“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
นั่นคือ ปฐมบรมราชโองการ ของ “พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า” ผู้ทรงเปี่ยมด้วยทศพิธราชธรรมต่อปวงพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด…
แต่กว่าจะทรงเป็น “องค์มหาราชในดวงใจของชาวไทย” นั้น “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” และ “ครอบครัวราชสกุลมหิดล” ต้องใช้ชีวิตอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างยาวนาน
นั่นเป็นเหตุผลที่คณะพวกเราผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ 40 คน ออกเดินทางไปตามรอยพระบาท “พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า” เพื่อนำมาถ่ายทอดให้ชาวไทยได้รับรู้
การ “ตามรอยยุวกษัตริย์” ที่ “สวิตเซอร์แลนด์” ครั้งนั้น เดินทางก่อนวัน “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 เพียงไม่กี่วัน
โดยการสนับสนุนของ “บริษัท โฮลซิม กรุ๊ป” ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่เมืองซูริค เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม-ธนาคาร-สายการบิน และธุรกิจอีกมากมายทั่วโลก เช่น นาฬิกา SWATCH ที่ชาวโลกรู้จักกันดี
“โฮลซิมฯ” สนับสนุนงานการกุศลอยู่เสมอ เช่น ครั้งหนึ่งผมกับ “พีรพล ตริยะเกษม” ที่ปรึกษา “โฮลซิมฯ” ในไทยและเวียดนาม ได้ประสานให้ “โฮลซิมฯ” บริจาคเงินห้าสิบล้านบาท โดยมี “กร ทัพพะรังสี” นำคณะผู้บริหาร “โฮลซิมฯ” เข้าเฝ้าทูลเกล้าถวายแด่ “สมเด็จพระราชินีนาถ” ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเป็นทุนส่วนหนึ่งในการสร้างหนัง “ศรีสุริโยทัย” ของ “ท่านมุ้ย” เป็นต้น
การเดินทางครั้งนั้น คณะเราได้เยี่ยมเยือน 9 ที่ประทับ เมื่อครั้ง “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” ยังทรงพระเยาว์ เช่น เมืองโลซานน์ ตลาดนัดแซงต์ฟรังซัวส์ แฟลตเลขที่ 16 บนถนนทิสโซต์ พระตำหนักวิลล่าวัฒนา แฟลตเลขที่ 19 บนถนนอาวองโปสต์ โรงเรียนเอกอล นูแวล มหาวิทยาลัยโรซานน์ โรงแรมโบริวาจ สวนริมทะเลสาบลาคเลมอง ทุ่งเลส์เพลยาร์ด ฯลฯ
หลายสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับ “ครอบครัวราชสกุลมหิดล” ยังคงอยู่ใกล้เคียงกับสภาพเดิม บางสถานที่เปลี่ยนไป แต่โดยภาพรวม ยังทำให้พวกเราเชื่อมต่อภาพในอดีตได้พอสมควร
โลซานน์ เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบใหญ่ “ลาคเลมอง” เป็นเมืองหนึ่งของโลกที่โดดเด่นทางด้านการศึกษาและวัฒนธรรม เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินและลาดเขา วิวสวยและอากาศดีเยี่ยม ทำให้ปัญญาชนระดับโลกนิยมมาพำนัก เช่น วอลแตร์ (Voltaire) และ ลอร์ด ไบรอน (Lord Byron) เป็นต้น
ตลาดนัด “แซงต์ฟรังซัวส์” เมืองโลซานน์ ตลาดโบราณแห่งนี้มีสินค้าหลายหลาก มีผัก ผลไม้ ดอกไม้ และเครื่องเทศนานาชนิด สินค้าที่ตลาดนัดนี้สดใหม่ กว่าที่ขายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตเสียอีก
