ณ บ้านพระอาทิตย์
โดย...ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
ภายหลังจากวันวิปโยคที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จสวรรคตนั้น ได้ทำให้ความโศกสลดเกิดขึ้นไปทั่วหัวระแหง น้ำตาหลั่งริน ไหล เพราะพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ล้วนแล้วแต่เกิดและใช้ชีวิตอยู่ในรัชสมัยพระองค์ท่านโดยส่วนใหญ่แทบทั้งสิ้น
ยิ่งในยุคที่โลกมีเทคโนโลยีประชาสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียด้วยแล้ว ก็ได้ทำให้ประชาชนชาวไทยซึ่งใช้เฟสบุ๊ก ไลน์ และโซเชียลมีเดียจำนวนมากติดในระดับโลกนั้น ต่างก็ได้โพสต์และแชร์ข้อความ ภาพ วิดีโอ เพื่อแสดงความรักและอาลัยที่มีต่อพ่อหลวงภูมิพลกันอย่างมากมายมหาศาลไม่ขาดสาย
ความคิดถึงพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศนั้น ได้ทำให้คนไทยได้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีของการสื่อสารยุคใหม่ ย้อนรำลึกถึงพ่อหลวงในมุมต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมิติ พระราชกรณียกิจ ความผูกพันระหว่างพสกนิกรชาวไทยกับพระมหากษัตริย์ โครงการพระราชดำริ คำสอน รวมไปถึงมิติพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านดนตรี ด้านการถ่ายภาพ ด้านการเกษตร ด้านเทคโนโลยี ด้านกีฬา ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านอุทกศาสตร์ ด้านพลังงานหมุนเวียน ด้านการแพทย์ ด้านการศึกษา ฯลฯ ได้ถูกถ่ายทอดออกมาทั้งการเขียน แชร์ ต่อกันไปเรื่อยๆอย่างไม่มีวันหมดสิ้น
เรื่องราวในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น ไม่น่าเชื่อว่าช่วงชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างและหลายความสามารถที่มีมากมายขนาดนี้ เรื่องเล่าและเรื่องราวมากมายเหล่านี้ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยว่า...
เราโชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทยในรัชกาลที่ 9
ข้อความ ภาพถ่าย พระบรมฉายาลักษณ์ วิดีโอคลิปในอดีต ที่ทำให้พสกนิกรชาวไทยได้ทบทวนความทรงจำในยามคิดถึงพ่อหลวงนั้น หลายครั้งได้ทำให้เกิดรอยยิ้มเพราะความน่าประทับใจในอดีต แต่ก็มาพร้อมกับน้ำตาเพราะความอาลัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นว่ามวลมหาพสกนิกรชาวไทยกับพ่อหลวงภูมิพลนั้น มีความผูกพันแนบแน่นจนไม่มีใครจะสามารถมาแบ่งแยกและทำลายได้
ความรักและอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศนั้น ได้เกิดฉันทานุมัติของประชาชนที่มีความตั้งใจจะไว้ทุกข์ให้นานกว่าที่รัฐบาลประกาศเอาไว้ แม้แต่สถานีโทรทัศน์หลายแห่งก็งดหลายรายการเพื่อถวายความอาลัยยาวนานกว่าที่รัฐกำหนด รวมถึงประชาชนต่างก็หาซื้อเสื้อผ้าขาวและดำเพื่อเตรียมแต่ตัวไว้ทุกข์ในระยะยาวอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในช่วงชีวิตของประชาชนในรุ่นนี้
ปรากฏการณ์มวลมหาประชาชนที่พร้อมใจกันเดินทางไปจนล้นท้องสนามหลวงเพื่อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อถวายความอาลัยให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงพระบารมีที่ยิ่งใหญ่ที่ได้มีพระมหากษัตริย์ผู้ครองหัวใจพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย
การยกย่อง สรรเสริญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแต่คนไทย แต่เกิดขึ้นและยอมรับกันทั่วโลก
แม้ในวันนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะได้เสด็จสวรรคตไปแล้ว แต่มรดกโครงการพระราชดำริที่ได้พระราชทานให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาตินับครึ่งหมื่นโครงการยังคงอยู่
