สำนักราชเลขาธิการ เผยแพร่ภาพ "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ" ทรงตามเสด็จสมเด็จพระชนกนาถ เยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดาร แม้ทรงพระดำเนินด้วยความลำบาก แต่ด้วยพระราชอุตสาหะวิริยะ จึงมิทรงย่อท้อ ขณะที่ล่วงเข้าวันที่ยี่สิบสี่ ของพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประชาชนจากทั่วประเทศยังคงหลั่งไหลมาถวายสักการะพระบรมศพไม่ขาดสาย
เฟซบุ๊ก Information Division of OHM ของกองข่าว สำนักราชเลขาธิการ ได้โพสต์ภาพและข้อความในหัวข้อ "ตามรอยพระยุคลบาท" ระบุว่า ในป่าดอยอันเป็นถิ่นทุรกันดาร ถึงแม้จะมีทางเดินตัดผ่านให้สัญจรไปมาได้สะดวกขึ้นแล้วก็ตาม ครั้นถึงหน้าฝน ฝนตกแฉะทางจะลื่น บางแห่งเป็นโคลนตมจนกลายเป็นหล่มเป็นเลนก็มี เดินเข้าไปเมื่อใดเป็นได้หกล้มจมปลักกันหลายครั้งหลายหน
คราวหนึ่ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ ทรงตามเสด็จสมเด็จพระชนกนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารด้วย วันนั้นฝนพรำทำให้น้ำป่าบ่าไหล หนทางเปียกแฉะ เป็นเหตุให้ทรงพระดำเนินด้วยความลำบาก ตลอดทางจึงทรงลื่นล้มไปหลายครั้ง แต่ด้วยพระราชอุตสาหะวิริยะ จึงมิทรงย่อท้อแต่ประการใด
***ประชาชนทั่วประเทศยังคงหลั่งไหล
เมื่อเวลา 07.00 น.วานนี้ (6พ.ย.) ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นประธานบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถวายภัตตาหารเช้า แด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และ วัดอนงคารามวรวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมศพ
จากนั้นเวลา 11.00 น. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร และวัดสุทัศนเทพวราราม
ทั้งนี้พระบรมโกศที่ใช้ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นพระโกศทองใหญ่ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อ พ.ศ.2351 โดยโปรดให้รื้อทองที่หุ้มพระโกศกุดั่น ที่ใช้ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี และในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ เมื่อปี พ.ศ.2342 มาทำเป็นพระโกศทองใหญ่ขึ้น ไว้สำหรับพระบรมศพของพระองค์ และเป็นประเพณีในรัชกาลต่อมา เมื่อพระมหากษัตริย์สวรรคต จะใช้พระโกศทองใหญ่ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระโกศทองใหญ่สำหรับพระบรมศพจะมีเครื่องประดับประกอบพระอิสริยยศพระมหากษัตริย์ ประกอบด้วย ดอกไม้เพชรพุ่มข้าวบิณฑ์ ประดับยอดพระโกศทองใหญ่ ดอกไม้ไหว , เฟื่องและพู่เงินประดับฝาพระโกศ และดอกไม้เอวประดับเอวพระโกศ
ต่อมาเวลา 15.00 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร และวัดสุทัศนเทพวราราม สวดพระอธิธรรม วงสังข์แตร วงปี่ไฉนกลองชนะ และวงปี่พาทย์นางหงส์ ประโคมย่ำยาม
สำหรับการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังนั้น ทางสำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยมีประชาชนจากทั่วประเทศเข้าคิวรอถวายสักการะพระบรมศพ เป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา 10.00 น. สมาคมกีฬาจักรยาน จ.ราชบุรี ชายหญิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จำนวน 300 คน มาถึงยังหน้าพระลาน ซึ่งทั้งหมดนี้ ชวนกันปั่นจักรยานจาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตั้งแต่ 05.00น. มาถึงกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 07.00น. เพื่อร่วมแสดงความอาลัย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนในตลาดบ้านโป่ง ที่ประสบอัคคีภัยเมื่อหลายสิบปีก่อน