“สมเด็จพระบรมราชชนนี” เมื่อครั้งต้องดูแลพระราชโอรสและพระราชธิดา พระองค์ทรงทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว จึงต้องทรงขับรถไปจ่ายตลาดเอง “แซงต์ฟรังซัวส์” จึงเป็นตลาดนัดแห่งหนึ่งที่ “สมเด็จย่า” ทรงโปรด
“ครอบครัวราชสกุลมหิดล” เช่าแฟลตเลขที่ 16 ชั้น 1 ที่ถนนทิสโซต์ เป็นที่พำนัก ด้านหลังแฟลตเป็นสถานที่ที่ “สามพี่น้องราชสกุลมหิดล” ขี่จักรยานและออกกำลังกายเสมอ คณะของเราได้ดื่มด่ำกับสถานที่ในอดีตแห่งนี้อย่างจุใจ
แต่ที่น่าเสียดาย คือ “พระตำหนักวิลล่าวัฒนา” ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 51 ระหว่างถนน Tour Haldimand กับถนน General Guisan โดยสมเด็จพระบรมราชชนนี กับพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งสามพระองค์ได้ทรงย้ายเข้ามาอยู่ หลังพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงสละราชสมบัติ และรัฐบาลขณะนั้นได้กราบบังคมทูลเชิญ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ
พระตำหนักวิลล่าวัฒนาแห่งนี้ “สมเด็จย่า” ทรงปลูกต้นไม้และผลไม้ ทั้งแอปเปิล เชอร์รี่ ต้นแพร์ ต้นพีช ต้นพลัม ทำให้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง “สมเด็จย่า” ได้นำผลไม้เหล่านั้นมาทำแยม ให้พระราชโอรสและพระราชธิดาได้เสวย
น่าเสียดายยิ่งนักที่ “พระตำหนักวิลล่าวัฒนา-หายไป” มีตึกสร้างใหม่มาแทนที่ เพราะรัฐบาลไทยไม่ได้เก็บสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ “ราชสกุลมหิดล” แห่งนี้ไว้นั่นเอง
สถานที่หลายแห่งคงต้องข้ามไป เพราะหน้ากระดาษไม่พอ เช่น ที่ประทับ “สมเด็จย่า” ณ แฟลตเลขที่ 19 ชั้น 5 บนถนนอาวองโปสต์ หรือบรรยากาศโรงเรียน “เอกอล นูแวล” ที่ตึกเรียนยังคงสภาพเดิม ส่วนมหาวิทยาลัย “โลซานน์” ได้ย้ายไปแล้ว สถานที่เดิมกลายเป็นที่ทำงานหน่วยงานรัฐ
แต่ผืนน้ำสีฟ้าคราม...ทะเลสาบ “ลาคเลมอง” ยังเหมือนเดิม โดยเฉพาะสวนริมทะเลสาบที่ “ในหลวงรัชกาลที่แปดและเก้า” ช่วงทรงพระเยาว์ เคยฉายพระรูปกับรูปปั้นลิงสามตัวปิดหู-ปิดตา-ปิดปาก แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 70 ปี “ลิงสามตัว” ยังอยู่ที่เดิมนั่งท่าเดิมจนทุกวันนี้
ที่มีความสุขที่สุด คือ ได้เห็นดอก “นาร์ซิสซัส” ที่ “สมเด็จย่า” ทรงชื่นชอบ และมักทรงเก็บดอกไม้นี้แทบทุกครั้ง คณะเราโชคดีที่ได้เห็นดอกนาร์ซิสซัสขาวสะพรั่งสุดลูกหูลูกตาเต็มทุ่ง “เลส์เพลยาร์ด”
หนังสือ “ตามรอยยุวกษัตริย์ สวิตเซอร์แลนด์” โดยสำนักพิมพ์ผู้จัดการ “ยุพา ชุมจันทร์-เขียน” ส่วน “ผม-ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย-บันทึกภาพ” หนังสือเล่มนี้จำหน่ายหมดหรือยัง...ผมไม่ทราบ...
แต่ผมตั้งใจจะบอกให้คนไทยได้รับรู้ว่า สถานที่สำคัญส่วนใหญ่ในอดีต ที่เกี่ยวข้องกับ “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” ก่อนที่พระองค์จะทรงเป็น “มหาราชในดวงใจปวงชนชาวไทยตลอดกาล” นั้น ยังคงมีอยู่...เรายังมีโอกาสไปสัมผัสความปีติเกินบรรยายที่บังเกิดกับผมได้...
ผม -จึงอยากให้คนไทย...ไปตามรอยพระบาท “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” สักครั้งครับ...