ข้อความ ภาพ พระสุรเสียง และวิดีโอ เกี่ยวกับพระองค์ท่านจะยังคงอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตตลอดไป ซึ่งจะทำให้เราได้มีโอกาสได้ย้อนกลับไปเพื่อทบทวนในยามที่เราคิดถึงและโหยหาพ่อหลวงผู้ทรงทศพิธราชธรรมของคนไทยทั้งชาติ
พระราชดำรัส และคำสอนที่เป็นข้อความ พระบรมฉายาลักษณ์ พระสุรเสียง และวิดีโอ ที่เกี่ยวกับพ่อหลวงภูมิพล ก็จะกลายเป็นหลักอ้างอิงให้ชาวไทยได้สติ เป็นแบบอย่างในการทำความดี ละเว้นการทำความชั่ว และเสียสละเพื่อประเทศชาติ ในยามที่ต้องการหาทางออกให้กับประเทศได้ในทุกมิติ เสมือนหนึ่งพระองค์ท่านยังมีพระชนม์ชีพอยู่
บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่กลายเป็นบทเพลงอมตะที่จะยังอยู่คู่กับสังคมไทยอีกนานเท่านาน ให้เราได้ฟังในยามที่คิดถึงดนตรีของพ่อหลวง
นับจากนี้คำสอนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เคยพระราชทานเอาไว้ให้กับคนไทยทั้งในเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” และ “ความเพียรของพระมหาชนก” จะเป็นรากฐานทางจิตวิญญาณของคนไทยให้มีความเข้มแข็งและฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวงของตัวเอง และของประเทศชาติให้รอดพ้นจากภัยอันตรายของพายุทุนสามานย์แห่งยุคโลกาภิวัตน์ได้
“ทศพิธราชธรรม” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเป็นแบบอย่างของผู้นำในการปกครองที่ครองหัวใจคนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“รูปที่มีทุกบ้าน” พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น จะยังคงติดอยู่ต่อไปไม่ใช่ในฐานะพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน แต่จะเป็นพระมหากษัตริย์ในดวงใจนิรันดร์
เพราะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะเป็นพระมหากษัตริย์ที่อยู่ในดวงใจชาวไทยและชาวโลก ตราบนานเท่านาน
โดย...ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
ภายหลังจากวันวิปโยคที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จสวรรคตนั้น ได้ทำให้ความโศกสลดเกิดขึ้นไปทั่วหัวระแหง น้ำตาหลั่งริน ไหล เพราะพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ล้วนแล้วแต่เกิดและใช้ชีวิตอยู่ในรัชสมัยพระองค์ท่านโดยส่วนใหญ่แทบทั้งสิ้น
ยิ่งในยุคที่โลกมีเทคโนโลยีประชาสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียด้วยแล้ว ก็ได้ทำให้ประชาชนชาวไทยซึ่งใช้เฟสบุ๊ก ไลน์ และโซเชียลมีเดียจำนวนมากติดในระดับโลกนั้น ต่างก็ได้โพสต์และแชร์ข้อความ ภาพ วิดีโอ เพื่อแสดงความรักและอาลัยที่มีต่อพ่อหลวงภูมิพลกันอย่างมากมายมหาศาลไม่ขาดสาย
ความคิดถึงพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศนั้น ได้ทำให้คนไทยได้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีของการสื่อสารยุคใหม่ ย้อนรำลึกถึงพ่อหลวงในมุมต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมิติ พระราชกรณียกิจ ความผูกพันระหว่างพสกนิกรชาวไทยกับพระมหากษัตริย์ โครงการพระราชดำริ คำสอน รวมไปถึงมิติพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านดนตรี ด้านการถ่ายภาพ ด้านการเกษตร ด้านเทคโนโลยี ด้านกีฬา ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านอุทกศาสตร์ ด้านพลังงานหมุนเวียน ด้านการแพทย์ ด้านการศึกษา ฯลฯ ได้ถูกถ่ายทอดออกมาทั้งการเขียน แชร์ ต่อกันไปเรื่อยๆอย่างไม่มีวันหมดสิ้น
เรื่องราวในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น ไม่น่าเชื่อว่าช่วงชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างและหลายความสามารถที่มีมากมายขนาดนี้ เรื่องเล่าและเรื่องราวมากมายเหล่านี้ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยว่า...
เราโชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทยในรัชกาลที่ 9
ข้อความ ภาพถ่าย พระบรมฉายาลักษณ์ วิดีโอคลิปในอดีต ที่ทำให้พสกนิกรชาวไทยได้ทบทวนความทรงจำในยามคิดถึงพ่อหลวงนั้น หลายครั้งได้ทำให้เกิดรอยยิ้มเพราะความน่าประทับใจในอดีต แต่ก็มาพร้อมกับน้ำตาเพราะความอาลัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นว่ามวลมหาพสกนิกรชาวไทยกับพ่อหลวงภูมิพลนั้น มีความผูกพันแนบแน่นจนไม่มีใครจะสามารถมาแบ่งแยกและทำลายได้
ความรักและอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศนั้น ได้เกิดฉันทานุมัติของประชาชนที่มีความตั้งใจจะไว้ทุกข์ให้นานกว่าที่รัฐบาลประกาศเอาไว้ แม้แต่สถานีโทรทัศน์หลายแห่งก็งดหลายรายการเพื่อถวายความอาลัยยาวนานกว่าที่รัฐกำหนด รวมถึงประชาชนต่างก็หาซื้อเสื้อผ้าขาวและดำเพื่อเตรียมแต่ตัวไว้ทุกข์ในระยะยาวอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในช่วงชีวิตของประชาชนในรุ่นนี้
ปรากฏการณ์มวลมหาประชาชนที่พร้อมใจกันเดินทางไปจนล้นท้องสนามหลวงเพื่อร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อถวายความอาลัยให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงพระบารมีที่ยิ่งใหญ่ที่ได้มีพระมหากษัตริย์ผู้ครองหัวใจพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย
การยกย่อง สรรเสริญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแต่คนไทย แต่เกิดขึ้นและยอมรับกันทั่วโลก
แม้ในวันนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะได้เสด็จสวรรคตไปแล้ว แต่มรดกโครงการพระราชดำริที่ได้พระราชทานให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาตินับครึ่งหมื่นโครงการยังคงอยู่
ข้อความ ภาพ พระสุรเสียง และวิดีโอ เกี่ยวกับพระองค์ท่านจะยังคงอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตตลอดไป ซึ่งจะทำให้เราได้มีโอกาสได้ย้อนกลับไปเพื่อทบทวนในยามที่เราคิดถึงและโหยหาพ่อหลวงผู้ทรงทศพิธราชธรรมของคนไทยทั้งชาติ
พระราชดำรัส และคำสอนที่เป็นข้อความ พระบรมฉายาลักษณ์ พระสุรเสียง และวิดีโอ ที่เกี่ยวกับพ่อหลวงภูมิพล ก็จะกลายเป็นหลักอ้างอิงให้ชาวไทยได้สติ เป็นแบบอย่างในการทำความดี ละเว้นการทำความชั่ว และเสียสละเพื่อประเทศชาติ ในยามที่ต้องการหาทางออกให้กับประเทศได้ในทุกมิติ เสมือนหนึ่งพระองค์ท่านยังมีพระชนม์ชีพอยู่
บทเพลงพระราชนิพนธ์ที่กลายเป็นบทเพลงอมตะที่จะยังอยู่คู่กับสังคมไทยอีกนานเท่านาน ให้เราได้ฟังในยามที่คิดถึงดนตรีของพ่อหลวง
นับจากนี้คำสอนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เคยพระราชทานเอาไว้ให้กับคนไทยทั้งในเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” และ “ความเพียรของพระมหาชนก” จะเป็นรากฐานทางจิตวิญญาณของคนไทยให้มีความเข้มแข็งและฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวงของตัวเอง และของประเทศชาติให้รอดพ้นจากภัยอันตรายของพายุทุนสามานย์แห่งยุคโลกาภิวัตน์ได้
“ทศพิธราชธรรม” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเป็นแบบอย่างของผู้นำในการปกครองที่ครองหัวใจคนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“รูปที่มีทุกบ้าน” พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น จะยังคงติดอยู่ต่อไปไม่ใช่ในฐานะพระมหากษัตริย์ในรัชกาลปัจจุบัน แต่จะเป็นพระมหากษัตริย์ในดวงใจนิรันดร์
เพราะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะเป็นพระมหากษัตริย์ที่อยู่ในดวงใจชาวไทยและชาวโลก ตราบนานเท่านาน