ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เต้นผางกันใหญ่ หลังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นหัวเรือใหญ่ ออกแบบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ พ.ร.ป. กกต. แบบเสียวสันหลัง เพราะมีการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกกต.ต่อไปในอนาคตใหม่ โดยเปลี่ยนจากของเก่าไปเยอะ
จนเกิดคำถามว่า คุณสมบัติดังกล่าวจะมีผลย้อนหลังกับ 5 เสือกกต. ที่นั่งทำงานอยู่ทุกวันนี้หรือไม่ เพราะหลายคนหรือแทบจะทั้งหมดอาจหลุดเก้าอี้แบบไม่รู้ตัว ถ้ากรธ.บรรจงจัดว่า พ.ร.ป.กกต.ฉบับใหม่ มีผลย้อนหลังกับกกต.ชุดปัจจุบันด้วย
เรียกว่า ถ้ากรธ.ตัดสินใจให้ยึดคุณสมบัติใหม่โดยมีผลย้อนหลังมาถึง กกต.ชุด ปัจจุบัน ท้ายที่สุดจะเหลือแค่ สมชัย ศรีสุทธิยากร เพียงคนเดียวเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง โอกาสที่หวยจะออกแบบนั้นเป็นไปได้สูง เพราะโทนเสียง กรธ.แต่ละคน โน้มเอียงไปในลักษณะที่ว่า ถ้าใครไม่ขัดคุณสมบัติอยู่ต่อได้ แต่ถ้าใครคุณสมบัติขัดก็ต้องปิ๋วไปโดยทันที ง่ายๆ ก็คือ ช่วยไม่ได้อยากขัดเอง
การออกแบบแบบนี้ จะว่าไปเหมือนกับเป็นความจงใจของกรธ. ที่จะยกเครื่องกกต.ใหม่ เพราะต้องยอมรับว่า กกต.ชุด ปัจจุบันโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรในแง่ประสิทธิภาพของการทำงาน ไม่เป็นไปตามที่หลายคนคาดหวัง ทั้งที่มีอดีตผู้พิพากษาจำนวนหลายคน ก่อนมาชื่อชั้นโปรไฟล์ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว ระดับหัวกระทิ แต่พอได้ลงสนามจริง โดยเฉพาะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ถูกคนนินทาหมาดูถูกระงมว่า ไม่ได้เรื่องได้ราว ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับชุดเก่าว่าคนละชั้น วันๆ เอาแต่ต่อปากต่อคำ
หรือแม้กระทั่งการทำประชามติที่ผ่านมา แม้จะไม่วุ่นวายเหมือนการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แต่ กกต.ชุด นี้หลายคนปล่อยไก่กันบ่อยจัด โดยเฉพาะสมชัย ขาประจำที่โชว์โยนหีบบัตรพลาสติกที่โวว่าแข็งแรงทนทาน แต่สุดท้ายแหกไม่มีชิ้นดี ขายขี้หน้าชาวบ้านชาวช่อง จนถูกคนทำคลิปล้อเล่นไปทั่ว ตลกร้ายยังมีแก้เขินว่า เป็นการโปรโมตการทำประชามติ ชนิดคนมีวุฒิภาวะระดับกกต.ไม่น่าจะทำอะไรเลอะเทอะแบบนี้
แล้วยังมามีปัญหาเรื่องแย่งเก้าอี้ประธานกกต.กันอีก ถึงขนาดกดดันให้ ศุภชัย สมเจริญ ประธานคนปัจจุบันไขก๊อกตามที่สัญญาเอาไว้ว่าจะทำหน้าที่เพียง 2 ปี ถึงขนาดปล่อยให้ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว เลยเถิดชนิดที่ว่าจะปรึกษากรธ. ว่าเปลี่ยนประธานกกต.ได้หรือไม่
งามหน้าเท่านั้นยังไม่พอ ธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต. ด้านกิจพรรคการเมือง ยังมาโดนผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรมในประเด็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผล ประโยชน์ ตลอดจนมีกรณีของชู้สาว โดยมีการส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนเป็นที่เรียบร้อย