นั่นคือ ปฐมบรมราชโองการ ของ “พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า” ผู้ทรงเปี่ยมด้วยทศพิธราชธรรมต่อปวงพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด…
แต่กว่าจะทรงเป็น “องค์มหาราชในดวงใจของชาวไทย” นั้น “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” และ “ครอบครัวราชสกุลมหิดล” ต้องใช้ชีวิตอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างยาวนาน
นั่นเป็นเหตุผลที่คณะพวกเราผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ 40 คน ออกเดินทางไปตามรอยพระบาท “พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า” เพื่อนำมาถ่ายทอดให้ชาวไทยได้รับรู้
การ “ตามรอยยุวกษัตริย์” ที่ “สวิตเซอร์แลนด์” ครั้งนั้น เดินทางก่อนวัน “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 เพียงไม่กี่วัน
โดยการสนับสนุนของ “บริษัท โฮลซิม กรุ๊ป” ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่เมืองซูริค เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม-ธนาคาร-สายการบิน และธุรกิจอีกมากมายทั่วโลก เช่น นาฬิกา SWATCH ที่ชาวโลกรู้จักกันดี
“โฮลซิมฯ” สนับสนุนงานการกุศลอยู่เสมอ เช่น ครั้งหนึ่งผมกับ “พีรพล ตริยะเกษม” ที่ปรึกษา “โฮลซิมฯ” ในไทยและเวียดนาม ได้ประสานให้ “โฮลซิมฯ” บริจาคเงินห้าสิบล้านบาท โดยมี “กร ทัพพะรังสี” นำคณะผู้บริหาร “โฮลซิมฯ” เข้าเฝ้าทูลเกล้าถวายแด่ “สมเด็จพระราชินีนาถ” ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเป็นทุนส่วนหนึ่งในการสร้างหนัง “ศรีสุริโยทัย” ของ “ท่านมุ้ย” เป็นต้น
การเดินทางครั้งนั้น คณะเราได้เยี่ยมเยือน 9 ที่ประทับ เมื่อครั้ง “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” ยังทรงพระเยาว์ เช่น เมืองโลซานน์ ตลาดนัดแซงต์ฟรังซัวส์ แฟลตเลขที่ 16 บนถนนทิสโซต์ พระตำหนักวิลล่าวัฒนา แฟลตเลขที่ 19 บนถนนอาวองโปสต์ โรงเรียนเอกอล นูแวล มหาวิทยาลัยโรซานน์ โรงแรมโบริวาจ สวนริมทะเลสาบลาคเลมอง ทุ่งเลส์เพลยาร์ด ฯลฯ
หลายสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับ “ครอบครัวราชสกุลมหิดล” ยังคงอยู่ใกล้เคียงกับสภาพเดิม บางสถานที่เปลี่ยนไป แต่โดยภาพรวม ยังทำให้พวกเราเชื่อมต่อภาพในอดีตได้พอสมควร
โลซานน์ เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบใหญ่ “ลาคเลมอง” เป็นเมืองหนึ่งของโลกที่โดดเด่นทางด้านการศึกษาและวัฒนธรรม เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินและลาดเขา วิวสวยและอากาศดีเยี่ยม ทำให้ปัญญาชนระดับโลกนิยมมาพำนัก เช่น วอลแตร์ (Voltaire) และ ลอร์ด ไบรอน (Lord Byron) เป็นต้น
ตลาดนัด “แซงต์ฟรังซัวส์” เมืองโลซานน์ ตลาดโบราณแห่งนี้มีสินค้าหลายหลาก มีผัก ผลไม้ ดอกไม้ และเครื่องเทศนานาชนิด สินค้าที่ตลาดนัดนี้สดใหม่ กว่าที่ขายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตเสียอีก
“สมเด็จพระบรมราชชนนี” เมื่อครั้งต้องดูแลพระราชโอรสและพระราชธิดา พระองค์ทรงทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว จึงต้องทรงขับรถไปจ่ายตลาดเอง “แซงต์ฟรังซัวส์” จึงเป็นตลาดนัดแห่งหนึ่งที่ “สมเด็จย่า” ทรงโปรด
“ครอบครัวราชสกุลมหิดล” เช่าแฟลตเลขที่ 16 ชั้น 1 ที่ถนนทิสโซต์ เป็นที่พำนัก ด้านหลังแฟลตเป็นสถานที่ที่ “สามพี่น้องราชสกุลมหิดล” ขี่จักรยานและออกกำลังกายเสมอ คณะของเราได้ดื่มด่ำกับสถานที่ในอดีตแห่งนี้อย่างจุใจ
แต่ที่น่าเสียดาย คือ “พระตำหนักวิลล่าวัฒนา” ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 51 ระหว่างถนน Tour Haldimand กับถนน General Guisan โดยสมเด็จพระบรมราชชนนี กับพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งสามพระองค์ได้ทรงย้ายเข้ามาอยู่ หลังพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงสละราชสมบัติ และรัฐบาลขณะนั้นได้กราบบังคมทูลเชิญ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ
พระตำหนักวิลล่าวัฒนาแห่งนี้ “สมเด็จย่า” ทรงปลูกต้นไม้และผลไม้ ทั้งแอปเปิล เชอร์รี่ ต้นแพร์ ต้นพีช ต้นพลัม ทำให้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง “สมเด็จย่า” ได้นำผลไม้เหล่านั้นมาทำแยม ให้พระราชโอรสและพระราชธิดาได้เสวย
น่าเสียดายยิ่งนักที่ “พระตำหนักวิลล่าวัฒนา-หายไป” มีตึกสร้างใหม่มาแทนที่ เพราะรัฐบาลไทยไม่ได้เก็บสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของ “ราชสกุลมหิดล” แห่งนี้ไว้นั่นเอง
สถานที่หลายแห่งคงต้องข้ามไป เพราะหน้ากระดาษไม่พอ เช่น ที่ประทับ “สมเด็จย่า” ณ แฟลตเลขที่ 19 ชั้น 5 บนถนนอาวองโปสต์ หรือบรรยากาศโรงเรียน “เอกอล นูแวล” ที่ตึกเรียนยังคงสภาพเดิม ส่วนมหาวิทยาลัย “โลซานน์” ได้ย้ายไปแล้ว สถานที่เดิมกลายเป็นที่ทำงานหน่วยงานรัฐ
แต่ผืนน้ำสีฟ้าคราม...ทะเลสาบ “ลาคเลมอง” ยังเหมือนเดิม โดยเฉพาะสวนริมทะเลสาบที่ “ในหลวงรัชกาลที่แปดและเก้า” ช่วงทรงพระเยาว์ เคยฉายพระรูปกับรูปปั้นลิงสามตัวปิดหู-ปิดตา-ปิดปาก แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 70 ปี “ลิงสามตัว” ยังอยู่ที่เดิมนั่งท่าเดิมจนทุกวันนี้
ที่มีความสุขที่สุด คือ ได้เห็นดอก “นาร์ซิสซัส” ที่ “สมเด็จย่า” ทรงชื่นชอบ และมักทรงเก็บดอกไม้นี้แทบทุกครั้ง คณะเราโชคดีที่ได้เห็นดอกนาร์ซิสซัสขาวสะพรั่งสุดลูกหูลูกตาเต็มทุ่ง “เลส์เพลยาร์ด”
หนังสือ “ตามรอยยุวกษัตริย์ สวิตเซอร์แลนด์” โดยสำนักพิมพ์ผู้จัดการ “ยุพา ชุมจันทร์-เขียน” ส่วน “ผม-ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย-บันทึกภาพ” หนังสือเล่มนี้จำหน่ายหมดหรือยัง...ผมไม่ทราบ...
แต่ผมตั้งใจจะบอกให้คนไทยได้รับรู้ว่า สถานที่สำคัญส่วนใหญ่ในอดีต ที่เกี่ยวข้องกับ “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” ก่อนที่พระองค์จะทรงเป็น “มหาราชในดวงใจปวงชนชาวไทยตลอดกาล” นั้น ยังคงมีอยู่...เรายังมีโอกาสไปสัมผัสความปีติเกินบรรยายที่บังเกิดกับผมได้...
ผม -จึงอยากให้คนไทย...ไปตามรอยพระบาท “ในหลวงรัชกาลที่เก้า” สักครั้งครับ...