ผู้จัดการรายวัน360-"มนัส บุญจำนงค์" อดีตนักชงฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก นำเพื่อนนักชก วิ่งเข้ากรุง เพื่อแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง ส่วนเขยยโสธร ล่าสุดเดินทางเข้าสู่วันที่ 3 ยังมุ่งมั่นเดินให้ถึงกรุงเทพฯ เผยยังพบชายพิการ 2 ขา ปั่นรถเข็น และลุงชาวไร้อ้อย เดินทางเข้ากรุงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (24 ต.ค.) มนัส บุญจำนงค์ อดีตนักชกฮีโร่ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเหรียญเงินในปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ได้ออกวิ่งจากที่ทำการ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี พร้อมกับกลุ่มเพื่อนอดีตนักชกฮีโร่โอลิมปิก ได้แก่ วรพจน์ เพชรขุ้ม , สุริยา ปราสาทหินพิมาย ที่เคยสร้างชื่อคว้าเหรียญเงิน และเหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปีเดียวกัน และอำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลกมวยสากล กีฬาโอลิมปิกปี 2016 ที่บราซิล โดยมีจุดหมาย เพื่อไปร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
สำหรับการวิ่งในครั้งนี้ จะใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย ผ่านจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร คาดว่าจะถึงกรุงเทพฯในวันที่ 27 ต.ค.2559
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เหลือเพียง มนัส ที่ต้องวิ่งต่อไปตามลำพัง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด เนื่องจากเพื่อนที่วิ่งมาพร้อมกันติดภารกิจราชการ เเต่จะกลับมาวิ่งด้วยอีกครั้งที่กรุงเทพฯ และการวิ่งได้สิ้นสุดในเวลา 18.00 น. วิ่งได้ระยะทางกว่า 45 กม. โดยมนัสได้เข้าพักที่ อ.พรหมบุรี ก่อนออกวิ่งอีกครั้งในวันนี้ (25 ต.ค.)
ทั้งนี้ ตามเส้นทางการวิ่ง ประชาชนได้นำสิ่งของและน้ำดื่มมาบริจาค ซึ่งมนัสจะนำไปบริจาคให้กับผู้ที่เดินทางไปร่วมไว้อาลัยที่สนามหลวงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทางด้านมิสเตอร์ฮัท หนุ่มเยอรมัน ซึ่งเป็นเขยยโสธร ที่ได้ออกเดินเท้ามุ่งหน้าไปสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่เช้าวันที่ 22 ต.ค.2559 พร้อมกับนำพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ห้อยคอมาด้วย ได้เดินทางเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว โดยระหว่างทางได้เกิดอาการปวดข้อเท้า และต้องพักปฐมพยาบาลเป็นระยะ แต่เจ้าตัว ได้ยืนยันที่จะเดินต่อ และจะไปให้ถึง เพื่อไปสักการะพระบรมศพ เพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และมีคนรักมากที่สุดในโลก
ที่จ.จันทบุรี นายณรงค์ พันธุ์อินทร อายุ 54 ปี ซึ่งพิการไร้ขา 2 ข้าง ตั้งใจจะใช้รถเข็นคนพิการเดินทางไปร่วมแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระบรมมหาราชวัง ได้ออกเดินทางจากถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยทั้งตลอดเส้นทางมีชาวบ้านคอยให้กำลังใจ นำอาหารและน้ำดื่มมามอบให้ ซึ่งนายณรงค์ตั้งใจว่าจะใช้รถเข็นเดินทางให้ได้วันละ 40 กิโลเมตร
ที่ถนนสายพหลโยธิน นครสวรรค์-กำแพงเพชร นายสมยศ ศรีปั้นพริ้ง อายุ 58 ปี อาชีพทำไร่อ้อย อยู่ที่จ.กำแพงเพชร ได้แต่งกายชุดดำ สะพายกระเป๋าเป้ด้านบนมีธงชาติไทย และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเขียนข้อความ เดิน กำแพงเพชร-กรุงเทพฯ ซึ่งนายสมยศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เดินเทิดพระเกียรติในหลวงมาแล้ว 5 ครั้ง ครั้งนี้ จะเดินไปสักการะพระบรมศพ โดยได้เริ่มเดินตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา จากองค์การบริหารส่วนตำบลอ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ที่อ.