ต.อ.ปภิณวิชก็ได้ติดต่อไปยัง โรงพยาบาลด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งเพียงว่า ได้ส่งเลือด และปัสสาวะ ให้ทางโรงพยาบาลตรวจซ้ำ เนื่องจากว่ามีสารเสพติดใกล้เคียงกับตัวยาที่กินเพื่อรักษา ตำรวจจึงอยู่ระหว่างขั้นตอนการรอผลตรวจ และยังไม่ได้แจ้งหาเพิ่มต่อ น.ส.กรฤตฎ
“จากการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ มั่นใจว่าไม่ได้มีปัญหาทางประสาทอย่างที่ปรากฎเป็นข่าว เพียงแต่น่าจะกินยาอะไรเข้าไปแล้วเบลอจนพูดไม่รู้เรื่อง” ร.ต.อ.ปภิณวิช ระบุเมื่อวันที่ 18 พ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีความเคลื่อนไหวของ น.ส.กรฤตฎ โดยได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค “กฤตรฎ โซมี่ ทับทิมผล” ระบุข้อความสั้นๆว่า “คุณกำลังฆ่าฉันอย่างช้าๆ!” โดยมีบรรดาแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจ และขอให้การอาการป่วยหายโดยเร็ว
ก่อนที่จะโพสต์อีกข้อความเพื่อตามหาชายคนหนึ่งที่เป็นอุ้มเจ้าตัวส่งโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ โดยระบุว่า “ใครทราบบ้างเอ่ย ว่าใครอุ้มน้ำส้มมาโรงพยาบาลคะ จำได้แค่ว่า ผู้ชาย ใส่แว่น ใจเย็น และเป็นห่วงน้ำส้มจริงๆ”
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้โพสต์ข้อความในเชิงตัดพ้อว่า “ถ้าเราตาย ถึงจะจบ และเป็นที่พอใจกันขีดสุด รึป่าวคะและถ้าไม่ใช่น้ำส้ม โซมี่ เรื่องจะใหญ่และโดนจิกด่าว่าเสียมีความผิดชั่วช้าไร้ความดีมากมายถึงขนาดนี้ไหมคะถ้าเป็นคนอื่น...จะได้รับการเจ็บช้ำซ้ำนานเหมือนน้ำส้มไหม
สูญเสียมากมายแค่ไหนถึงจะยกโทษให้หนูคะกับบาปกรรมทั้งหมดที่ได้กระทำไปและเกิดขึ้นช่างดูเดือนร้อนกระทบใจใครต่อใครไปมากมายเหลือเกินดินสอไม้ยังมียางลบไว้ให้โอกาสคนเขียนผิดลองคิดต่อกันเอง...”
ซึ่งภายหลังที่ น.ส.กรฤตฎ โพสต์ข้อความดังกล่าว ก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เรียกร้องให้ น.ส.กรฤตฎ รับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง พร้อมตำหนิที่ไม่ไปดูแลผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บเสียหายจากเหตุการณ์รถชน
ล่าสุดวานนี้ (20 พ.ย.) ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ค “Red Skull V.SE” ที่ได้ติดตามกรณีของ น.ส.กรฤตฎ มาอย่างต่อเนื่อง ก็ได้โพสต์ข้อความสรุปความคืบหน้าจากกรณีดังกล่าว ที่ได้รับการแจ้งมาจากทางแฟนเพจ โดยมีสาระสำคัญระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆในทางคดีความ และไม่มีการตั้งข้อหาจากทางตำรวจ ส่วนผลการตรวจร่างกายและสารเสพติดนั้น ยังไม่ได้รับการเปิดเผย ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นได้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนที่ทางญาติจะรับตัวไปรักษาและตรวจ่างกายที่โรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหา ส่วนการแสดงความรับผิดชอบนั้น ทางผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายได้รับกระเช้าจากญาติ น.ส.กรฤตฎ เป็นปลาทู 1 กล่อง พร้อมเงินอีก 15,000 บาท โดยตอนแรกทางญาติระบุว่า เป็นการมาเยี่ยมและเป็นของเยี่ยม แต่ตอนหลังกลับระบุว่า เป็นเงินชดใช้ค่ารักษาพยาบาล พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่ทำพฤติกรรมคล้ายคนมีปัญหาทางประสาทหรือแกล้งบ้านั้น ก็เพื่อหวังผลเกี่ยวกับรูปคดี
ซึ่งในช่องแสดงความคิดเห็นก็ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊คบัญชี Nisachon Yodwichai ได้มาโพสต์ภาพรถยนต์ที่เสียหาย พร้อมระบุข้อความว่า “1 ใน 3 ที่โดนชนหนัก 🚙 😭 เราไม่ขอไรมาก ขอแค่คำขอโทษ แต่กลับไร้วี่แวว #ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย”
นอกจากนี้ยังมีแฟนเพจบางรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ น.ส.กรฤตฎ โพสต์ตามหาชายที่มาช่วยอุ้มไปส่งโรงพยาบาลในทำนองว่า ชายคนดังกล่าวรูปร่างหน้าตาดี และดูมีฐานะ จึงทำให้ น.ส.กรฤตฎ ออกมาประกาศตามหาด้วย.