นางสุดา ทวีกาญจน์ นายกสมาคมกีฬาจักรยาน จ.ราชบุรี ที่ร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานไว้อาลัยครั้งนี้ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวบ้านโป่ง อย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยทรงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ ที่ตลาดบ้านโป่ง เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2479 พร้อมพระราชทานความช่วยเหลือด้วย สร้างความซาบซึ้งใจแก่ผู้ประสบภัยอย่างมาก
"ไฟไหม้ตลาดวอดหมดเลย ครั้งนั้นในหลวงได้พระราชทานเงินช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้น 1 แสนบาท ถือเป็นพระราชกรณียกิจแรกๆ หลังจากทรงขึ้นครองราชย์เลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นก็ได้เสด็จญ อีกครั้ง ที่หอพระพุทธสิหิงค์ วัดดอนตูม อ.บ้านโป่ง พวกเราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เลยรวมตัวกันปั่นจักรยาน มาแสดงความอาลัยพระองค์ท่าน โดยรถจักรยานจอดไว้แถว ร.พ.ศิริราช แล้วนั่งเรือข้ามฟากมาพระบรมมหาราชวัง ที่เลือกการปั่น ก็เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ดี ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ เราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์จึงมีความอดทน ถือเป็นการน้อมนำกระแสพระราชดำริ ความพอเพียงมาใช้ เน้นนวามประหยัด ไม่ใช่น้ำมัน และไม่ก่อมลพิษ เป็นแบบอย่างให้คนอื่นๆได้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมฯ ได้ร่วมกับจังหวัดแปรอักษร "ราชบุรี ทำดีเพื่อพ่อ " อีกด้วย" นางสุดา กล่าว
พร้อม บอกว่า ได้นำภาพเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเยี่ยมประชาชนที่ประสบอัคคีภัยมาด้วย นอกจากนี้ยังเตรียมดอกไม้มา เพื่อวางถวายความอาลัยข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง จากนั้นจะร่วมกันร้องเพลง "ล้นเกล้าเผ่าไทย" ก่อนปั่นจักรยานกลับ ในวันเดียวกัน
** พระองค์โสมฯประทานข้าวเหนียวไก่ทอด
เวลา 10.34 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในฐานะองค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เสด็จยังรถโรงครัวเคลื่อนที่ “เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ช่วยด้วยใจคนไทยไม่ทิ้งกัน”ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก บริเวณหน้ากรมศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อทรงทอดไก่ประทานแจกจ่ายพร้อมข้าวเหนียว ให้กับพสกนิกร ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ โดยมีประชาชนเดินทางมาต่อแถวชื่นชมพระบารมี และรับอาหาร ที่ประทานให้ด้วยความปลื้มปิติ
สำหรับเมนูประทาน เป็นไก่ทอด 1,200 กก.ข้าวเหนียว 500 กก. พร้อมข้าวจี่สูตรส่วนพระองค์ที่ทรงคิดขึ้นมาเอง โดยมีบุคลากรจาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ข้าราชจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และสมาชิกอาสาสภากาชาดไทย มาร่วมทอดไก่ เพื่อแจกให้กับประชาชนในครั้งนี้ด้วย
การนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานแก่สื่อมวลชนถึงเคล็ดลับการทอดไก่ให้นุ่ม ว่า ก่อนอื่นต้องหมักไก่ตรงบริเวณช่วงน่องบนไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงนำมาลงกระทะทอด ส่วนเหตุผลที่ประทานข้าวเหนียวไก่ทอดให้แก่พสกนิกรที่มาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศนั้น พระองค์โสมฯ ทรงรับสั่งด้วยพระสุรเสียงสดใสว่า ไก่เป็นอาหารที่ทานง่าย สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย และทุกเชื้อชาติศาสนา ที่สำคัญสามารถเก็บไว้ได้นาน
"จากประสบการณ์ที่เคยนำรถโรงครัวเคลื่อนที่ “เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ช่วยด้วยใจคนไทยไม่ทิ้งกัน”ไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุต่างๆ นั้นเราผ่านการลองผิดลองถูกในการปรุงอาหารในการแจกคนมาหลายครั้ง และสุดท้ายก็ทำให้รู้ว่า ข้าวเหนียวไก่ รับประทานง่าย และเสียยาก"
