เหลือเชื่อ! แต่นี่คือ...ชีวิตจริงมิใช่นิทาน...
“ชายผู้หนึ่ง” เกิดที่โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2470
“ชายผู้นี้” ใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนตั้งแต่เยาว์วัย ก่อนจะได้เป็น “พระราชาแห่งสยามประเทศ” แทน “พระเชษฐา” ในวันที่ 9 มิถุนายน 2489 โดยมีพระปฐมบรมราชโองการอันยิ่งใหญ่ว่า
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
หลังกลับสู่แผ่นดินไทย “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ทรงตรากตรำเดินทางไปหาประชาชนของพระองค์ทั่วชาติไทย เพื่อแก้ไขทุกข์ยากของปวงชนชาวไทยอย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย โดยมิได้ห่วงใยสุขภาพของพระองค์เองแม้แต่น้อย
พระองค์ทรงคิดทรงทำโครงการตามพระราชดำริกว่า 4 พันโครงการ เพื่อช่วยชาวไทยผู้มีรายได้น้อย ให้มีอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่อเนื่อง วันแล้ววันเล่า-สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า-เดือนแล้วเดือนเล่า-ปีแล้วปีเล่า จากหนึ่งปี-สองปี-สามปี-สี่ปี-ห้าปี-หกปี-เจ็ดปี-แปดปี-เก้าปี-สิบปี-ยี่สิบปี-สามสิบปี-สี่สิบปี-ห้าสิบปี-หกสิบปี-เจ็ดสิบปี ที่ทรงครองราชย์-ทรงครองงานหนัก-ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ฯลฯ
ด้วยความเป็นผู้ให้ต่อเนื่องยาวนานถึง 70 ปี จน “ชายผู้นี้” ได้ครองหัวใจปวงชนชาวไทยทั้งชาติ ในฐานะ “องค์มหาราชรัชกาลที่เก้า!”
อีกทั้งพระองค์ยังทรงเป็น “กษัตริย์เหนือกษัตริย์” ที่ยิ่งใหญ่ชั่วนิรันดร์ ของชาวไทยและชาวโลก...!
และมี “ชายคนหนึ่ง” เกิดวันที่ 26 กรกฎาคม 2492 ที่ จ.เชียงใหม่ ประเทศไทย “เขา” เกิดหลัง “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ถึง 22 ปี
“นักการเมืองบางคน” ช่วย “ชายคนนี้” ให้ผูกขาดธุรกิจโทรคมนาคมจนร่ำรวยนับหมื่นๆ ล้านบาท ก่อนที่ “เขา” จะทุ่มเงินซื้อเสียงชนะการเลือกตั้ง ได้เป็น “นายกรัฐมนตรี” ของชาติไทยในปี 2544
แต่ “นายกรัฐมนตรีคนนี้” ไม่ได้ทำดีเพื่อชาติและประชาชน “เขา” ใช้อำนาจรัฐอย่างอธรรม ทำการคอร์รัปชันโกงชาติบ้านเมืองอย่างหน้าด้านๆ ชนิดมิรู้จักพอตลอดเวลา
ที่สำคัญ... “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” ยังเหิมเกริมถึงขนาดจะ “เปลี่ยนรัฐไทย” จากประชาธิปไตยที่มี “พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ให้เป็นประชาธิปไตยแบบมะกัน ที่มี “ประธานาธิบดีเป็นประมุข”
“นายกรัฐมนตรีคนนั้น” จึงได้สนับสนุนพวก “ล้มเจ้า” ทั้งลับและเปิดเผย ด้วยปฏิบัติการโค่นล้ม “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” และ “สถาบันพระมหากษัตริย์” อย่างต่อเนื่อง
สิบกว่าปีที่ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” และเครือข่ายยึด “ครองแผ่นดินโดยอธรรม” ใช้อำนาจอธรรมปล้นชาติปล้นประชาชน รวมทั้งมุ่งโค่นล้ม “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ที่ “ครองแผ่นดินโดยธรรม” ทุกรูปแบบ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” ใช้ระบอบเผด็จการรัฐสภา ใช้ประชาธิปไตยชั่วช้าสามานย์โกงกินชาติ มุ่งขยายระบอบทุนนิยมสามานย์ ทำลายแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของ “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” เรื่อยมา...
ความชั่วมหันต์ของ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” และเครือข่าย ทำให้ประชาชนคนไทยทนไม่ไหว ต้องออกมาชุมนุมขับไล่ “ผู้นำชาติชั่วช้า” อย่างมืดฟ้ามัวดิน จนพรรคของ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” ถูกยุบ 2 ครั้ง! รัฐบาล “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” และเครือข่ายถูก “คณะทหาร” รัฐประหารโค่นล้มลงอีก 2 ครั้ง
ทว่า “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” เชื่อว่า วันใดที่ชาติไทยมีการเลือกตั้ง “เขา” กับพวกจะต้องชนะเลือกตั้งอีกครา ดังที่ “พวกเขา” เคยชนะซ้ำซากมาแล้วในอดีต
โชคดี -ที่ชาติไทยมี “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ผู้ทรงรักประชาชนของพระองค์ ชนิดหาที่เปรียบมิได้อีกแล้ว ดังนั้น ตลอดเวลาที่ทรงครองราชย์นานถึง 70 ปี พระองค์จึงทรงมีประชาชนอยู่ในดวงหทัย และประชาชนคนไทยก็มี “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” อยู่ในดวงใจเช่นกัน
โชคดีอีก -ที่ชาติไทยมีประชาชนส่วนใหญ่ รักและเทิดทูน “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ด้วยปัญญา-ด้วยเหตุผล ฯลฯ โดย “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” กับพวกให้ร้ายป้ายสี แต่มีคนไทยเพียงหยิบมือเท่านั้น ที่เข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้ปฏิบัติการหลอกลวงประชาชนให้ร่วม “ล้มเจ้า” ล้มเหลวเรื่อยมา
รัฐประหารครั้งนี้...รัฐบาลทหารของนายกฯ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังจะปล่อยให้ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” และพวก หวนกลับมายึดอำนาจรัฐไทยได้อีกหรือ?ถ้า “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” กับพวก กลับมาเถลิงอำนาจรัฐไทยได้อีกครา ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชนชาวไทย ย่อมตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวงแน่นอน
13 ตุลาคม 2559 “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” องค์มหาราช-ของปวงชนชาวไทยและชาวโลก...เสด็จสู่สวรรคาลัย...
“น้ำตาอาลัย” ของชาวไทยท่วมผืนแผ่นดินแห่งนี้! แต่ “หัวใจชาวไทย” ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว! ชาวไทยทุกคนมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการ “ทำความดี” ตามที่ “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ได้ทรงสอนสั่งพสกนิกรมายาวนานนับ 70 ปีโดยเฉพาะทรงสอนให้ชาวไทยทุกคน ...ต้องทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติบ้านเมือง กีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ...
เมื่อ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” ไม่ลด-ละ-เลิกต่อการจะยึด “อำนาจรัฐไทย” ไปปล้นชาติบ้านเมือง...
มีหรือที่ทหารและประชาชนของ “พระราชารัชกาลที่เก้า” และ “สถาบันพระมหากษัตริย์” จะนิ่งดูดาย...???
“เรื่องราว” ในอดีตตราบปัจจุบัน และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตของ “พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่” กับ “นายกรัฐมนตรีโฉดคนนั้น” ล้วนเป็นเรื่องจริงในโลกยุคดิจิตอล... มิใช่นิทานปรัมปรา...
“ชายผู้หนึ่ง” เกิดที่โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2470
“ชายผู้นี้” ใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนตั้งแต่เยาว์วัย ก่อนจะได้เป็น “พระราชาแห่งสยามประเทศ” แทน “พระเชษฐา” ในวันที่ 9 มิถุนายน 2489 โดยมีพระปฐมบรมราชโองการอันยิ่งใหญ่ว่า
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
หลังกลับสู่แผ่นดินไทย “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ทรงตรากตรำเดินทางไปหาประชาชนของพระองค์ทั่วชาติไทย เพื่อแก้ไขทุกข์ยากของปวงชนชาวไทยอย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย โดยมิได้ห่วงใยสุขภาพของพระองค์เองแม้แต่น้อย
พระองค์ทรงคิดทรงทำโครงการตามพระราชดำริกว่า 4 พันโครงการ เพื่อช่วยชาวไทยผู้มีรายได้น้อย ให้มีอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่อเนื่อง วันแล้ววันเล่า-สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า-เดือนแล้วเดือนเล่า-ปีแล้วปีเล่า จากหนึ่งปี-สองปี-สามปี-สี่ปี-ห้าปี-หกปี-เจ็ดปี-แปดปี-เก้าปี-สิบปี-ยี่สิบปี-สามสิบปี-สี่สิบปี-ห้าสิบปี-หกสิบปี-เจ็ดสิบปี ที่ทรงครองราชย์-ทรงครองงานหนัก-ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ฯลฯ
ด้วยความเป็นผู้ให้ต่อเนื่องยาวนานถึง 70 ปี จน “ชายผู้นี้” ได้ครองหัวใจปวงชนชาวไทยทั้งชาติ ในฐานะ “องค์มหาราชรัชกาลที่เก้า!”
อีกทั้งพระองค์ยังทรงเป็น “กษัตริย์เหนือกษัตริย์” ที่ยิ่งใหญ่ชั่วนิรันดร์ ของชาวไทยและชาวโลก...!
