xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯวอนหยุดคลิปทำร้ายกัน-ความเห็นต่างควรเก็บไว้ในใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 -"บิ๊กต๊อก" ประสานเอกอัครราชทูต 7 ประเทศ ตามจับแก๊งหมิ่นเบื้องสูง ยันมีชื่อ-ที่พักพิงในมือแล้ว 19 ราย ลั่นยอมไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำที่กระทบจิตใจคนไทย ผบ.ตร.เผยตั้งแต่ 13 ต.ค.พบแล้ว 12 ราย วอนประชาชนแจ้งตร.จับกุม อย่าใช้ความรุนแรงกับบุคคลเห็นต่าง นายกฯไม่สบายใจหลังเห็นคลิปคนทำร้ายกัน ฝากเห็นใครทำร้ายกันช่วยแจ้งตำรวจ-ทหาร จัดการ

วานนี้ (19 ต.ค.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตัวผู้กระทำผิด มาตรา 112 ว่า หลังจากครม.มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการฯ ดูแลเกี่ยวกับผู้ที่กระทำผิด ม.112 ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามไปถึงเอกอัครราชทูตประเทศนั้นๆประจำประเทศไทย จำนวน 7 ประเทศ มีประมาณ 19 ราย ที่มีการเคลื่อนไหว และกระทำผิดเพื่อแจ้งให้เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ทั้ง 7 ประเทศ ได้รับทราบ

ทั้งนี้ ตนส่งหนังสือเพื่อขอร้องให้เข้าใจถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศและในต่างประเทศควรเข้าใจประเทศไทย โดยเราไม่ได้ไปละเมิดอธิปไตยกฎหมายของประเทศนั้นๆ แต่ความเป็นมหามิตรย่อมเข้าใจความรู้สึกกันว่า ประเทศไทยอยู่ในความรู้สึกอะไร ณ ขณะนี้ พร้อมบอกที่อยู่ตำแหน่งที่พักของผู้กระทำผิดในประเทศนั้นๆ เรียบร้อย ถึงแม้ว่าประเทศนั้นๆไม่มีกฎหมายดูแลเรื่องพวกนี้ แต่ก็ควรจะกำกับดูแลไม่ให้สิ่งเหล่านี้มากระทบจิตใจของคนไทยและไม่ควรเกิดขึ้น ตนอยากจะใช้คำว่ามันมากเกินไป ที่จะทนเห็นสิ่งเหล่านี้ได้

"ผมได้เรียนพี่น้องประชาชนคนไทยไปแล้วว่าเราไม่สามารถไปละเมิดอธิปไตยพราะไม่มีกฎหมายดูแลเรื่องนี้แต่เราควรพูดกันให้เข้าใจเรื่องดังกล่าวและผมทำมาตลอด รวมทั้ง ได้ส่งหนังสือเป็นระยะผ่านกระทรวงต่างประเทศ โดยมี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นเลขานุการคณะกรรมการ ทำหน้าที่สรุปรวบรวมเอกสารจากหน่วยงานต่างๆเพื่อส่งให้เอกอัครราชทูตประจำประเทศนั้นๆ เป็นระยะ และทำสุดความสามารถมาตลอด" รมว.ยุติธรรม กล่าว

** เผยรู้ตัวแก๊งหมิ่นแล้ว 12 ราย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนบางพื้นที่ออกมาทะเลาะวิวาทเกี่ยวกับความเห็นต่างในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการและผู้บังคับการทุกจังหวัดเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อจะห้ามปรามประชาชนที่รักและเคารพในพระเจ้าอยู่หัว ไม่ให้ไปทำร้ายผู้อื่นที่เห็นต่าง เชื่อว่าเวลานี้ทุกคนต่างก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน ถ้ามีใครมาพูด หรือแสดงออกในลักษณะที่หมิ่นซึ่งหน้า ก็จะทำให้ไม่พอใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมืออย่าทะเลาะ หรือใช้ความรุนซึ่งกันและกัน ถ้าพบเห็นก็ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปชี้แจงด้วยเหตุผล แต่ถ้าพูดไม่ฟังก็ต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย

สำหรับการติดตามบุคคลที่โพสต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ได้สั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ติดตาม ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่าน เจ้าหน้าที่มีการจับกุมผู้ต้องหา ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไปแล้วกว่า 12 ราย ออกหมายจับไปแล้ว 8 ราย จับกุม 2 ราย และเตรียมแจ้งข้อหาอีก 2 ราย ส่วนคนที่โพสต์หมิ่นในต่างประเทศกำลังประสานติดตามตัว