นอกจากนี้พระองค์โสมฯ ยังทรงรับสั่งตอบคำถามกับสื่อมวลชนกับคำถาที่ว่า ทรงเหนื่อยบ้างหรือไม่ ที่เสด็จมาทอดไก่ประทานแทบทุกวันว่า " ร้อนน่ะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถามว่าเหนื่อยไหม ต้องบอกว่าเหนื่อยจนชินแล้ว เพราะทำอาหารมาเยอะ เคยทำจำนวนมาก ตั้งแต่แจกคนเป็นหลักแสน ถึงน้อยที่สุดคือหลักพันคน แต่ครั้งนี้ทำมาแจกให้ กับประชาชนวันละหลายหมื่นคน ส่วนข้าวจี่ เป็นเมนูใหม่ที่พึ่งคิดขึ้นมา เพราะมีคนนำไข่ไก่มาถวายให้จำนวน 3,000 ฟอง ก็ไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไร จึงคิดสูตรข้าวจี่ขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง"
***ซีอีโอทรูแจกน้ำคนมาถวายความอาลัย
วานนี้ (6 พ.ย.) ที่ท้องสนามหลวง นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนางบุษดี เจียรวนนท์ ภรรยา ได้ทำกิจกรรม "ซีพีอาสา" ร่วมกับพนักงานเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้บริการประชาชนที่เข้าไปกราบถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยชงเครื่องดื่มเย็นได้แก่ กาแฟเย็น น้ำส้ม ชามะนาว น้ำฝรั่ง ชาเย็น แจกจ่ายประชาชน ณ เต็นท์ซีพี อาสา โซนใต้ หมายเลข 16 และร่วมแจกข้าวผัดกระเพราหมู ไข่ต้มสมุนไพร น้ำดื่ม เป็นเมนูอาหารมื้อกลางวันแก่ประชาชนที่เต๊นท์ซีพีอาสาโซนเหนือ หมายเลข 34 รวมทั้งยังยังแวะเยี่ยมเป็นกำลังใจและถ่ายรูปกับเหล่าซีพีจิตอาสาจุดต่างๆ
**"ลูกถวัลย์"แจกพระบรมฉายาลักษณ์
ส่วนด้านหน้าถนนหน้าพระลาน นายดอยธิเบศร์ ดัชนี ลูกชายคนเดียวของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เดินทางมาแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยสัปดาห์นี้ นำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่ถ่ายโดยช่างภาพตามเสด็จฯ 9 แบบ จำนวน 6 หมื่นภาพ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ บริเวณหน้าธนาคารคารกรุงไทย ตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง.
เฟซบุ๊ก Information Division of OHM ของกองข่าว สำนักราชเลขาธิการ ได้โพสต์ภาพและข้อความในหัวข้อ "ตามรอยพระยุคลบาท" ระบุว่า ในป่าดอยอันเป็นถิ่นทุรกันดาร ถึงแม้จะมีทางเดินตัดผ่านให้สัญจรไปมาได้สะดวกขึ้นแล้วก็ตาม ครั้นถึงหน้าฝน ฝนตกแฉะทางจะลื่น บางแห่งเป็นโคลนตมจนกลายเป็นหล่มเป็นเลนก็มี เดินเข้าไปเมื่อใดเป็นได้หกล้มจมปลักกันหลายครั้งหลายหน
คราวหนึ่ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ ทรงตามเสด็จสมเด็จพระชนกนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารด้วย วันนั้นฝนพรำทำให้น้ำป่าบ่าไหล หนทางเปียกแฉะ เป็นเหตุให้ทรงพระดำเนินด้วยความลำบาก ตลอดทางจึงทรงลื่นล้มไปหลายครั้ง แต่ด้วยพระราชอุตสาหะวิริยะ จึงมิทรงย่อท้อแต่ประการใด
***ประชาชนทั่วประเทศยังคงหลั่งไหล
เมื่อเวลา 07.00 น.วานนี้ (6พ.ย.) ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นประธานบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถวายภัตตาหารเช้า แด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และ วัดอนงคารามวรวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมศพ
จากนั้นเวลา 11.00 น. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร และวัดสุทัศนเทพวราราม
