วานนี้ (10ต.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวว่า ในวันนี้ (11ต.ค.) เวลา 08.00 น. ตน และ กรธ.จะเดินทางเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เพื่อส่งมอบร่างรธน. และการที่ให้กรธ.ไปร่วมด้วยนั้น เพราะกรธ.ทำงานทำมาด้วยกัน จะได้เป็นสักขีพยานร่วมกัน
ส่วนเรื่องความเรียบร้อยก่อนส่งร่างรธน.นั้น จะให้ที่ประชุมกรธ.พิจารณาร่วมกันอีกครั้ง (10ต.ค.) เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร และหากนายกฯ สงสัยคงถามผ่านทางนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯได้ ซึ่งการจะไปทำพิธีส่งมอบ เพราะรธน.เป็นของใหญ่ เดิมคิดว่าจะส่งทางไปรษณีย์ก็ดูกระไรอยู่ และคงไม่มีอะไรที่ไปขอความช่วยเหลือจากนายกฯแล้วหลังจากนี้ ต่อไปก็เป็นเรื่องที่กรธ.ต้องเร่งทำกฎหมายลูกให้เสร็จตามเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เคยระบุว่า การทำงานเหมือนอยู่บนเตาอั้งโล่ จะต้องไปปรึกษานายกฯ หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่าคงไปปรึกษาไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้มาทำด้วย เราก็ต้องจัดเวลาของเราเอง ตอนนี้ก็เริ่มทำงานวันเสาร์ อาทิตย์ เพิ่มขึ้น กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้การยกร่างให้เสร็จเร็วขึ้น เวลาพิจารณาในกรธ. จะได้เสร็จเร็วขึ้น โดยจะดูเฉพาะประเด็นสำคัญๆ ส่วนตัวรูปแบบ ก็คงจะไปทำให้เสร็จกันมาจากข้างนอก จะได้ไม่เปลืองเวลา
เมื่อถามว่า มีร่างกฎหมายลูกส่วนไหน ที่ต้องใช้เวลามาก นายมีชัย กล่าวว่า กฎหมายทุกตัว หากเราคิดจะปรับปรุงมันก็ต้องคิดวิธีใหม่ คิดอะไรใหม่ ตอนนี้ก็ตั้งเป้าไว้ก่อน 2 ฉบับ คือ กฎหมายลูกว่าด้วยกกต. และกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนจะเห็นความชัดเจนเมื่อใดนั้น เท่าที่ตั้งใจไว้ คือ วันรุ่งขึ้นหลังจากที่รธน.ฉบับใหม่ประกาศใช้ ก็จะส่งให้สนช. พิจารณาทันที
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าของการยกร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง นายมีชัย กล่าวว่า มีความคืบหน้าพอสมควร ขณะที่ข้อเสนอของกกต. ในร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ต่อประเด็นของการใช้ระบบไพรมารี่โหวต เพื่อหาตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องสิ้นเปลืองเงิน พรรคเล็กจะลำบาก เช่น หากมีพรรคที่มีสมาชิกพรรคในจังหวัดนั้นๆ ก็ต้องไปทำไพรมารี่โหวตในจังหวัดนั้น แต่ไม่ได้บังคับว่า จะต้องมีทุกจังหวัด เขาก็เลยไม่มีเสียเลย เขาจะได้ไม่ต้องทำไพรมารี่โหวต และอาจไม่ต้องมีสมาชิกพรรคเลยในจังหวัดนั้น ก็เท่ากับว่าไปตัดตรงนั้น แทนที่จะไปหาสมาชิกในจังหวัดนั้นๆ แต่กลับกลายเป็นภาระซึ่งจะอันตราย พรรคใหญ่ก็ไมได้เปรียบเพราะเงินจะไปจม หากต้องไปจัดไพรมารี่ในทุกเขต ก็ต้องใช้ในทุกเขต เช่น มี 350 เขต ก็ต้องไปจัดประชุมทั้ง 350 เขต