ละแม จ.ชุมพร นายไมเคิล แฮมมิล หนุ่มชาวออสซี่ ที่เดินเท้าจากอ.เกาะสมุย ได้เดินทางมาถึงอ.ละแม แล้ว โดยตลอดการเดินทาง มีชาวบ้านมาทักทาย และถ่ายรูปตลอดเส้นทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (24 ต.ค.) มนัส บุญจำนงค์ อดีตนักชกฮีโร่ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเหรียญเงินในปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ได้ออกวิ่งจากที่ทำการ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี พร้อมกับกลุ่มเพื่อนอดีตนักชกฮีโร่โอลิมปิก ได้แก่ วรพจน์ เพชรขุ้ม , สุริยา ปราสาทหินพิมาย ที่เคยสร้างชื่อคว้าเหรียญเงิน และเหรียญทองแดงกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปีเดียวกัน และอำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลกมวยสากล กีฬาโอลิมปิกปี 2016 ที่บราซิล โดยมีจุดหมาย เพื่อไปร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร
สำหรับการวิ่งในครั้งนี้ จะใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย ผ่านจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร คาดว่าจะถึงกรุงเทพฯในวันที่ 27 ต.ค.2559
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เหลือเพียง มนัส ที่ต้องวิ่งต่อไปตามลำพัง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด เนื่องจากเพื่อนที่วิ่งมาพร้อมกันติดภารกิจราชการ เเต่จะกลับมาวิ่งด้วยอีกครั้งที่กรุงเทพฯ และการวิ่งได้สิ้นสุดในเวลา 18.00 น. วิ่งได้ระยะทางกว่า 45 กม. โดยมนัสได้เข้าพักที่ อ.พรหมบุรี ก่อนออกวิ่งอีกครั้งในวันนี้ (25 ต.ค.)
ทั้งนี้ ตามเส้นทางการวิ่ง ประชาชนได้นำสิ่งของและน้ำดื่มมาบริจาค ซึ่งมนัสจะนำไปบริจาคให้กับผู้ที่เดินทางไปร่วมไว้อาลัยที่สนามหลวงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทางด้านมิสเตอร์ฮัท หนุ่มเยอรมัน ซึ่งเป็นเขยยโสธร ที่ได้ออกเดินเท้ามุ่งหน้าไปสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่เช้าวันที่ 22 ต.ค.2559 พร้อมกับนำพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ห้อยคอมาด้วย ได้เดินทางเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว โดยระหว่างทางได้เกิดอาการปวดข้อเท้า และต้องพักปฐมพยาบาลเป็นระยะ แต่เจ้าตัว ได้ยืนยันที่จะเดินต่อ และจะไปให้ถึง เพื่อไปสักการะพระบรมศพ เพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และมีคนรักมากที่สุดในโลก
ที่จ.จันทบุรี นายณรงค์ พันธุ์อินทร อายุ 54 ปี ซึ่งพิการไร้ขา 2 ข้าง ตั้งใจจะใช้รถเข็นคนพิการเดินทางไปร่วมแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระบรมมหาราชวัง ได้ออกเดินทางจากถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยทั้งตลอดเส้นทางมีชาวบ้านคอยให้กำลังใจ นำอาหารและน้ำดื่มมามอบให้ ซึ่งนายณรงค์ตั้งใจว่าจะใช้รถเข็นเดินทางให้ได้วันละ 40 กิโลเมตร
ที่ถนนสายพหลโยธิน นครสวรรค์-กำแพงเพชร นายสมยศ ศรีปั้นพริ้ง อายุ 58 ปี อาชีพทำไร่อ้อย อยู่ที่จ.กำแพงเพชร ได้แต่งกายชุดดำ สะพายกระเป๋าเป้ด้านบนมีธงชาติไทย และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเขียนข้อความ เดิน กำแพงเพชร-กรุงเทพฯ ซึ่งนายสมยศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เดินเทิดพระเกียรติในหลวงมาแล้ว 5 ครั้ง ครั้งนี้ จะเดินไปสักการะพระบรมศพ โดยได้เริ่มเดินตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา จากองค์การบริหารส่วนตำบลอ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ที่อ.ละแม จ.ชุมพร นายไมเคิล แฮมมิล หนุ่มชาวออสซี่ ที่เดินเท้าจากอ.เกาะสมุย ได้เดินทางมาถึงอ.ละแม แล้ว โดยตลอดการเดินทาง มีชาวบ้านมาทักทาย และถ่ายรูปตลอดเส้นทาง