**นายกฯไม่สบายใจคลิปคนทำร้ายกัน

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปการทำร้ายร่างกายผู้ที่โพสต์ข้อความไม่เหมาะสมในช่วงเวลาที่คนไทยกำลังโศกเศร้ากับการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า เราอยู่ในช่วงของการรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ แต่มีบุคคลบางส่วน อาจไปแสดงกิริยาที่ไปทำร้ายหัวใจคนไทยจนสร้างความไม่พอใจ และเป็นภาพที่ไม่งดงาม แต่ภาพที่คนโดยรอบเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านั้น ฏษณเข้าไปรุมทำร้าย ยิ่งเป็นภาพที่ไม่งดงาม ดูแล้วยิ่งเศร้าใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่ออกไปในวงกว้างถึงต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี จึงรู้สึกไม่สบายใจ ขอให้คนไทยตระหนักเรื่องนี้ให้มาก จึงขอฝากว่า ไม่ว่าใครจะรู้สึกอย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าเป็นความรู้สึกส่วนตัว ขอเก็บเอาในใจ อย่าไปแสดงออกโดยขัดความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งเป็นการทำร้ายหัวใจของเขา

"ใครที่พบเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเหล่านั้น ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับความมั่นคง ให้ดำเนินการตามกฎหมาย จะทำให้ดูเป็นประเทศที่มีอารยะ และขอความกรุณาประชาชนที่พบเห็นภาพเหล่านี้ อย่าได้ส่งต่อ เพราะจะทำให้ภาพเหล่านี้แพร่กระจายออกไป ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดี ซึ่งนายกฯ ไม่อยากให้ภาพของคนไทยที่ทำร้ายกัน เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าประเทศไทยเราทำไมถึงคิดกันแบบนี้ แต่จะทำให้ต่างชาติมองเราในแง่ที่ไม่ดีด้วย ขอร้องวิงวอนทุกฝ่ายอย่าพยายามสร้างความขัดแย้งในเวลานี้ อย่าดึงพระองค์ท่านเข้ามาในความขัดแย้งโดยเด็ดขาด เพราะเวลานี้เป็นเวลาที่เราต้องรวมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้มากที่สุด"

**ยันไม่มีการเผยแพร่"จุดเสี่ยง"

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลเผยแพร่จากองพันทหารม้าที่ 1 แจ้งจุดเสี่ยง 10-15 จุด ซึ่งมีการตรวจสอบกันแล้วว่า ไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีหน่วยงานทางด้านความมั่นคงที่ไหน แจ้งจุดเสี่ยงต่างๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน ช่วงเวลานี้เป็นช่วงอ่อนไหว จนรัฐบาลต้องตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เพื่อดูแลรับผิดชอบทุกเรื่อง ทั้งการบริหารราชการ และงานด้านความมั่นคง ดังนั้น ขอวิงวอนทุกฝ่ายข้อมูลที่แพร่อออกไปทางโซเชียลมีเดียไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง หากมีการส่งต่อออกไป ยิ่งจะทำให้ประชาชนตื่นเต้น ตกใจ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงปฏิบัติตามหน้าที่ตามปกติทุกจุด การที่มีการส่งต่อข้อมูลว่าจุดนั้นจุดนี้มีความเสี่ยงจะทำให้ประชาชนไม่ออกมาเดินถนน เศรษฐกิจก็จะหยุดไปหมด เพราะนั่นเป็นความประสงค์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ดังนั้นขอให้ติดตามข่าวสารจากภาครัฐเป็นหลัก

**ผบ.ทบ.ห่วงปัญหาไม่แต่งดำถูกต่อต้าน

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคสช. กล่าวว่าไม่เป็นห่วงเรื่องของมิจฉาชีพจะแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุในช่วงนี้ เพราะคงไม่มีใครใช้สถานการณ์แบบนี้ ซ้ำเติมคนไทยด้วยกันเอง แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้คือ ปัญหาการจราจร ซึ่งมอบหมายให้ กกล.รส.กองทัพภาคที่ 1 ตั้งกองอำนวยการร่วมที่สนามหลวงประสานงานกับตำรวจจัดระเบียบการจราจร โดย 2 วันที่ผ่านมา ทุกอย่างดีขึ้น แต่จำนวนประชาชนก็เข้ามาเพิ่มขึ้น รวมถึงการเข้ามาช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกของบรรดาจิตอาสา ที่เดินทางมาแจกสิ่งของให้ประชาชน เพราะมีเข้ามาจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ จึงอยากอยากฝากว่า ทุกคนมีหัวใจดวงเดียวกัน เพื่อมาแสดงความอาลัย และมาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่งบางครั้งการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ไม่ทั่วถึง ก็ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ ที่ต้องมองในมุมความสงบเรียบร้อย ปลอดภัย เป็นอันดับแรก รองลงมาคือ การจราจร อาจทำให้ประชาชนบางคนไม่พอใจ จึงอยากขอให้มองในภาพรวม และช่วยกัน

ส่วนการใช้มาตรการทางสังคม กดดันคนที่แต่งกายและแสดงออกไม่เหมาะสม ก็ยอมรับว่าเป็นห่วง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดไปแล้วว่า ทุกคนมีความจงรักภักดี มีความรัก และอาลัยอาวรณ์ แต่สภาพความพร้อมของทุกคนอาจไม่เท่ากัน จึงขอให้ทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกัน ขออย่าไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะประเทศชาติต้องการความสงบเรียบร้อย ไม่อยากให้จุดเล็กๆ เพียงจุดเดียว สร้างปมด่างให้เกิดขึ้นในช่วงนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น