เบ็ดเสร็จตั้งแต่ 5 เสือ ชุดนี้เข้ามามีแต่เรื่องงามหน้าทั้งนั้น ในแง่ผลงานแทบไม่มีใครจดจำ ขณะที่กระแสสังคมก็เรียกร้องให้มีการเซตซีโรใหม่ เพื่อหาคนที่มีความรู้ ความสามารถมากกว่านี้เข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้น นี่จึงอาจเป็นที่มาว่า ทำไม กรธ.จึงกำหนดคุณสมบัติใหม่ เสมือนหนึ่งว่าจงใจดีด กกต.ชุดปัจจุบันให้หลุดจากหน้าที่ ซึ่งวิธีการเขียนกฎหมายลูกนี้ก็ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่แนบเนียนในการล้างบางใหม่ ดีกว่าการให้ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 ที่อาจถูกมองว่า แทรกแซงองค์กรอิสระ
ชัด ไม่ชัดก็ดูกันเอา กฎหมายลูกในส่วนขององค์กรอิสระอื่นๆ แทบไม่ได้ถูกแตะต้องในเรื่องคุณสมบัติเท่าไหร่ หรือแตะต้อง ก็ไม่ได้กระทบต่อบุคคลในองค์กรอิสระชุดปัจจุบัน แตกต่างจากของกกต. ที่เหมือนดีไซน์ให้กกต.ชุดปัจจุบันต้องหลุดจากเก้าอี้
แต่อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ตอนชาวบ้านรู้เรื่อง หลายคนยกมือท่วมหัวภาวนาสาธุกันยกใหญ่เหมือนกัน เพราะเป็นสิ่งที่มีการเรียกร้องมาค่อนข้างนานแล้ว แต่ กกต.เองตอนนี้ก้นร้อนกันหลายคน เพราะเหมือนรู้ชะตากรรมว่ากำลังสูญเสียอำนาจที่เพิ่งจะได้มาไม่นานนี้ เพราะสัญญาณจากกรธ. ค่อนข้างแน่ว่าจะโละ เลยออกมาสวด กรธ.ยกใหญ่ แบบไม่ไว้หน้าซือแป๋มีชัย
โดยเฉพาะสมชัย ที่เป็นหนึ่งในคนเดียวที่อาจเหลืออยู่ในชุดนี้ แต่ฟาดงวงฟาดงากว่าเพื่อน คนอื่นๆ ยังเหนียมอาย ไม่กล้าออกมาตีโพยตีพายเท่าไหร่ เพราะจะกลายเป็นว่ายึดติดตำแหน่ง ออกมาปกป้องตัวเองเพื่อรักษาเก้าอี้ สมชัยถึงขนาดซัดแรงๆ กลับไปที่กรธ. ว่าจ้องกำจัดกกต.ชุดปัจจุบัน แถมพาลไปหาเพื่อนๆ องค์กรอิสระอื่นๆ ทำนองว่า ถ้าอั๊วโดน พวกลื้อก็ต้องโดนด้วย ไม่ยอมตายเดี่ยวแน่ๆ
แขวะไปถึงขนาดศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้มาจากผู้เชี่ยวชาญสายนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ อย่างละ 1 คน แต่ขณะนี้มีอยู่สายละ 2 คน ต้องจับสลากออกสายละ 1 คนหรือไม่ เอาเป็นว่า กกต.เปิดฉากใส่ กรธ.เต็มพิกัด เพื่อภารกิจเซฟที่นั่งตัวเอง
แต่การออกมาของสมชัย กลายเป็นลบเสียมากกว่า เพราะเหมือนเป็นการปกป้องตัวเอง ไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้เท่านั้น แต่รวมถึงกรณีที่กรธ. จะกำหนดให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่แทนกกต.จังหวัด ที่อัดกันไม่สนเด็กผู้ใหญ่ว่า เป็นนวัตกรรมที่ฟุ้งซ่าน ทั้งที่แนวคิดดังกล่าวมีมาตั้งแต่ยุคบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่อยากให้ยก กกต.จังหวัดออก เนื่องจากค่อนข้างมีปัญหา และถูกแทรกแซงง่าย
การกระซวกหมัดใส่กรธ. แม้ดูหนักหน่วง แต่คงไม่มีแรงกดดันอะไรได้ เนื่องจากกระแสสังคมมันเทว่าอยากให้เซตซีโรเต็มแก่ แล้วอาจจะโดนย้อนกลับแรงๆ ด้วยว่า ทำไมตอนอยู่ไม่ทำหน้าที่ให้ดี แถมยังมีเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นกันอีก
การบวกแบบหนักๆ แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะอย่าลืมว่า กรธ.เองก็เป็นหนึ่งในแม่น้ำ 5 สาย ที่ใกล้ชิดกับคสช. ถ้าผู้มีอำนาจยืนยันว่าจะโละ อย่างไรเสียก็เกียร์ห้า ไม่มีเกียร์ถอยหลังแน่นอน ยิ่งบวกอาจยิ่งซวย เผลอๆ แม้แต่สมชัยก็อาจจะไม่เหลือ เชื่อสิ !!!