ทั้งนี้พระบรมโกศที่ใช้ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นพระโกศทองใหญ่ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อ พ.ศ.2351 โดยโปรดให้รื้อทองที่หุ้มพระโกศกุดั่น ที่ใช้ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี และในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ เมื่อปี พ.ศ.2342 มาทำเป็นพระโกศทองใหญ่ขึ้น ไว้สำหรับพระบรมศพของพระองค์ และเป็นประเพณีในรัชกาลต่อมา เมื่อพระมหากษัตริย์สวรรคต จะใช้พระโกศทองใหญ่ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระโกศทองใหญ่สำหรับพระบรมศพจะมีเครื่องประดับประกอบพระอิสริยยศพระมหากษัตริย์ ประกอบด้วย ดอกไม้เพชรพุ่มข้าวบิณฑ์ ประดับยอดพระโกศทองใหญ่ ดอกไม้ไหว , เฟื่องและพู่เงินประดับฝาพระโกศ และดอกไม้เอวประดับเอวพระโกศ
ต่อมาเวลา 15.00 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร และวัดสุทัศนเทพวราราม สวดพระอธิธรรม วงสังข์แตร วงปี่ไฉนกลองชนะ และวงปี่พาทย์นางหงส์ ประโคมย่ำยาม
สำหรับการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังนั้น ทางสำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยมีประชาชนจากทั่วประเทศเข้าคิวรอถวายสักการะพระบรมศพ เป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา 10.00 น. สมาคมกีฬาจักรยาน จ.ราชบุรี ชายหญิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จำนวน 300 คน มาถึงยังหน้าพระลาน ซึ่งทั้งหมดนี้ ชวนกันปั่นจักรยานจาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตั้งแต่ 05.00น. มาถึงกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 07.00น. เพื่อร่วมแสดงความอาลัย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนในตลาดบ้านโป่ง ที่ประสบอัคคีภัยเมื่อหลายสิบปีก่อน
นางสุดา ทวีกาญจน์ นายกสมาคมกีฬาจักรยาน จ.ราชบุรี ที่ร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานไว้อาลัยครั้งนี้ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวบ้านโป่ง อย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยทรงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ ที่ตลาดบ้านโป่ง เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2479 พร้อมพระราชทานความช่วยเหลือด้วย สร้างความซาบซึ้งใจแก่ผู้ประสบภัยอย่างมาก
"ไฟไหม้ตลาดวอดหมดเลย ครั้งนั้นในหลวงได้พระราชทานเงินช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้น 1 แสนบาท ถือเป็นพระราชกรณียกิจแรกๆ หลังจากทรงขึ้นครองราชย์เลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นก็ได้เสด็จญ อีกครั้ง ที่หอพระพุทธสิหิงค์ วัดดอนตูม อ.บ้านโป่ง พวกเราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เลยรวมตัวกันปั่นจักรยาน มาแสดงความอาลัยพระองค์ท่าน โดยรถจักรยานจอดไว้แถว ร.พ.ศิริราช แล้วนั่งเรือข้ามฟากมาพระบรมมหาราชวัง ที่เลือกการปั่น ก็เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ดี ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ เราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์จึงมีความอดทน ถือเป็นการน้อมนำกระแสพระราชดำริ ความพอเพียงมาใช้ เน้นนวามประหยัด ไม่ใช่น้ำมัน และไม่ก่อมลพิษ เป็นแบบอย่างให้คนอื่นๆได้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมฯ ได้ร่วมกับจังหวัดแปรอักษร "ราชบุรี ทำดีเพื่อพ่อ " อีกด้วย" นางสุดา กล่าว
พร้อม บอกว่า ได้นำภาพเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเยี่ยมประชาชนที่ประสบอัคคีภัยมาด้วย นอกจากนี้ยังเตรียมดอกไม้มา เพื่อวางถวายความอาลัยข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง จากนั้นจะร่วมกันร้องเพลง "ล้นเกล้าเผ่าไทย" ก่อนปั่นจักรยานกลับ ในวันเดียวกัน