และมี “ชายคนหนึ่ง” เกิดวันที่ 26 กรกฎาคม 2492 ที่ จ.เชียงใหม่ ประเทศไทย “เขา” เกิดหลัง “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ถึง 22 ปี
“นักการเมืองบางคน” ช่วย “ชายคนนี้” ให้ผูกขาดธุรกิจโทรคมนาคมจนร่ำรวยนับหมื่นๆ ล้านบาท ก่อนที่ “เขา” จะทุ่มเงินซื้อเสียงชนะการเลือกตั้ง ได้เป็น “นายกรัฐมนตรี” ของชาติไทยในปี 2544
แต่ “นายกรัฐมนตรีคนนี้” ไม่ได้ทำดีเพื่อชาติและประชาชน “เขา” ใช้อำนาจรัฐอย่างอธรรม ทำการคอร์รัปชันโกงชาติบ้านเมืองอย่างหน้าด้านๆ ชนิดมิรู้จักพอตลอดเวลา
ที่สำคัญ... “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” ยังเหิมเกริมถึงขนาดจะ “เปลี่ยนรัฐไทย” จากประชาธิปไตยที่มี “พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ให้เป็นประชาธิปไตยแบบมะกัน ที่มี “ประธานาธิบดีเป็นประมุข”
“นายกรัฐมนตรีคนนั้น” จึงได้สนับสนุนพวก “ล้มเจ้า” ทั้งลับและเปิดเผย ด้วยปฏิบัติการโค่นล้ม “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” และ “สถาบันพระมหากษัตริย์” อย่างต่อเนื่อง
สิบกว่าปีที่ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” และเครือข่ายยึด “ครองแผ่นดินโดยอธรรม” ใช้อำนาจอธรรมปล้นชาติปล้นประชาชน รวมทั้งมุ่งโค่นล้ม “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ที่ “ครองแผ่นดินโดยธรรม” ทุกรูปแบบ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” ใช้ระบอบเผด็จการรัฐสภา ใช้ประชาธิปไตยชั่วช้าสามานย์โกงกินชาติ มุ่งขยายระบอบทุนนิยมสามานย์ ทำลายแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของ “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” เรื่อยมา...
ความชั่วมหันต์ของ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” และเครือข่าย ทำให้ประชาชนคนไทยทนไม่ไหว ต้องออกมาชุมนุมขับไล่ “ผู้นำชาติชั่วช้า” อย่างมืดฟ้ามัวดิน จนพรรคของ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” ถูกยุบ 2 ครั้ง! รัฐบาล “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” และเครือข่ายถูก “คณะทหาร” รัฐประหารโค่นล้มลงอีก 2 ครั้ง
ทว่า “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” เชื่อว่า วันใดที่ชาติไทยมีการเลือกตั้ง “เขา” กับพวกจะต้องชนะเลือกตั้งอีกครา ดังที่ “พวกเขา” เคยชนะซ้ำซากมาแล้วในอดีต
โชคดี -ที่ชาติไทยมี “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ผู้ทรงรักประชาชนของพระองค์ ชนิดหาที่เปรียบมิได้อีกแล้ว ดังนั้น ตลอดเวลาที่ทรงครองราชย์นานถึง 70 ปี พระองค์จึงทรงมีประชาชนอยู่ในดวงหทัย และประชาชนคนไทยก็มี “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” อยู่ในดวงใจเช่นกัน
โชคดีอีก -ที่ชาติไทยมีประชาชนส่วนใหญ่ รักและเทิดทูน “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ด้วยปัญญา-ด้วยเหตุผล ฯลฯ โดย “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” กับพวกให้ร้ายป้ายสี แต่มีคนไทยเพียงหยิบมือเท่านั้น ที่เข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้ปฏิบัติการหลอกลวงประชาชนให้ร่วม “ล้มเจ้า” ล้มเหลวเรื่อยมา
รัฐประหารครั้งนี้...รัฐบาลทหารของนายกฯ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังจะปล่อยให้ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” และพวก หวนกลับมายึดอำนาจรัฐไทยได้อีกหรือ?ถ้า “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” กับพวก กลับมาเถลิงอำนาจรัฐไทยได้อีกครา ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชนชาวไทย ย่อมตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวงแน่นอน
13 ตุลาคม 2559 “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” องค์มหาราช-ของปวงชนชาวไทยและชาวโลก...เสด็จสู่สวรรคาลัย...
“น้ำตาอาลัย” ของชาวไทยท่วมผืนแผ่นดินแห่งนี้! แต่ “หัวใจชาวไทย” ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว! ชาวไทยทุกคนมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการ “ทำความดี” ตามที่ “พระมหากษัตริย์รัชกาลที่เก้า” ได้ทรงสอนสั่งพสกนิกรมายาวนานนับ 70 ปีโดยเฉพาะทรงสอนให้ชาวไทยทุกคน ...ต้องทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติบ้านเมือง กีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ...
เมื่อ “นายกรัฐมนตรีคนนั้น” ไม่ลด-ละ-เลิกต่อการจะยึด “อำนาจรัฐไทย” ไปปล้นชาติบ้านเมือง...
มีหรือที่ทหารและประชาชนของ “พระราชารัชกาลที่เก้า” และ “สถาบันพระมหากษัตริย์” จะนิ่งดูดาย...???
“เรื่องราว” ในอดีตตราบปัจจุบัน และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตของ “พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่” กับ “นายกรัฐมนตรีโฉดคนนั้น” ล้วนเป็นเรื่องจริงในโลกยุคดิจิตอล... มิใช่นิทานปรัมปรา...