ทั้งนี้ ในเรื่องที่อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม เราจะใช้สาขาพรรคและตัวแทนพรรค กำลังมองว่าทำอย่างไรให้เขาประหยัดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็จะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งในความเป็นจริงคงเป็นไปไมได้ ที่จะให้ทุกคนมาร่วม เมื่อถามว่าแสดงว่าในการจัดประชุมของสาขาพรรคทุกเขตอาจจะมีรูปแบบอย่างอื่นมาแทน นายมีชัย กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังพิจารณาอยู่ เพราะเวลาคิดต้องคิดถึงหัวอกเขาหัวอกเรา แต่เราจะไปเรียกร้องให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะเป็นเรื่องลำบาก เพราะมีข้อจำกัดมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (11 ต.ค. ) นายมีชัย พร้อมกรธ. จะส่งร่างรธน.ฉบับสมบูรณ์ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 08.59 น. เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า รธน.ฉบับใหม่ อาจจะได้ใช้ในช่วงต้นเดือนพ.ย.ว่า คงไปตอบชี้ชัดอย่างนั้นไม่ได้ ซึ่งในวันนี้ กรธ.จะนำร่างรธน.มาส่งให้รัฐบาล โดยรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบความถูกต้องของร่างรธน.แล้ว เพียงแต่ขั้นตอนจากนี้จะนำมาเขียนในสมุดไทยเท่านั้น ซึ่งจะเขียนเสร็จเมื่อไร ก็ยังไม่รู้ แต่มีเวลา 30 วัน ซึ่งน่าจะนำความขึ้นทูลเกล้าฯ ระหว่างวันที่ 3-9 พ.ย. ต่อจากนั้นจะโปรดเกล้าฯ พระราชทานลงมาเมื่อไร รัฐบาลไม่สามารถไปกำหนดได้ พ้นจากขั้นตอนจากการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก็ไม่มีใครไปกำหนดวันแล้ว แต่เราก็พูดได้ว่า รธน.ฉบับใหม่ น่าจะบังคับใช้ในเดือนพ.ย.นี้
ส่วนเรื่องความเรียบร้อยก่อนส่งร่างรธน.นั้น จะให้ที่ประชุมกรธ.พิจารณาร่วมกันอีกครั้ง (10ต.ค.) เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร และหากนายกฯ สงสัยคงถามผ่านทางนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯได้ ซึ่งการจะไปทำพิธีส่งมอบ เพราะรธน.เป็นของใหญ่ เดิมคิดว่าจะส่งทางไปรษณีย์ก็ดูกระไรอยู่ และคงไม่มีอะไรที่ไปขอความช่วยเหลือจากนายกฯแล้วหลังจากนี้ ต่อไปก็เป็นเรื่องที่กรธ.ต้องเร่งทำกฎหมายลูกให้เสร็จตามเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เคยระบุว่า การทำงานเหมือนอยู่บนเตาอั้งโล่ จะต้องไปปรึกษานายกฯ หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่าคงไปปรึกษาไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้มาทำด้วย เราก็ต้องจัดเวลาของเราเอง ตอนนี้ก็เริ่มทำงานวันเสาร์ อาทิตย์ เพิ่มขึ้น กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้การยกร่างให้เสร็จเร็วขึ้น เวลาพิจารณาในกรธ. จะได้เสร็จเร็วขึ้น โดยจะดูเฉพาะประเด็นสำคัญๆ ส่วนตัวรูปแบบ ก็คงจะไปทำให้เสร็จกันมาจากข้างนอก จะได้ไม่เปลืองเวลา
เมื่อถามว่า มีร่างกฎหมายลูกส่วนไหน ที่ต้องใช้เวลามาก นายมีชัย กล่าวว่า กฎหมายทุกตัว หากเราคิดจะปรับปรุงมันก็ต้องคิดวิธีใหม่ คิดอะไรใหม่ ตอนนี้ก็ตั้งเป้าไว้ก่อน 2 ฉบับ คือ กฎหมายลูกว่าด้วยกกต. และกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ส่วนจะเห็นความชัดเจนเมื่อใดนั้น เท่าที่ตั้งใจไว้ คือ วันรุ่งขึ้นหลังจากที่รธน.ฉบับใหม่ประกาศใช้ ก็จะส่งให้สนช. พิจารณาทันที
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าของการยกร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง นายมีชัย กล่าวว่า มีความคืบหน้าพอสมควร ขณะที่ข้อเสนอของกกต. ในร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ต่อประเด็นของการใช้ระบบไพรมารี่โหวต เพื่อหาตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องสิ้นเปลืองเงิน พรรคเล็กจะลำบาก เช่น หากมีพรรคที่มีสมาชิกพรรคในจังหวัดนั้นๆ ก็ต้องไปทำไพรมารี่โหวตในจังหวัดนั้น แต่ไม่ได้บังคับว่า จะต้องมีทุกจังหวัด เขาก็เลยไม่มีเสียเลย เขาจะได้ไม่ต้องทำไพรมารี่โหวต และอาจไม่ต้องมีสมาชิกพรรคเลยในจังหวัดนั้น ก็เท่ากับว่าไปตัดตรงนั้น แทนที่จะไปหาสมาชิกในจังหวัดนั้นๆ แต่กลับกลายเป็นภาระซึ่งจะอันตราย พรรคใหญ่ก็ไมได้เปรียบเพราะเงินจะไปจม หากต้องไปจัดไพรมารี่ในทุกเขต ก็ต้องใช้ในทุกเขต เช่น มี 350 เขต ก็ต้องไปจัดประชุมทั้ง 350 เขต
ทั้งนี้ ในเรื่องที่อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม เราจะใช้สาขาพรรคและตัวแทนพรรค กำลังมองว่าทำอย่างไรให้เขาประหยัดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็จะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งในความเป็นจริงคงเป็นไปไมได้ ที่จะให้ทุกคนมาร่วม เมื่อถามว่าแสดงว่าในการจัดประชุมของสาขาพรรคทุกเขตอาจจะมีรูปแบบอย่างอื่นมาแทน นายมีชัย กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังพิจารณาอยู่ เพราะเวลาคิดต้องคิดถึงหัวอกเขาหัวอกเรา แต่เราจะไปเรียกร้องให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะเป็นเรื่องลำบาก เพราะมีข้อจำกัดมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (11 ต.ค. ) นายมีชัย พร้อมกรธ. จะส่งร่างรธน.ฉบับสมบูรณ์ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 08.59 น. เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า รธน.ฉบับใหม่ อาจจะได้ใช้ในช่วงต้นเดือนพ.ย.ว่า คงไปตอบชี้ชัดอย่างนั้นไม่ได้ ซึ่งในวันนี้ กรธ.จะนำร่างรธน.มาส่งให้รัฐบาล โดยรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบความถูกต้องของร่างรธน.แล้ว เพียงแต่ขั้นตอนจากนี้จะนำมาเขียนในสมุดไทยเท่านั้น ซึ่งจะเขียนเสร็จเมื่อไร ก็ยังไม่รู้ แต่มีเวลา 30 วัน ซึ่งน่าจะนำความขึ้นทูลเกล้าฯ ระหว่างวันที่ 3-9 พ.ย. ต่อจากนั้นจะโปรดเกล้าฯ พระราชทานลงมาเมื่อไร รัฐบาลไม่สามารถไปกำหนดได้ พ้นจากขั้นตอนจากการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก็ไม่มีใครไปกำหนดวันแล้ว แต่เราก็พูดได้ว่า รธน.ฉบับใหม่ น่าจะบังคับใช้ในเดือนพ.ย.นี้
