ผู้จัดการรายวัน 360 - “แจ๊ค หม่า” พบ “สมคิด” หยอดคำหวาน ขอหนุนเอสเอ็มอีไทยลุยตลาดโลก พร้อมตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย ไทยส่ง “อุตตม - พิเชฐ” วางระบบอี-คอมเมิร์ซ เจ้าของอาลีบาบายินดีแบ่งปันความรู้ ย้ำไม่คิดทำธุรกิจ-ครอบงำไทย
วานนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.45 น. นายแจ๊ค หม่า (Mr.Jack Ma) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด เข้าเยี่ยมคารวะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยได้มีการหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาการค้าขายผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ โดยก่อนการหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาทักทาย นายแจ๊ค หม่า ก่อนจะเดินขึ้นไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ห้องประชุมชั้น 5 ตึกเดียวกัน
** ตั้งคณะทำงาน รบ.ไทย-อาลีบาบา
ภายหลังการหารือ นายสมคิด เปิดเผยว่า นายแจ๊ค หม่า ได้บอกความตั้งใจว่า ไม่ได้ต้องการมาทำธุรกิจในประเทศไทย แต่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับเรื่องดิจิทัลของเรา เหมือนที่เคยได้ช่วยรัฐบาลจีน และรัฐบาลของอีกหลายประเทศมาแล้ว โดยต้องการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 90% ของผู้ประกอบการในประเทศไทยทั้งหมดให้มีโอกาสค้าขายไปยังต่างประเทศ โดยทางอาลีบาบากรุ๊ปจะมาร่วมพัฒนาแพล็ตฟอร์มร่วมกันเพื่อให้รายย่อยค้าขายได้ นอกจากนี้ยังจะมาช่วยฝึกนักธุรกิจและเอสเอ็มอีของไทยเรื่องการค้าขายผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ รวมทั้งร่วมกับรัฐบาลและสถาบันการศึกษาช่วยสอนเรื่องอี-คอมเมิร์ซ โดยจะให้เกิดการตื่นตัวในเด็กรุ่นใหม่ เพื่อสร้างผู้ประกอบการใหม่หรือสตาร์ทอัพ ขายสินค้าให้กับคนทั่วโลก โดยจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการ มีแผนงาน 1 ปี นอกจากนี้นายแจ๊ค หม่า ยังกล่าวชื่นชมโครงการอี-เพย์เม้นท์ของไทย โดยระบุว่าในอนาคตการใช้เงินสดจะน้อยลง ความสะดวกสบายจากการใช้อี-คอมเมิร์ซจะมากขึ้น แนวทางการทำธุรกิจในอนาคตหนีไม่พ้นเรื่องอี-เพย์เม้นท์ ซึ่งนายแจ๊คหม่า ยินดีที่จะพัฒนาระบบอีเพย์เม้นท์ร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อไม่ให้ระบบมีข้อบกพร่อง โดยเฉพาะระบบป้องกันไม้ให้เกิดการฉ้อฉล
สำหรับคณะทำงานระหว่างรัฐบาลไทยกับทางอาลีบาบากรุ๊ปนั้น นายสมคิดเปิดเผยว่า จะส่ง นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (รมว.) และนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปเป็นตัวแทน
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายแจ็ค หม่า ได้เดินทางไปที่ที่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อพบปะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย และกล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Entrepreneurship and Inclusive Globalization” ด้วย
** ย้ำ “แจ็ค หม่า” ไม่ครอบงำธุรกิจไทย
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม ครม.ว่า นายสมคิดได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงความร่วมมือกับอาลีบาบากรุ๊ป โดยการเชื่อมโยงรูปแบบการค้าขายออนไลน์ของอาลีบาบาที่กระจายไปทั่วโลก กับรูปแบบการค้าขายออนไลน์ของไทยที่ยังอยู่ในวงจำกัด ทั้งนี้ นายแจ๊ค หม่า ยินดีสนับสนุนการฝึกอบรมเรื่องการค้าขายในตลาดออนไลน์ เพื่อสร้างผู้ประกอบการรายใหม่บนโลกออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งมาตรการรองรับ ป้องกัน การทุจริตหรือเล่ห์เหลี่ยมทางการค้าที่อาจเกิดขึ้นได้
"ประธานอาลีบาบากรุ๊ปเน้นย้ำว่า ไม่ได้ต้องการเข้ามาครอบงำธุรกิจของเมืองไทย แต่ต้องการมาช่วย เพราะเขาเติบโตมากเกินพอแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีก แต่อยากจะพาคนอื่นๆ ไปด้วย ซึ่งเห็นว่านายกรัฐมนตรีเคยพูดว่า เราจะก้าวไปด้วยกันและไม่ทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลัง ซึ่งเขาบอกว่าตรงใจ ก็เลยพยายามเข้ามามีส่วนร่วม ส่งเสริม สนับสนุน ให้กับประเทศของเรา" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.
วานนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.45 น. นายแจ๊ค หม่า (Mr.Jack Ma) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด เข้าเยี่ยมคารวะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยได้มีการหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาการค้าขายผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ โดยก่อนการหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้ามาทักทาย นายแจ๊ค หม่า ก่อนจะเดินขึ้นไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ห้องประชุมชั้น 5 ตึกเดียวกัน
** ตั้งคณะทำงาน รบ.ไทย-อาลีบาบา
ภายหลังการหารือ นายสมคิด เปิดเผยว่า นายแจ๊ค หม่า ได้บอกความตั้งใจว่า ไม่ได้ต้องการมาทำธุรกิจในประเทศไทย แต่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับเรื่องดิจิทัลของเรา เหมือนที่เคยได้ช่วยรัฐบาลจีน และรัฐบาลของอีกหลายประเทศมาแล้ว โดยต้องการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย หรือเอสเอ็มอี ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 90% ของผู้ประกอบการในประเทศไทยทั้งหมดให้มีโอกาสค้าขายไปยังต่างประเทศ โดยทางอาลีบาบากรุ๊ปจะมาร่วมพัฒนาแพล็ตฟอร์มร่วมกันเพื่อให้รายย่อยค้าขายได้ นอกจากนี้ยังจะมาช่วยฝึกนักธุรกิจและเอสเอ็มอีของไทยเรื่องการค้าขายผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ รวมทั้งร่วมกับรัฐบาลและสถาบันการศึกษาช่วยสอนเรื่องอี-คอมเมิร์ซ โดยจะให้เกิดการตื่นตัวในเด็กรุ่นใหม่ เพื่อสร้างผู้ประกอบการใหม่หรือสตาร์ทอัพ ขายสินค้าให้กับคนทั่วโลก โดยจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการ มีแผนงาน 1 ปี นอกจากนี้นายแจ๊ค หม่า ยังกล่าวชื่นชมโครงการอี-เพย์เม้นท์ของไทย โดยระบุว่าในอนาคตการใช้เงินสดจะน้อยลง ความสะดวกสบายจากการใช้อี-คอมเมิร์ซจะมากขึ้น แนวทางการทำธุรกิจในอนาคตหนีไม่พ้นเรื่องอี-เพย์เม้นท์ ซึ่งนายแจ๊คหม่า ยินดีที่จะพัฒนาระบบอีเพย์เม้นท์ร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อไม่ให้ระบบมีข้อบกพร่อง โดยเฉพาะระบบป้องกันไม้ให้เกิดการฉ้อฉล
สำหรับคณะทำงานระหว่างรัฐบาลไทยกับทางอาลีบาบากรุ๊ปนั้น นายสมคิดเปิดเผยว่า จะส่ง นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (รมว.) และนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปเป็นตัวแทน
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายแจ็ค หม่า ได้เดินทางไปที่ที่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อพบปะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย และกล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “Entrepreneurship and Inclusive Globalization” ด้วย
** ย้ำ “แจ็ค หม่า” ไม่ครอบงำธุรกิจไทย
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม ครม.ว่า นายสมคิดได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงความร่วมมือกับอาลีบาบากรุ๊ป โดยการเชื่อมโยงรูปแบบการค้าขายออนไลน์ของอาลีบาบาที่กระจายไปทั่วโลก กับรูปแบบการค้าขายออนไลน์ของไทยที่ยังอยู่ในวงจำกัด ทั้งนี้ นายแจ๊ค หม่า ยินดีสนับสนุนการฝึกอบรมเรื่องการค้าขายในตลาดออนไลน์ เพื่อสร้างผู้ประกอบการรายใหม่บนโลกออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งมาตรการรองรับ ป้องกัน การทุจริตหรือเล่ห์เหลี่ยมทางการค้าที่อาจเกิดขึ้นได้
"ประธานอาลีบาบากรุ๊ปเน้นย้ำว่า ไม่ได้ต้องการเข้ามาครอบงำธุรกิจของเมืองไทย แต่ต้องการมาช่วย เพราะเขาเติบโตมากเกินพอแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีก แต่อยากจะพาคนอื่นๆ ไปด้วย ซึ่งเห็นว่านายกรัฐมนตรีเคยพูดว่า เราจะก้าวไปด้วยกันและไม่ทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลัง ซึ่งเขาบอกว่าตรงใจ ก็เลยพยายามเข้ามามีส่วนร่วม ส่งเสริม สนับสนุน ให้กับประเทศของเรา" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.