เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (19 ก.ย.) ที่ห้อง AUDITORIUM บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เป็นประธานการเสวนา "ธรรมาภิบาลกับรัฐวิสาหกิจไทย" โดยมีนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการ ปปท. ดร.ณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และเจ้าหน้าที่สมาพันธ์แรงงานวิสาหกิจสัมพันธ์ เข้าร่วมรับฟัง
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ได้รับเกียรติจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มาพูดคุยหารือกันเพื่อร่วมงานกับ ศอตช. เนื่องจากรัฐวิสาหกิจเป็นองค์กรที่สำคัญในเรื่องงบประมาณ รวมทั้งได้เชิญสมาชิกของสมาพันธ์แรงงาน มาร่วมประชุมด้วย และนับเป็นครั้งแรก ซึ่งปัญหาการทุจริตต้องอาศัยทุกภาคส่วนความพยายามขับเคลื่อน โดยเฉพาะภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ร่วมทำงาน พร้อมเน้นย้ำเรื่องการทุจริต สร้างระบบองค์กร แต่อย่าเอาไปผูกกับเรื่องการเมือง
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อทำความเข้าใจกัน ตนมาพูดถึงทิศทางวิธีการทำงานของ ศอตช. ว่ามีระเบียบอะไรบ้าง และมาขอความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้อาจจะเชิญผู้แทนของ สรส. เข้าเป็น 1 ในอนุกรรมการของศอตช. เนื่องจากตนไม่มีความชำนาญในด้านนี้ แต่ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะคณะกรรมการใหญ่เป็นระเบียบของสำนักนายกฯ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า สรส. จะสามารถช่วยตรวจสอบรัฐวิสาหกิจทุกภาคส่วนได้
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของข้าราชการล็อต 8 ที่พัวพันการทุจริตนั้น กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่องค์กรท้องถิ่นเกือบทั้งหมด โดยตนได้รับการประสานจากกระทรวงมหาดไทย และเคยใช้ มาตรา 44 เกี่ยวกับข้าราชการท้องถิ่น โดยกระทรวงมหาดไทย ต้องไปสอบสวนและรายงานมา ว่ามีรายชื่อใครบ้างในล็อต 8 ตอนแรกประมาณ 20-30 คน แต่ตอนนี้มีถึง 70-80 คน เป็นการสอบสวนจากกระทรวงมหาดไทย ก่อนรายงานเข้ามา ศอตช. ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ได้รับเกียรติจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มาพูดคุยหารือกันเพื่อร่วมงานกับ ศอตช. เนื่องจากรัฐวิสาหกิจเป็นองค์กรที่สำคัญในเรื่องงบประมาณ รวมทั้งได้เชิญสมาชิกของสมาพันธ์แรงงาน มาร่วมประชุมด้วย และนับเป็นครั้งแรก ซึ่งปัญหาการทุจริตต้องอาศัยทุกภาคส่วนความพยายามขับเคลื่อน โดยเฉพาะภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ร่วมทำงาน พร้อมเน้นย้ำเรื่องการทุจริต สร้างระบบองค์กร แต่อย่าเอาไปผูกกับเรื่องการเมือง
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อทำความเข้าใจกัน ตนมาพูดถึงทิศทางวิธีการทำงานของ ศอตช. ว่ามีระเบียบอะไรบ้าง และมาขอความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้อาจจะเชิญผู้แทนของ สรส. เข้าเป็น 1 ในอนุกรรมการของศอตช. เนื่องจากตนไม่มีความชำนาญในด้านนี้ แต่ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะคณะกรรมการใหญ่เป็นระเบียบของสำนักนายกฯ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า สรส. จะสามารถช่วยตรวจสอบรัฐวิสาหกิจทุกภาคส่วนได้
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของข้าราชการล็อต 8 ที่พัวพันการทุจริตนั้น กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่องค์กรท้องถิ่นเกือบทั้งหมด โดยตนได้รับการประสานจากกระทรวงมหาดไทย และเคยใช้ มาตรา 44 เกี่ยวกับข้าราชการท้องถิ่น โดยกระทรวงมหาดไทย ต้องไปสอบสวนและรายงานมา ว่ามีรายชื่อใครบ้างในล็อต 8 ตอนแรกประมาณ 20-30 คน แต่ตอนนี้มีถึง 70-80 คน เป็นการสอบสวนจากกระทรวงมหาดไทย ก่อนรายงานเข้ามา ศอตช. ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