ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -วันนี้ สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงก็มาเยือนโรงแรมชื่อดังซึ่งมีประวัติอันยาวนานอย่าง “โรงแรมปาร์คนายเลิศ” เมื่อ “เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” ทายาทรุ่นที่ 4 ของโรงแรมเก่าแก่ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ แจ้งข่าวสำคัญให้รับทราบว่า โรงแรมซึ่งก่อตั้งโดย “ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ” คุณยายของเธอ จะหยุดดำเนินการตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นไป
และกลุ่มทุนที่จะเข้ามาบริหารจัดการต่อก็คือ กลุ่มบริษัทในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ในนาม บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS)
เป็น BDMS ที่มี นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของ รพ.กรุงเทพฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ทั้งนี้ กลุ่มของ นพ.ปราเสริฐเข้าซื้อที่ดินโครงการปาร์คนายเลิศ และที่ดินรวม 15 ไร่ผ่านตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 มูลค่ารวม 10,800 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ อาคาร Promenade และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ รวม 15 ไร่ บนถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกับ “นางสัณหพิศ สมบัติศิริ” แม่ของเล็ก-ณพาภรณ์ และ “นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ” พร้อมทั้งจะรับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประมาณไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 นี้ เพื่อพัฒนาโครงการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic
นั่นหมายความว่า นับจากนี้จะไม่มีโรงแรมปาร์คนายเลิศอีกต่อไป โดยจะเปลี่ยนเป็น ศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic ซึ่งกลุ่มของนพ.ปราเสริฐได้จัดตั้งบริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จำกัด มีทุนจดทะเบียน 6.4 พันล้านบาท เพื่อเข้าซื้อ และรับโอนที่ดิน ตลอดรวมถึงสิ่งปลูกสร้าง เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งใช้งบประมาณอีกราว 2,000 ล้านบาทเพื่อสร้างเป็นศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพแบบครบวงจรรายแรกในภูมิภาคเอเชีย
ที่น่าสนใจก็คือ การซื้อขายครั้งนี้ถือเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาแพงเป็นประวัติการณ์ โดยคิดเป็นมูลค่าสูงถึงตารางวาละ 1 ล้าน 8 แสนบาท
“ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” ทายาทรุ่นที่ 4 ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บอกเล่าความรู้สึกผ่านการสื่อสารกับพนักงานของโรงแรม เอาไว้ว่า....
“เล็ก ในฐานะกรรมการผู้จัดการ และลูกหลานของปาร์คนายเลิศ ขอเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้น คณะกรรมการผู้บริหารและครอบครัว แจ้งข่าวสำคัญให้พนักงานทุกคนทราบ
“...หลายๆ คนทำงานที่นี่มาตั้งแต่วันแรกที่โรงแรมเปิด มีโอกาสได้รู้จัก ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ซึ่งท่านเป็นผู้ก่อตั้งโรงแรมปาร์คนายเลิศแห่งนี้ หลายๆ คนทำงานในช่วงเวลาที่ “คุณพิไลพรรณ สมบัติศิริ” เป็นกรรมการผู้จัดการ หรือบางคนเพิ่งเข้ามาทำงานในช่วงหลัง แต่ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม ตลอด 36 ปี ของโรงแรมปาร์คนายเลิศ พวกเราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกัน ทั้งเรื่องทุกข์และสุข เรื่องง่ายแลยาก เราก็สามารถผ่านมาด้วยกันแล้วทุกครั้ง
“...แต่ทุกวันนี้สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมมีการแข่งขันสูงมาก โรงแรมใหม่ๆ เปิดตัวทั่วทุกมุมถนน คณะผู้บริหารทุกท่านต่างอดทนและทำงานหนัก เพื่อประคับประคองสถานการณ์ เพื่อความอยู่รอดของโรงแรมมาโดยตลอด แต่สุดท้ายทุกอย่างย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
“...วันนี้เล็กจึงขอเป็นตัวแทนแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบว่า เรามีความจำเป็นที่ต้องหยุดดำเนินกิจการโรงแรมปาร์คนายเลิศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นไป ซึ่งผู้บริหารจะรับผิดชอบค่าชดเชยตามอัตราที่กฎหมายกำหนด พร้อมโบนัสอีก 1 เดือน สำหรับพนักงานที่มีสิทธิได้รับโบนัสตามกฎของบริษัท และสินน้ำใจจากครอบครัวอีกจำนวนหนึ่งให้กับพนักงาน
“...นอกจากนั้น เรายังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัท Accor ซึ่งขณะนี้เป็นเจ้าของ Swissotel หรือ FRHI แล้ว ทางบริษัท Accor จะรับพิจารณาพนักงานที่สนใจเข้าสมัครงาน ณ โรงแรมในเครือ Accor ต่อไป หากมีคำถามหรือข้อสงสัย เล็กขอให้ติดต่อที่ฝ่ายบุคคลเพื่อข้อมูลที่ชัดเจนต่อไป
“...เล็กขอความร่วมมือจากทุกคนให้ช่วยกันทำงานในหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดจนวันสุดท้าย เล็กขอขอบคุณพนักงานทุกคนจากใจ ที่ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจมาโดยตลอด ถ้าไม่มีพวกเรา ปาร์คนายเลิศจะไม่สามารถยืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ และสุดท้ายเล็กขอฝากปาร์คนายเลิศให้อยู่ในหัวใจและความทรงจำที่ดีของทุกคนตลอดไป”
ทั้งนี้ กล่าวสำหรับเรื่องราวของธุรกิจในเครือปาร์คนายเลิศ มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ก่อตั้งโดย “พระยาภักดีนรเศรษฐ” หรือ “เลิศ เศรษฐบุตร” ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญและโรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ รวมทั้งเปิดบริการรถเมล์นายเลิศ หรือรถเมล์ขาว เมื่อปีพ.ศ. 2428 และเป็นญาติผู้พี่ของพระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร) และนายสวัสดิ์ เศรษฐบุตร (บิดาของสอ เสถบุตร)
ต่อมา “ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ” บุตรของพระยาภักดีนรเศรษฐ เข้ามาสานต่อกิจการ โดยเคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาล “นายธานินทร์ กรัยวิเชียร” เมื่อปี พ.ศ.2519 นับว่าเป็นรัฐมนตรีหญิงสองคนแรกของประเทศไทย โดย “ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ” สมรสกับ “นายพินิจ สมบัติศิริ” บุตรพระยาศรีเสนา (ศรีเสนา สมบัติศิริ) และคุณหญิงถวิล มีธิดา 2 คน คือ นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ และนางสัณหพิศ สมบัติศิริ ก่อนที่ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ จะถึงแก่อนิจกรรมเมื่อเช้าวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ด้วยโรคปอดอักเสบ ณ โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุรวม 91 ปี
ส่วนโรงแรมปาร์คนายเลิศเดิมเป็นบ้านของ พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) ที่สืบทอดมายังรุ่นลูกรุ่นหลาน มีลักษณะเป็นสวนสาธารณะในย่านธุรกิจชิดลม-เพลินจิต จากนั้นมีการก่อสร้างเป็นโรงแรม พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงมาหลายต่อหลายครั้ง ปัจจุบันมีนางพิไลพรรณ สมบัติศิริ เป็นประธานกรรมการ และตัวน้องเล็ก-ณพาภรณ์เป็นกรรมการผู้จัดการ
ในช่วงที่ณพาภรณ์รับหน้าที่นำพาโรงแรมแห่งนี้ ได้เคยให้สัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจ พร้อมประกาศที่จะสานต่อกิจการของตระกูลให้เจริญเติบโต
“เล็กได้เห็นการบริหารงานของบริษัทเมืองนอกมาเยอะ บริษัทใหญ่ ๆ และโรงแรมใหญ่ที่เขาเจริญเติบโตได้ไกล เล็กเชื่อว่าคนมองปาร์คนายเลิศเป็นแบบธุรกิจบ้าน ๆ เหมือนเจ้าของรวย ๆ มาทำกันเอง อยากมีที่นั่งกินกาแฟหรู ๆ (หัวเราะ) เป็นธุรกิจครอบครัว แต่จริง ๆ ไม่ใช่นะคะ เราเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 เข้ามาทำตรงนี้ โจทย์ของเล็กคืออะไร คืออยากทำให้ปาร์คนายเลิศเจริญเติบโต อยากให้ปาร์คนายเลิศอยู่คู่กับประเทศไทยไปนาน ๆ แล้วทำยังไง เราก็ต้องขยายขึ้นไปอีก เราต้องมีอะไรใหม่ ๆ ออกมา”
แต่แล้วด้วยการแข่งขันที่ดำเนินไปอย่างหนักหน่วง ทำให้โรงแรมปาร์คนายเลิศประสบภาวะขาดทุนและหนี้สินก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 2558 มีหนี้สินรวม 795.17 ล้านบาท มีผลขาดทุนสุทธิ 54.32 ล้านบาท กระทั่งสุดท้ายต้องตัดสินใจปิดตัวลงในปี 2560