** พระองค์โสมฯประทานข้าวเหนียวไก่ทอด
เวลา 10.34 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในฐานะองค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เสด็จยังรถโรงครัวเคลื่อนที่ “เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ช่วยด้วยใจคนไทยไม่ทิ้งกัน”ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก บริเวณหน้ากรมศิลปากร ถนนหน้าพระธาตุ เพื่อทรงทอดไก่ประทานแจกจ่ายพร้อมข้าวเหนียว ให้กับพสกนิกร ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ โดยมีประชาชนเดินทางมาต่อแถวชื่นชมพระบารมี และรับอาหาร ที่ประทานให้ด้วยความปลื้มปิติ
สำหรับเมนูประทาน เป็นไก่ทอด 1,200 กก.ข้าวเหนียว 500 กก. พร้อมข้าวจี่สูตรส่วนพระองค์ที่ทรงคิดขึ้นมาเอง โดยมีบุคลากรจาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ข้าราชจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และสมาชิกอาสาสภากาชาดไทย มาร่วมทอดไก่ เพื่อแจกให้กับประชาชนในครั้งนี้ด้วย
การนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานแก่สื่อมวลชนถึงเคล็ดลับการทอดไก่ให้นุ่ม ว่า ก่อนอื่นต้องหมักไก่ตรงบริเวณช่วงน่องบนไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงนำมาลงกระทะทอด ส่วนเหตุผลที่ประทานข้าวเหนียวไก่ทอดให้แก่พสกนิกรที่มาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศนั้น พระองค์โสมฯ ทรงรับสั่งด้วยพระสุรเสียงสดใสว่า ไก่เป็นอาหารที่ทานง่าย สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย และทุกเชื้อชาติศาสนา ที่สำคัญสามารถเก็บไว้ได้นาน
"จากประสบการณ์ที่เคยนำรถโรงครัวเคลื่อนที่ “เพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ช่วยด้วยใจคนไทยไม่ทิ้งกัน”ไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุต่างๆ นั้นเราผ่านการลองผิดลองถูกในการปรุงอาหารในการแจกคนมาหลายครั้ง และสุดท้ายก็ทำให้รู้ว่า ข้าวเหนียวไก่ รับประทานง่าย และเสียยาก"
นอกจากนี้พระองค์โสมฯ ยังทรงรับสั่งตอบคำถามกับสื่อมวลชนกับคำถาที่ว่า ทรงเหนื่อยบ้างหรือไม่ ที่เสด็จมาทอดไก่ประทานแทบทุกวันว่า " ร้อนน่ะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถามว่าเหนื่อยไหม ต้องบอกว่าเหนื่อยจนชินแล้ว เพราะทำอาหารมาเยอะ เคยทำจำนวนมาก ตั้งแต่แจกคนเป็นหลักแสน ถึงน้อยที่สุดคือหลักพันคน แต่ครั้งนี้ทำมาแจกให้ กับประชาชนวันละหลายหมื่นคน ส่วนข้าวจี่ เป็นเมนูใหม่ที่พึ่งคิดขึ้นมา เพราะมีคนนำไข่ไก่มาถวายให้จำนวน 3,000 ฟอง ก็ไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไร จึงคิดสูตรข้าวจี่ขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง"
***ซีอีโอทรูแจกน้ำคนมาถวายความอาลัย
วานนี้ (6 พ.ย.) ที่ท้องสนามหลวง นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนางบุษดี เจียรวนนท์ ภรรยา ได้ทำกิจกรรม "ซีพีอาสา" ร่วมกับพนักงานเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้บริการประชาชนที่เข้าไปกราบถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยชงเครื่องดื่มเย็นได้แก่ กาแฟเย็น น้ำส้ม ชามะนาว น้ำฝรั่ง ชาเย็น แจกจ่ายประชาชน ณ เต็นท์ซีพี อาสา โซนใต้ หมายเลข 16 และร่วมแจกข้าวผัดกระเพราหมู ไข่ต้มสมุนไพร น้ำดื่ม เป็นเมนูอาหารมื้อกลางวันแก่ประชาชนที่เต๊นท์ซีพีอาสาโซนเหนือ หมายเลข 34 รวมทั้งยังยังแวะเยี่ยมเป็นกำลังใจและถ่ายรูปกับเหล่าซีพีจิตอาสาจุดต่างๆ
**"ลูกถวัลย์"แจกพระบรมฉายาลักษณ์
ส่วนด้านหน้าถนนหน้าพระลาน นายดอยธิเบศร์ ดัชนี ลูกชายคนเดียวของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เดินทางมาแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยสัปดาห์นี้ นำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่ถ่ายโดยช่างภาพตามเสด็จฯ 9 แบบ จำนวน 6 หมื่นภาพ มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ บริเวณหน้าธนาคารคารกรุงไทย ตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง.