พี่ช่วยอะไรไม่ได้ “บิ๊กตู่”ให้“บิ๊กติ๊ก”รับผิดชอบเอง เจ้าตัวเอ่ยขอโทษแต่ไม่รับผิด

ผู้จัดการรายวันน 360 - “บิ๊กตู่” เผย “บิ๊กติ๊ก” เอ่ยขอโทษ แต่ไม่รับว่าทำผิด แค่ไม่สมควรบางอย่าง ออกตัวรักน้อง แต่ช่วยอะไรไม่ได้ จวกสื่อชอบโยงเรื่องไร้สาระจนอารมณ์เสีย ด้าน “บิ๊กป้อม” อ้อมแอ้มปม “ลูกบิ๊กติ๊ก" ใช้ค่ายทหารตั้งบริษัท เชื่อแค่ทำงานเล็กน้อย คงไม่ได้ขึ้นป้ายใหญ่โต ด้าน "บิ๊กติ๊ก" มอบตำแหน่ง-หน้าที่ ให้"บิ๊กช้าง" ก่อนเกษียณ บอกจะกลับไปตัดหญ้า-เลี้ยงหลาน ชมรูป “คุณนายอู๊ด” ที่นักข่าวมอบให้ว่า “ผิวผ่องพรรณจริงๆ”

วานนี้ (27 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการตรวจสอบบริษัทบุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม กรณีชนะประมูลได้รับงานก่อสร้างของกองทัพภาคที่ 3 ว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตนจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวด้วย ถึงจะเป็นน้องชาย แต่ก็เป็นคนละคนกัน ส่วนเรื่องของบริษัทบุตรชาย พล.อ.ปรีชานั้นก็ให้ไปสอบมา ตนยังไม่รู้อะไรเลย

** รับ “น้องติ๊ก” เอ่ยขอโทษ

เมื่อถามว่าจะมั่นใจในการทำงานของ ป.ป.ช.ได้หรือไม่ เนื่องจาก พล.อ.ปรีชา เป็นถึงปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไม่เชื่อมั่นกระบวนการของรัฐเลยหรืออย่างไร หากไม่เชื่อก็ไปอยู่ที่อื่น เพราะกระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่

“เรื่องนี้พอแล้ว จะไม่ตอบแล้ว มาบอกว่าตนโมโห แต่คำถามแบบนี้ไร้สาระ ให้ไปถามกระบวนการที่ตรวจสอบ เขาสอบหมด บริษัทบ้าบอคอแตกอะไรนั่นอยากจะสอบอะไรก็สอบไปเถอะไป จะสอบครัว สอบส้วม ก็สอบไป จะมาโยงกับผมทำไม เขาก็รับผิดชอบของเขาเองสิ ไม่ใช่เออ ไอ้ห่า ตระกูลผมเสียหาย มันคนละเรื่องคนละคน แต่ถามว่าผมรักน้องไหม ผมก็รัก แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ผมช่วยเขาไม่ได้ และผมก็มาตะแบง ชี้แจงส่งเดชไม่ได้ ผมก็ไม่ตอบโต้ให้น้องผมทางสื่อ ไปว่าตามกระบวนการ หากผิดก็ผิด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่ารัฐบาลชุดนี้มีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริต แล้วจะสร้างความเชื่อมั่นในกรณีนี้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ทุกเรื่องหากเป็นคดีความก็ฟ้องมาและตรวจสอบตามกลไก พร้อมยอมรับว่าจากกรณีดังกล่าว พล.อ.ปรีชา ได้มาขอโทษ แต่ก็ไม่ได้เป็นการยอมรับว่าทำความผิด แต่ยอมรับว่าบางอย่างอาจไม่สมควรไปบ้าง แต่ก็ยืนยันว่าได้เตรียมหลักฐานอย่างเต็มที่ ซึ่งตนไม่รู้ว่ามีบริษัทมาหลายปี ส่วน นายปฐมพล จันทร์โอชา หลานตนนั้นก็โตแล้ว แต่เพิ่งมาเจอหน้ากันเมื่อไม่กี่ปี เพราะตนเป็นคนไม่ค่อยเจอกับครอบครัว แต่ความผูกพันธ์สายเลือดต้องมีอยู่แล้ว หากใครทำอะไรก็ต้องระวังและรับผิดชอบตัวเอง ซึ่ง พล.อ.ปรีชา ก็ไม่สามารถรับผิดชอบแทนตนได้

** “บิ๊กป้อม” ชี้ตั้ง บ.ในค่ายทหารไม่ได้

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างของบุตรชาย พล.อ.ปรีชา ตั้งอยู่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ว่า การจะนำบ้านพักของทหารมาจัดตั้งทำเป็นบริษัทนั้นขึ้นกับว่าไปทำอะไร ต้องดูรายละเอียด แต่การนำบ้านพักทหารไปทำธุรกิจนั้น อาจจะไม่ใช่ เพราะเขาอาจจะอยู่กับพ่อ จึงนำที่นั่นทำเป็นที่ทำงานเล็กๆ น้อยๆหรือไม่ และคงไม่มีบริษัทใดนำไปตั้งในค่ายทหารได้ คงไม่ขึ้นป้ายชื่อบริษัทใหญ่โตอะไรทำนองนั้น

** “บิ๊กติ๊ก” อำลาตำแหน่งปลัด กห.

วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ปรีชา ทำพิธีรับ - ส่งหน้าที่ และมอบการบังคับบัญชาปลัดกระทรวงกลาโหม ให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ที่จะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยภายหลังเสร็จพิธีผู้สื่อข่าวสายทหารได้มอบรูปที่ระลึกให้แก่พล.อ.ปรีชา ซึ่งเป็นรูปคู่กับ นางผ่องพรรณ ภรรยา ผู้สื่อข่าวกล่าวแซวว่า "รูปนี้ คุณผ่องพรรณสวย" พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า "ใช่ เพราะผิวพรรณผ่องจริงๆ" โดย พล.อ.ปรีชา ได้กล่าวลาและขอบคุณนักข่าวทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกันมาตลอดเวลา1 ปี ที่รับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้หลังเกษียณก็คงกลับบ้าน ไปเป็นคนสวนปลูกผัก ตัดหญ้า เลี้ยงหลาน

เมื่อถามว่าจะมาทำหน้าที่รัฐมนตรีหรือไม่พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า ไม่เคยคิดหวัง.