รองปลัดฯ และโฆษกยุติธรรมแจงชาวนารวมกลุ่มสีข้าว ขายข้าวผ่านเฟซบุ๊กไม่ผิด กม.ขายตรง อัยการประจำสำนักอัยการสูงสุดยันพร้อมแนะชาวนาต้องเพิ่มราคาเอาตัวรอดจากราคาข้าวที่ถูกกว่ามาม่า 1 ห่อ ส่วนโฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ชื่นชม ส่วนว กบข.ประชุมหามาตรการช่วยเหลือวันนี้
จากกรณีเพจ "ทนายคู่ใจ" ได้เขียนข้อกฎหมายให้ความรู้เกี่ยวกับการขายข้าวผ่านเฟซบุ๊ก ระวังโดนจับ เนื่องจากมีกฎหมาย พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง มีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดี หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่ได้มีการเผยแพร่ไปแล้วนั้น
วานนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ตามเจตนารมณ์พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 เนื่องมาจากการทำตลาดขายตรง และตลาดแบบตรงในปัจจุบันได้มีการใช้วิธีการชักชวน และจัดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในธุรกิจดังกล่าว โดยตกลงจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น...
ดังนั้น เมื่อพิจารณาดูคำนิยามตาม มาตรา 3 แห่งพ.ร.บ.นี้ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ซึ่งให้คำนิยามต่างๆ แล้ว การขายข้าวของเกษตรกรที่สีข้าวและขายเอง จึงไม่เข้าข่ายตามกฏหมายขายตรง ครับ
“ขายตรง”หมายความว่า การทำตลาดสินค้า หรือบริการในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระ โดยผ่านตัวแทนขายตรง หรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้นแต่ไม่รวมถึงนิติกรรมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
“ตลาดแบบตรง”หมายความว่า การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภคซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงนั้น
"ผู้จำหน่ายอิสระ”หมายความว่า บุคคลที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและนำสินค้าหรือบริการดังกล่าวไปเสนอขายตรงต่อผู้บริโภค
“ตัวแทนขายตรง”หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงให้นำสินค้าหรือบริการไปเสนอขายตรงต่อผู้บริโภค
กล่าวสรุปโดยรวม"เกษตรกรสีข้าวและขายข้าวเอง" จึงไม่เข้าข่ายเป็นผู้จำหน่ายอิสระ เนื่องจากไม่เป็นตัวแทนขายตรง เพราะไม่มีการผ่านตัวแทนขายตรง หรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้น ไม่ใช่การตลาดแบบตรง และไม่เป็นการขายตรงตามพ.ร.บ.นี้แน่นอนครับ
อนึ่ง ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลก็จะมีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป
วันเดียวกัน ร.ต.อ.ชูมิตร ชุณหวาณิชพิทักษ์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า “ชาวนาลำบาก ขายข้าวเองผ่านเฟซบุ๊ก พี่เสือใคร่ขอนำเสนอเจตนารมณ์ของกฎหมายเราต้องดูคำนิยามของกฎหมาย ก่อนเข้าไปดูในเนื้อหาตรงนี้สำคัญมาก
“ขายตรง” หมายความว่า การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นโดยผ่านตัวแทนขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระ แต่ไม่รวมถึงนิติกรรมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545
หลักการและเหตุผล คือ โดยที่การประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าหรือบริการในปัจจุบันได้ใช้วิธีการทำตลาดในลักษณะที่เข้าถึงผู้บริโภค โดยการเสนอขายสินค้าหรือบริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของบุคคลอื่น หรือสถานที่อื่นที่ไม่ใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระโดยการอธิบายหรือการสาธิตสินค้าผ่านผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง การเสนอขายสินค้าหรือบริการในลักษณะดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคอยู่ในสภาวการณ์ที่ไม่อาจตัดสินใจตกลงซื้อสินค้าหรือรับบริการได้อย่างอิสระและรอบคอบ นอกจากนี้ยังมีการประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค เช่น โดยอาศัยสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางแสดงเจตนาตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการดังกล่าวนั้น ซึ่งในกรณีนี้สินค้าหรือบริการดังกล่าวอาจไม่ตรงกับคำกล่าวอ้างตามที่ได้โฆษณาไว้ อีกทั้งการทำตลาดขายตรงและตลาดแบบตรงในปัจจุบันได้มีการใช้วิธีการชักชวนและจัดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในธุรกิจดังกล่าว โดยตกลงจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น อันมีลักษณะเป็นการหลอกลวงประชาชน การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการขายแบบเชิงรุกดังกล่าว ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปในฐานะผู้บริโภคตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบและก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมและไม่สงบสุขในสังคม ประกอบกับบทบัญญัติของกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถให้ความคุ้มครองแก่ผู้บริโภคได้อย่างเพียงพอ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ดังนั้น การที่ชาวนาเขาเดือดร้อน เขาไม่ต้องการขายข้าวเปลือกที่ราคาตกต่ำ แต่เปลี่ยนแนวทางโดยการทำเป็นข้าวสาร ขายให้แก่ลูกค้าโดยตรง เพื่อต้องการราคาที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ชาวนาเขาไม่ได้ทำการค้าในลักษณะซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรเลย แต่เขาทำการค้าแบบชาวบ้าน แบบสุจริตชน มิใช่เป็นไปตามคำนิยามของกฎหมายข้างต้นโดยผ่านตัวแทนขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้นแต่อย่างใด"เจตนา" เขาต้องการเพียงเอาตัวรอดจากราคาข้าวที่ถูกกว่า “มาม่า” 1 ห่อ เท่านั้นเอง
ด้วยความเคารพ ผมว่าเจตนาของชาวนา กฎหมายนี้ไม่สามารถใช้บังคับกับเขาได้ดังเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นครับ ผมพร้อมจะช่วยท่านครับ “ชาวนา” จากที่กล่าวมา ชาวนาที่เคารพรัก ท่านสามารถใช้เฟซบุ๊กของผม 2 เฟซ คนชมเกือบ 10,000 คน เสนอขายข้าวสารของท่านได้เลยครับ “ฟรี” ครับ”
***ประชุม กนข.หามาตรการแก้ปัญหา
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงราคาข้าวเปลือก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ที่มีราคาตกต่ำว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาข้าวแบบยั่งยืน โดยเริ่มตั้งแต่ ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่าข้าวไม่ได้ปลูกแค่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ประเทศอื่นก็มีการปลูกเช่นกัน ดังนั้นระบบที่จะทำให้ข้าวราคาไม่ตกต่ำ ต้องเริ่มจากภาครัฐ ร่วมกับภาคเอกชน และเกษตรกร ซึ่งวงรอบการปลูกจะต้องมีความชัดเจน สอดคล้องกับระบบการบริหารจัดการน้ำ การปลูกพืชอย่างอื่นทดแทน หรือการใช้ระบบเกษตรผสมผสาน การปศุสัตว์ การปลูกพืชน้ำน้อย เพื่อทำให้ข้าวมีปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่จะพึงพอใจ
ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนรู้มาตลอดว่า เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว จะมีปริมาณข้าวออกมามาก รัฐบาลจึงได้กำหนดโครงการต่างๆ ออกมา โดยเฉพาะการชะลอไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดเร็วเกินไป รัฐบาลสนับสนุนในด้านของสินเชื่อ เพื่อไปดำเนินการในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการแก้ปัญหาข้าวอย่างยั่งยืน
"รัฐบาลคิดแผนในระยะยาวทุกๆ ด้าน ไม่ได้คิดเพียงว่า ให้เงินลงไป ถ้าเป็นแบบนั้นถือเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เกษตรกรอาจถูกใจที่ได้เงิน แต่ระบบเศรษฐกิจในภาพรวมประเทศเสียหาย เพราะอย่าลืมว่า ประเทศไทยมีอีกหลายปัญหาที่ต้องทำ และแก้ไขควบคู่กันไป อย่างไรก็ตามปัจจุบัน มีเกษตรกรบางส่วนพยายามช่วยเหลือตัวเอง โดยการขายข้าวโดยตรง ไม่ผ่านผู้ประกอบการ บางคนใช้เทคโนโลยีโดยการขายแบบออนไลน์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบ และขอบคุณ พร้อมให้กำลังใจ แต่ก็มีกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี บอกว่าการขายตรงดังกล่าว ผิดกฎหมายเรื่องการขายตรง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมาย สามารถทำได้" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ ในวันนี้ (31 ต.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบาย และบริหารจัดการข้าว (กนข.) โดยคาดว่าจะมีมาตรการอื่นออกมาเพิ่มเติม เพื่อทำให้ระดับราคาข้าว อยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรพึงพอใจ ส่วนมาตรการต่างๆ จะออกมาอย่างไร รวมทั้งจะแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือก ที่มีคนออกมาระบุว่าราคากิโลกรัมละ 5 บาทนั้น คงต้องผลสรุปจากที่ประชุมฯ.
จากกรณีเพจ "ทนายคู่ใจ" ได้เขียนข้อกฎหมายให้ความรู้เกี่ยวกับการขายข้าวผ่านเฟซบุ๊ก ระวังโดนจับ เนื่องจากมีกฎหมาย พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบตรง มีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดี หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่ได้มีการเผยแพร่ไปแล้วนั้น
วานนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ตามเจตนารมณ์พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 เนื่องมาจากการทำตลาดขายตรง และตลาดแบบตรงในปัจจุบันได้มีการใช้วิธีการชักชวน และจัดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในธุรกิจดังกล่าว โดยตกลงจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น...
ดังนั้น เมื่อพิจารณาดูคำนิยามตาม มาตรา 3 แห่งพ.ร.บ.นี้ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ซึ่งให้คำนิยามต่างๆ แล้ว การขายข้าวของเกษตรกรที่สีข้าวและขายเอง จึงไม่เข้าข่ายตามกฏหมายขายตรง ครับ
“ขายตรง”หมายความว่า การทำตลาดสินค้า หรือบริการในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระ โดยผ่านตัวแทนขายตรง หรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้นแต่ไม่รวมถึงนิติกรรมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
“ตลาดแบบตรง”หมายความว่า การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภคซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงนั้น
"ผู้จำหน่ายอิสระ”หมายความว่า บุคคลที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและนำสินค้าหรือบริการดังกล่าวไปเสนอขายตรงต่อผู้บริโภค
“ตัวแทนขายตรง”หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงให้นำสินค้าหรือบริการไปเสนอขายตรงต่อผู้บริโภค
กล่าวสรุปโดยรวม"เกษตรกรสีข้าวและขายข้าวเอง" จึงไม่เข้าข่ายเป็นผู้จำหน่ายอิสระ เนื่องจากไม่เป็นตัวแทนขายตรง เพราะไม่มีการผ่านตัวแทนขายตรง หรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้น ไม่ใช่การตลาดแบบตรง และไม่เป็นการขายตรงตามพ.ร.บ.นี้แน่นอนครับ
อนึ่ง ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลก็จะมีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป
วันเดียวกัน ร.ต.อ.ชูมิตร ชุณหวาณิชพิทักษ์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า “ชาวนาลำบาก ขายข้าวเองผ่านเฟซบุ๊ก พี่เสือใคร่ขอนำเสนอเจตนารมณ์ของกฎหมายเราต้องดูคำนิยามของกฎหมาย ก่อนเข้าไปดูในเนื้อหาตรงนี้สำคัญมาก
“ขายตรง” หมายความว่า การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นโดยผ่านตัวแทนขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระ แต่ไม่รวมถึงนิติกรรมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545
หลักการและเหตุผล คือ โดยที่การประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าหรือบริการในปัจจุบันได้ใช้วิธีการทำตลาดในลักษณะที่เข้าถึงผู้บริโภค โดยการเสนอขายสินค้าหรือบริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของบุคคลอื่น หรือสถานที่อื่นที่ไม่ใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติธุระโดยการอธิบายหรือการสาธิตสินค้าผ่านผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง การเสนอขายสินค้าหรือบริการในลักษณะดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคอยู่ในสภาวการณ์ที่ไม่อาจตัดสินใจตกลงซื้อสินค้าหรือรับบริการได้อย่างอิสระและรอบคอบ นอกจากนี้ยังมีการประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค เช่น โดยอาศัยสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางแสดงเจตนาตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการดังกล่าวนั้น ซึ่งในกรณีนี้สินค้าหรือบริการดังกล่าวอาจไม่ตรงกับคำกล่าวอ้างตามที่ได้โฆษณาไว้ อีกทั้งการทำตลาดขายตรงและตลาดแบบตรงในปัจจุบันได้มีการใช้วิธีการชักชวนและจัดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในธุรกิจดังกล่าว โดยตกลงจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น อันมีลักษณะเป็นการหลอกลวงประชาชน การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการขายแบบเชิงรุกดังกล่าว ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปในฐานะผู้บริโภคตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบและก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมและไม่สงบสุขในสังคม ประกอบกับบทบัญญัติของกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถให้ความคุ้มครองแก่ผู้บริโภคได้อย่างเพียงพอ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ดังนั้น การที่ชาวนาเขาเดือดร้อน เขาไม่ต้องการขายข้าวเปลือกที่ราคาตกต่ำ แต่เปลี่ยนแนวทางโดยการทำเป็นข้าวสาร ขายให้แก่ลูกค้าโดยตรง เพื่อต้องการราคาที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ชาวนาเขาไม่ได้ทำการค้าในลักษณะซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรเลย แต่เขาทำการค้าแบบชาวบ้าน แบบสุจริตชน มิใช่เป็นไปตามคำนิยามของกฎหมายข้างต้นโดยผ่านตัวแทนขายตรงหรือผู้จำหน่ายอิสระชั้นเดียวหรือหลายชั้นแต่อย่างใด"เจตนา" เขาต้องการเพียงเอาตัวรอดจากราคาข้าวที่ถูกกว่า “มาม่า” 1 ห่อ เท่านั้นเอง
ด้วยความเคารพ ผมว่าเจตนาของชาวนา กฎหมายนี้ไม่สามารถใช้บังคับกับเขาได้ดังเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นครับ ผมพร้อมจะช่วยท่านครับ “ชาวนา” จากที่กล่าวมา ชาวนาที่เคารพรัก ท่านสามารถใช้เฟซบุ๊กของผม 2 เฟซ คนชมเกือบ 10,000 คน เสนอขายข้าวสารของท่านได้เลยครับ “ฟรี” ครับ”
***ประชุม กนข.หามาตรการแก้ปัญหา
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงราคาข้าวเปลือก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ที่มีราคาตกต่ำว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาข้าวแบบยั่งยืน โดยเริ่มตั้งแต่ ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่าข้าวไม่ได้ปลูกแค่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ประเทศอื่นก็มีการปลูกเช่นกัน ดังนั้นระบบที่จะทำให้ข้าวราคาไม่ตกต่ำ ต้องเริ่มจากภาครัฐ ร่วมกับภาคเอกชน และเกษตรกร ซึ่งวงรอบการปลูกจะต้องมีความชัดเจน สอดคล้องกับระบบการบริหารจัดการน้ำ การปลูกพืชอย่างอื่นทดแทน หรือการใช้ระบบเกษตรผสมผสาน การปศุสัตว์ การปลูกพืชน้ำน้อย เพื่อทำให้ข้าวมีปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่จะพึงพอใจ
ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนรู้มาตลอดว่า เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว จะมีปริมาณข้าวออกมามาก รัฐบาลจึงได้กำหนดโครงการต่างๆ ออกมา โดยเฉพาะการชะลอไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดเร็วเกินไป รัฐบาลสนับสนุนในด้านของสินเชื่อ เพื่อไปดำเนินการในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการแก้ปัญหาข้าวอย่างยั่งยืน
"รัฐบาลคิดแผนในระยะยาวทุกๆ ด้าน ไม่ได้คิดเพียงว่า ให้เงินลงไป ถ้าเป็นแบบนั้นถือเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เกษตรกรอาจถูกใจที่ได้เงิน แต่ระบบเศรษฐกิจในภาพรวมประเทศเสียหาย เพราะอย่าลืมว่า ประเทศไทยมีอีกหลายปัญหาที่ต้องทำ และแก้ไขควบคู่กันไป อย่างไรก็ตามปัจจุบัน มีเกษตรกรบางส่วนพยายามช่วยเหลือตัวเอง โดยการขายข้าวโดยตรง ไม่ผ่านผู้ประกอบการ บางคนใช้เทคโนโลยีโดยการขายแบบออนไลน์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบ และขอบคุณ พร้อมให้กำลังใจ แต่ก็มีกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี บอกว่าการขายตรงดังกล่าว ผิดกฎหมายเรื่องการขายตรง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมาย สามารถทำได้" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ ในวันนี้ (31 ต.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบาย และบริหารจัดการข้าว (กนข.) โดยคาดว่าจะมีมาตรการอื่นออกมาเพิ่มเติม เพื่อทำให้ระดับราคาข้าว อยู่ในเกณฑ์ที่เกษตรกรพึงพอใจ ส่วนมาตรการต่างๆ จะออกมาอย่างไร รวมทั้งจะแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือก ที่มีคนออกมาระบุว่าราคากิโลกรัมละ 5 บาทนั้น คงต้องผลสรุปจากที่ประชุมฯ.